ใหม่! ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ วงแหวน-รามอินทรา (The Exclusive Wongwaen-Ramintra) ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น – บ้านแฝด Pre-Sale เริ่ม 1.99 ล้านบาท

Pre-Sale โครงการใหม่ “ดิ เอ็กซ์คลูซีฟ วงแหวน-รามอินทรา” (The Exclusive Wongwaen-Ramintra) ทาวน์โฮม 2-3 ชั้น – บ้านแฝดสไตล์โมเดิร์น สุขทุกพิกัด ด้วยคุณภาพชีวิตที่เหนือกว่า ด้วยคลับเฮ้าส์หรู มาพร้อมฟิตเนส, สระว่ายน้ำ และสวนสนุกขนาดใหญ่ ราคาเริ่มต้น 1.99 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ถนนคู้บอน แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กทม.

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

:: HOUSE TYPE ::

• โมเดิร์นทาวน์โฮม 2 ชั้น (3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ)

แปลนบ้านชั้น 1, แปลนบ้านชั้น 2

• โมเดิร์นทาวน์โฮม 3 ชั้น (3 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ)

แปลนบ้านชั้น 1, แปลนบ้านชั้น 2, แปลนบ้านชั้น 3

• บ้านแฝด (4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ)

แปลนบ้านชั้น 1, แปลนบ้านชั้น 2

:: GALLERY ::

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมที่นี่

Tel : 02-509-8899

Website : http://pal.co.th/

EP.300 รีวิว บ้านเดี่ยว โกลเด้น เพรสทีจ วัชรพล-สุขาภิบาล 5 Golden Prestige Watcharapol-Sukhapiban 5

สวัสดีค่า ผู้อ่าน Homenayoo ที่รักทุกคน วันนี้เราจะพาไปชมโครงการ Golden Presige วัชรพล-สุขาภิบาล 5 โครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น สไตล์โมเดิร์นลอฟท์ ติดถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งอยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ ทำให้เข้าออกเมืองได้สะดวก บริเวณรอบๆโครงการมีสิ่งอำนวยความสะดวกหลากหลาย ทั้ง Big C, Tesco Lotus ร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆในระยะเดินถึงสบายๆ

พร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกภายในโครงการประกอบด้วย สระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส พื้นที่สวนพักผ่อน และการรักษาความปลอดภัย 24 ชั่วโมง มีความเป็นส่วนตัวสูง ในสังคมบ้านเดี่ยว 161 หลังทั้งโครงการ โดยบ้าน 6 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ ราคาเริ่มต้น 8.9 ล้านบาท โครงการจะเป็นอย่างไร เราไปดูรายละเอียดกันเลยค่า

ที่ตั้งโครงการ

ถ.สุขาภิบาล 5 แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. 10220

พิกัด google map: 13.889274, 100.656802

ตัวโครงการ โกลเด้น เพรสทีจ วัชรพล-สุขาภิบาล 5 นั้นตั้งอยู่ติดถนนสุขาภิบาล 5 ตามชื่อเลยค่ะ เป็นถนนที่เชื่อมต่อออกไปได้หลายเส้นทาง มีซอยเล็กซอยน้อยให้ลัดเลาะเยอะ ถนนเส้นหลักที่อยู่ใกล้ๆจะมีถนนสายไหม รามอินทรา พหลโยธิน นอกจากนี้จุดเด่นสำคัญของโครงการคืออยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์และมอเตอร์เวย์ ทำให้เข้าเมืองออกเมืองได้สะดวกนั่นเอง

ซูมแผนที่เข้าไปอีกหน่อย จะเห็นว่าจากโครงการบนถนนสุขาภิบาล 5 จะอยู่ใกล้กับจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์เลยนะคะ จากแมพด้านบนจะเห็นว่าจากโครงการถ้าจะขึ้นทางด่วนเข้าเมืองก็ห่างแค่ 1.7 กิโลเมตร หรือระยะขับรถแค่ประมาณ 3 – 5 นาทีเท่านั้น ถือว่าสะดวกมากทีเดียว

สมมติอย่างเราจะเข้าเมืองไปทองหล่อเอกมัยนี่ขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ไปประมาณ 20 นาทีก็ถึงค่ะ ถือว่าสะดวกเลย แต่ต้องเข้าใจว่าถนนสุขาภิบาล 5 เป็นโซนชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ มีหมู่บ้านจัดสรรเยอะ ทำให้ปริมาณคนปริมาณรถเยอะ ตอนเช้าและเย็นเวลาคนเข้าโรงเรียนคนไปทำงาน กับเวลาเลิกงานหรือกลับจากโรงเรียนก็ต้องเผื่อเวลาบนท้องถนนกันไว้ด้วยนะคะ

อันนี้เริ่มจากโครงการ ถ้าจะขึ้นทางด่วนออกนอกเมืองไปโซนรังสิต – นครนายก จุดขึ้นทางด่วนขาออกเมืองก็จะมีระยะพอๆกันคือประมาณ 1.8 กิโลเมตร หรือระยะขับรถประมาณ 3 – 5 นาที เช่นกัน

โครงการโกลเด้น เพรสทีจ วัชรพล-สุขาภิบาล 5 ทางเข้าออกจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับ Big C สุขาภิบาล 5 ซึ่งก็จัดว่าเป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์โซนนึงเลยค่ะ เนื่องจากอยู่ใกล้ Big C ในระยะเดินถึงสบายๆ และเป็นโซนชุมชนบนถนนสุขาภิบาล 5 ที่มีร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกข้างทางเยอะพอสมควร

ห้างที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็จะเป็น Central รามอินทรา, Fashion Island และ The Promenade ที่อยู่บนถนนรามอินทรา ที่ค่อนข้างครบครันและสะดวก แล้วแต่ชอบว่าจะเดินห้างไหน สำหรับคนชอบทำอาหาร ก็มีตลาดสดออเงิน และ ตลาดวงศกร อยู่ใกล้ๆ ขับรถไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงค่ะ

วันนี้เรามีภาพการเดินทางจากรถมาให้ชมกันค่ะ เส้นทางการเดินทางตามลูกศรแดง โดยเริ่มเดินทางจาก ถนนสุขาภิบาล 5 → ตรงมาห้าแยกวัชรพล → ตรงมาประมาณ 2.8 กิโลเมตร → จะเจอโครงการ โกลเด้น เพรสทีจ วัชรพล-สุขาภิบาล 5 อยู่ทางขวามือแล้วค่ะ

เราเริ่มเดินทางจากถนนสุขาภิบาล 5 มุ่งหน้าไปห้าแยกวัชรพล

ห้าแยกวัชรพล เป็นแยกที่ถนนสุขาภิบาล 5 วิ่งมาเจอกับถนนวัชรพลนะคะ ที่จริงๆมันควรจะเป็นสี่แยก แต่ที่แยกนี้มันจะมีถนนวิ่งไปซอยร่วมมิตรพัฒนา ที่เต็มไปด้วยหมู่บ้านจัดสรรมากมายอยู่ด้วย เลยเรียกกันว่าห้าแยกวัชรพลนั่นเองค่ะ จากห้าแยกนี้เราก็ตรงผ่านไปบนถนนสุขาภิบาล 5 ต่อไปนะคะ

ถนนสุขาภิบาล 5 เป็นถนน สี่เลน แบ่งรถวิ่งเข้าออกเมืองฝั่งละสองเลน ตรงมาจะเห็นปั๊มบางจากอยู่ทางซ้ายมือ และโชว์รูมโตโยต้าอยู่ทางขวามือค่ะ เราตรงไปเรื่อยๆเลยค่ะ

ตรงไปแล้วขึ้นสะพานข้ามแยกไปค่ะ ถ้าเราไม่ขึ้นสะพานแล้วเลี้ยวซ้ายนี่จะเป็นถนนรัตนโกสินทร์สมโภช ซึ่งเป็นถนนที่วิ่งไปออกถนนใหญ่พหลโยธินได้นั่นเอง

ลงสะพานมาเราก็ตรงต่อไปตามทางนะคะ

เราจะเห็นปั๊ม Esso อยู่ทางฝั่งขวามือ ด้านในจะมี Tesco Lotus Express อยู่ด้วย

ต่อไปเราตรงขึ้นสะพานข้ามแยกอีกครั้งเพื่อไปโครงการค่ะ ถ้าตรงนี้เราไม่ขึ้นสะพาน แต่ชิดซ้ายตรงไปก็จะเป็นจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์นั่นเองค่ะ ที่ทางขึ้นสะพานข้ามแยก ฝั่งขวามือเราจะเห็นป้ายโครงการโกลเด้นทาวน์ ที่ตั้งอยู่ติดกันกับโครงการ โกลเด้น เพรสทีจ วัชรพล-สุขาภิบาล 5 ที่เราจะมากันวันนี้แล้วค่ะ

ลงสะพานไปนี่ก็ใกล้ถึงโครงการ โกลเด้น เพรสทีจ วัชรพล-สุขาภิบาล 5 แล้วค่ะ

ลงมาจากสะพานยกระดับ ตรงมานิดเดียวก็จะเจอป้ายบอกทางเข้าโครงการ โกลเด้น เพรสทีจ วัชรพล-สุขาภิบาล 5 อยู่ทางขวามือแล้ว ตรงข้ามเยื้องๆกับทางเข้าโครงการ จะเป็น Big C สุขาภิบาล 5 ค่ะ ถือเป็นห้างและแหล่งความสะดวกที่อยู่ใกล้โครงการมากที่สุด และช่วยเพิ่มความอุดมสมบูรณ์ให้กับโครงการมากทีเดียว

นอกจากนี้รอบๆก่อนทางเข้าโครงการก็มีร้านอาหารและสิ่งอำนวยความสะดวกหลายอย่างนะคะ จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

เริ่มจากพาเข้ามาในลานจอดรถ Big C Market ก่อน ก็เป็นซุปเปอร์มาร์เก็ตที่อยู่ใกล้โครงการที่สุด และเป็นที่นิยมของคนในย่านนี้นะคะ

ภายใน Big C นอกจากจะมี Big C Market แล้ว ภายในยังมีลักษณะเป็นตลาดนัดเล็กๆคือมีแผงขายอาหาร ขนม ต้นไม้ กิ๊ฟช็อปเล็กๆน้อยๆเป็นแถวยาวให้เลือกซื้อกันอีกด้วย นอกจากนี้ก็มีธนาคารและร้านอาหารยอดนิยมให้เลือกหลายเจ้า อย่างธนาคารนี่ก็มีทั้งธนาคารไทยพาณิชย์, ธนาคารกสิกรไทย, ธนาคารกรุงเทพ, ธนาคารธนชาติ

ร้านอาหารแนวครอบครัวอย่าง MK ก็มีค่ะ

มี McDonalds แบบ Drive-Thru ที่เปิด 24 ชั่วโมงอยู่ด้วย

ออกมานอก Big C มองไปที่ถนนฝั่งตรงข้าม(ซึ่งก็คือถนนฝั่งเดียวกับโครงการโกลเด้น เพรสทีจ วัชรพล-สุขาภิบาล 5 นั่นเอง) จะเห็นร้านอาหารเต็มเลยค่ะ แถมยังมีร้านขายกาแฟสด และร้านขนมอีกหลายร้านด้วย

มีร้านก๋วยเตี๋ยวเรืออยู่หลายร้าน

มีร้านทำผม ทำเล็บ, และก็มีร้านเค้กบ้านสวนอยู่ด้วยค่ะ

จากหน้า Big C มองไปฝั่งทางเข้าโครงการจะเห็นว่าอยู่ใกล้ๆกันเลยแบบนี้

ตรงข้ามทางเข้าโครงการจะมีทางขึ้นรถเมล์อยู่ แต่ไม่มีรถเมล์ผ่านมาให้เห็นและเสิร์ชหาไม่เจอนะคะว่าเป็นสายไหน ถ้ามีคนในพื้นที่ที่พอทราบมาแชร์ข้อมูลกันจะเป็นประโยชน์มากเลยค่ะ นอกจากนี้ก็เห็นแท้กซี่ผ่านไปผ่านมาค่อนข้างเยอะค่ะ

จากอีกฝั่งถนนมองไปทางฝั่งซ้ายมือของทางเข้าโครงการ โกลเด้น เพรสทีจ วัชรพล-สุขาภิบาล 5 จะเป็นที่ดินว่างเปล่าแบบนี้ ก็ต้องมารอลุ้นกันนะคะว่าต่อไปที่ดินเปล่าติดถนนสุขาภิบาล 5 นี้จะกลายเป็นอะไร

จากฝั่งตรงข้ามโครงการ มองไปทางขวาจะเป็นทางไปจุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ จะเห็นว่าจากป้ายโครงการ Golden Prestige วัชรพล-สุขาภิบาล 5 และ Golden Town ที่อยู่ติดกันนั้นไปยังป้ายสีน้ำเงินบอกทางไปขึ้นทางด่วนนั้นอยู่ใกล้ๆกันแบบนี้เลยค่ะ เนื่องจากจากหน้าโครงการขับไปแค่ประมาณ 3 นาทีก็ถึงทางด่วนแล้ว โดยตัวโครงการจะอยู่บนถนนฝั่งที่มุ่งหน้าไปขึ้นทางด่วน หรือฝั่งที่มุ่งหน้าเข้าเมืองอยู่แล้วด้วย

สถานที่สำคัญใกล้โครงการ

• Big C Market 100 ม.
• ตลาดออเงิน 2.7 กม.
• ตลาดวงศกร 5.3 กม.
• ตลาดยิ่งเจริญ 8.4 กม.
• Big C สายไหม 6.1 กม.
• Central รามอินทรา 10 กม.
• โรงเรียนนายเรืออากาศ 8.6 กม.
• โรงพยาบาลสายไหม 5.6 กม.
• โรงเรียนสารสาสน์วิเทศน์สายไหม 4 กม.
• โรงพยาบาลภูมิพลอดุยเดช 9.6 กม.

ตัวโครงการ

จากถนนสุขาภิบาล 5 จะเป็นถนนภาระจำยอมเข้ามาประมาณ 360 เมตร จะเป็นซุ้มโครงการ Golden Prestige วัชรพล-สุขาภิบาล 5 และโครงการ Golden Town วัชรพล – สุขาภิบาล 5 ที่อยู่ติดกันและใช้ถนนภาระจำยอมร่วมกันนะคะ

รอบๆโครงการ Golden Prestige วัชรพล-สุขาภิบาล 5 นอกจากทิศเหนือที่อยู่ติดกับโครงการGolden Town วัชรพล – สุขาภิบาล 5 ที่เป็นโครงการทาวน์โฮมสูง 2 ชั้นแล้ว รอบๆที่ดินโครงการจะเป็นอาคารที่พักอาศัยแนวราบ (บ้าน 1 – 2 ชั้น)และที่ดินเปล่าซะเป็นส่วนใหญ่ค่ะ

จากในภาพจะเห็นว่ามี Big C Market ที่ด้านในมีทั้งธนาคารและร้านอาหารมากมาย และกลุ่มร้านค้าร้านอาหารอยู่ใกล้โครงการในรัศมี ประมาณ 600 เมตรจากซุ้มโครงการด้านใน ถือว่าเป็นโซนที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงนะคะ เดินออกมาหาอะไรกินกันได้สบายๆ

จากด้านหน้าทางเข้าโครงการที่ติดถนนสุขาภิบาล 5 จะเห็นว่าจากป้ายโครงการ Golden Prestige วัชรพล-สุขาภิบาล 5 และ Golden Town จะอยู่ติดกันแบบนี้เลยค่ะ โดยตัวโครงการจะอยู่บนถนนฝั่งที่มุ่งหน้าไปขึ้นทางด่วน หรือฝั่งที่มุ่งหน้าเข้าเมือง ด้านหน้ามีทำเกาะเพื่อแยกฝั่งรถเข้าออกไปในตัว (เข้าโครงการฝั่งซ้าย ออกโครงการฝั่งขวา)

ถนนภาระจำยอมของโครงการเป็นถนนสองเลนมีทางเดินเท้าทั้งสองฝั่ง และปลูกต้นไม้ทั้งไม้ยืนต้นและรั้วไม้พุ่มเอาไว้เป็นแนวดูเรียบร้อยดี

จากถนนสุขาภิบาล 5 เข้ามาประมาณ 360 เมตร จะเจอวงเวียนและซุ้มทางเข้าโครงการทั้ง 2 โครงการแบบนี้

วันนี้เราพามาสำรวจโครงการบ้านเดี่ยว 3 ชั้น Golden Prestige วัชรพล-สุขาภิบาล 5 ตัวซุ้มทางเข้าโครงการก็จะอยู่ทางฝั่งขวามือของเรานั่นเอง

ทางเข้าโครงการ Golden Prestige วัชรพล-สุขาภิบาล 5 เป็นซุ้มขนาดใหญ่สีน้ำตาล แต่งด้วยทรงกรอบสี่เหลี่ยมสีทองและสีเงิน สังเกตว่าที่ซุ้มโครงการทำทางเท้าสำหรับคนเดินเข้าออกมาให้ด้วยทั้งสองฝั่ง โดยปูสนามหญ้ามาให้

ที่ซุ้มจะมีหลังคาใช้กันแดดกันฝนได้ และมีป้อมรปภ.ในอนาคตก็จะมี Access Card แบบระยะใกล้, กล้อง CCTV หน้าโครงการเพื่อส่องทะเบียนรถและส่องหน้าคนขับ สำหรับคนนอกเข้าออกต้องแลกบัตรกับรปภ.ค่ะ พื้นถนนส่วนซุ้มโครงการเป็นคอนกรีตสแตมป์

เข้ามาด้านในโครงการจะเจอถนนส่วนทางเข้าออกของโครงการกว้าง 18 เมตร

ถนนหลักโครงการกว้าง 12 เมตร เป็นถนนคอนกรีตค่ะ

ถนนในซอยกว้าง 8 เมตร

เข้ามาจะเจอสวนสาธารณะและ Clubhouse อยู่ส่วนด้านหน้าของโครงการ

ภาพมุมสูงค่ะ โครงการจะมีพื้นที่สวนประมาณ 2 ไร่ และส่วน Clubhouse ของโครงการก็จะมีสระว่ายน้ำและห้องฟิตเนส โดยปัจจุบันพื้นที่ส่วนห้องฟิตเนสภายใน Clubhouse จะเป็นส่วนของสำนักงานขายของโครงการอยู่ค่ะ

เรามาดูส่วนสระว่ายน้ำกันต่อ สระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้ง รอบๆไม่มีรั้วหรือพุ่มไม้สูงช่วยบังสายตาทำให้มีความเป็นส่วนตัวค่อนข้างน้อย แต่ตัวสระถูกยกระดับขึ้นมาจากถนนนิดนึง เพื่อไม่ให้คนที่อยู่ด้านล่างมองเห็น ทำให้มีความส่วนตัวอยู่ในระดับนึงค่ะ ก็เป็นการออกแบบเพื่อให้คนที่อยู่บนคลับเฮาส์ ได้วิวที่เปิดโล่ง ไม่มีอะไรมาบัง ไม่มีต้นไม้ใหญ่มาเกะกะสายตานั่นเอง

ก่อนลงสระจะมีบ่อสำหรับล้างเท้าอยู่

พื้นที่ข้างสระปูพื้นไม้สำเร็จให้อารมณ์แบบรีสอร์ท พร้อมวางที่นั่งข้างสระมาให้หลายจุด

มีม้านั่งไม้นั่งได้ 3 – 4 คนแบบนี้มาให้ 2 ตัว

มีชุดโซฟาหวายเทียม 3 ตัว พร้อมโต๊ะกลางมาให้ 1 ชุด

มีเก้าอี้เอนนอนข้างสระมาให้ 4 ตัว พร้อมโต๊ะข้างไว้วางของ

สระว่ายน้ำเป็นสระกลางแจ้งระบบคลอรีน ขนาด 9×15 เมตร

สระลึก 1.2 เมตร สระว่ายน้ำมีการแยกส่วนสระเด็กเอาไว้ลึก 60 เซนติเมตร และมีทางลงสระทำเป็นขั้นบันไดเอาไว้ให้เรียบร้อย

ข้างสระน้ำจะมีจุดล้างตัว เป็นฝักบัวแบบ Rain Shower เตรียมไว้ให้ 2 จุด

สวนด้านข้างของอาคารสโมสร จะมีสนามเด็กเล่นกลางแจ้ง ที่อยู่บนพื้นหญ้าซึ่งอันนี้ดีนะคะ เวลาเด็กๆเล่นแล้วล้มก็ไม่เจ็บมากเหมือนพื้นคอนกรีต

ในสนามเด็กเล่นจะมีชิงช้า 2 ที่นั่ง เครื่องเล่นสไลเดอร์ผสมราวโหน และม้าโยก 3 ตัว

Clubhouse ส่วน Open Air หรือแบบผนังเปิด ก่อนประตูทางเข้าไปห้องฟิตเนส(หรือสำนักงานขายในปัจจุบัน) จะมีชุดโซฟาแบบ 2 – 3 ที่นั่ง มาให้ 2 ชุด

ภายในห้องฟิตเนสปัจจุบันจัดเป็นสำนักงานขายของโครงการ จะมีเคาน์เตอร์เจ้าหน้าที่ฝ่ายขายและที่นั่งรับรองลูกค้าอยู่แบบนี้

บ้านตัวอย่างมีให้ดูครบ 3 แบบที่ขายค่ะ คือแบบ แมนแฮตตัน, นิวยอร์ก, ชิคาโก

แบบบ้าน

โครงการมีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ ขนาดพื้นที่ใช้สอย ตั้งแต่ 228 – 297 ตร.ม. เนื้อที่บ้านตั้งแต่ 50.4 – 58.5 ตร.ว. โดยมีขนาดไล่จากใหญ่ไปเล็กดังนี้ค่ะ

แบบบ้าน แมนแฮตตัน

พื้นที่ใช้สอยรวม 297 ตร.ม.
– 6 ห้องนอน / 7 ห้องน้ำ
– 1 ห้องพักผ่อน
– 1 ห้องแม่บ้าน
– 4 ที่จอดรถ

ผังชั้น 1 ของบ้าน แมนแฮตตัน ค่ะ เนื่องจากที่ดินเป็นที่ดินหน้ากว้าง ทำให้ตัวบ้านจอดรถได้ 4 คัน ถึงแม้ขนาดที่ดินจะไม่ได้ใหญ่มาก โดยจะจอดในร่มได้ 2 คัน และจอดกลางแจ้งอีก 2 คันซ้อนกันที่ด้านข้างของตัวบ้าน อาจจะต้องจัดลำดับการถอยรถเข้าออกกันดีๆหน่อย แต่ก็ถือว่ามากกว่าบ้านทั่วไปบนพื้นที่ขนาดนี้ที่จอดได้แค่ 3 คัน

ทางเข้าบ้านจะมี 2 จุด คือ เข้าได้จากลานจอดรถ และจากส่วนเฉลียงหน้าบ้านที่เป็นห้องรับแขก ถัดไปเป็นส่วนรับประทานอาหารที่วางเอาไว้กลางบ้าน แล้วแบ่งซ้าย-ขวา ออกไปเป็นห้องนอนชั้น 1 กับห้องครัว, ห้องนอนที่อยู่ชั้น 1 สำหรับหลังใหญ่สุดนี้จะมีห้องน้ำในตัวเลย แล้วห้องรับแขกก็จะมีห้องน้ำแบบ Powder Room แยกไว้ให้ด้วย ส่วนครัวจะอยู่ติดกับลานซักล้างหลังบ้าน โดยที่นี่จะมีแต่ครัวไทยนะครับ พอออกมาที่ลานซักล้างจะเจอกับห้องนอน+ห้องน้ำแม่บ้านที่มีทางเข้าอยู่ทางด้านหลังแยกต่างหาก

ผังชั้น 2 จะแบ่งออกเป็นสองส่วนหลักๆ คือ ครึ่งซ้ายฝั่งหน้าบ้านจะเป็นส่วนของ Living Area ส่วนฝั่งหลังบ้านจะเป็นห้องนอนเล็ก ที่มีห้องน้ำในตัว, ส่วนครึ่งขวาทั้งแถบ จะเป็นห้อง Master Bedroom ที่จริงๆแล้วกินพื้นที่เกินครึ่งของชั้นสองไปแล้ว ภายในห้อง Master Bedroom จะมีห้องน้ำในตัว, มีพื้นที่สำหรับห้องแต่งตัว (Walk-in Closet) และ Studio เล็กๆ สำหรับนั่งทำงาน หรือเป็นพื้นที่เอนกประสงค์ เป็นห้องที่สร้างพื้นที่ส่วนตัวได้ดีเหมาะสำหรับเจ้าของห้องที่เป็นคู่แต่งงานค่ะ

ผังชั้น 3 จะเป็นห้องนอนทั้ง 3 ห้อง ที่มีห้องน้ำในตัวทุกห้อง วางเตียงคู่และตู้เสื้อผ้าได้ อยู่กันคนละมุมของบ้าน

แบบบ้าน นิวยอร์ก

พื้นที่ใช้สอยรวม 271 ตร.ม.
– 6 ห้องนอน / 5 ห้องน้ำ
– 1 ห้องพักผ่อน
– 1 ห้องแม่บ้าน
– 4 ที่จอดรถ

ผังชั้น 1 ของบ้านแบบ NewYork ชั้นล่างจะมีห้องนอนเพิ่มมาจากแบบ Chicago ที่เล็กสุด แต่ห้องนอนชั้นล่างจะไม่มีห้องน้ำในตัว ไม่เหมือน Manhattan หลังใหญ่ และพื้นที่ลานซักล้างจะเล็กกว่าแบบ Manhattan เนื่องจากพื้นที่ใช้สอยน้อยกว่าค่ะ

ผังชั้น 2 จำนวนห้องนอนของบ้านแบบ NewYork หรือบ้านหลังกลาง จะเท่ากับบ้านหลังใหญ่แบบManhattan คือมี 6 ห้องนอน แต่พื้นที่ใช้สอยจะน้อยกว่า อย่างพื้นที่ Master Bedroom ในบ้านหลังกลางจะไม่มีพื้นที่ Studio ทำงานที่อยู่ในห้องนอนใหญ่, ห้องนอนเล็กที่ชั้นสองก็จะไม่ได้มีห้องน้ำในตัว ห้องน้ำจะอยู่ด้านนอกแทน,​ ขนาดของ Family Area ก็จะเล็กกว่าบ้าน Manhattan ด้วย

ผังชั้น 3 มี 3 ห้องนอน 2 ห้องน้ำ ห้องนอนทุกห้องมีพื้นที่ใช้สอยได้ครบค่ะ ข้อสังเกตอีกอย่างของบ้านหลังกลางที่ดีขึ้นจากหลังเล็กคือ การจัดวางเฟอร์นิเจอร์ และตำแหน่งของฟังก์ชั่นต่างๆภายในห้อง ทำได้ดีกว่าบ้านหลังเล็กสุด อย่างเช่นโถงบันไดทื่กว้างขึ้น ก็จะไม่มีขั้นบันไดสามเหลี่ยม ส่วนหลังเล็กจะเป็นอย่างไรนั้น เราไปดูบ้านตัวอย่างกันเลยค่ะ

บ้านตัวอย่าง

วัสดุที่ใช้ในบ้านทั้งสามแบบรวมทั้งรูปแบบการก่อสร้าง ดีไซน์ จะเหมือนๆกันนะคะ ก็คือหลักๆจะต่างกันที่ขนาดพื้นที่ใช้สอยนั่นเอง บ้านตัวอย่างที่เราจะพาไปสำรวจกันคือแบบบ้าน ชิคาโก เป็นบ้าน 3 ชั้น ขนาดพื้นที่ใช้สอยรวม 228 ตร.ม. 5 ห้องนอน, 4 ห้องน้ำ 1 ห้องพักผ่อน 4 ที่จอดรถค่ะ

หน้าตาของบ้านเป็นแบบนี้ค่ะ จริงๆหน้าตาบ้านทั้ง 3 แบบในโครงการจะคล้ายๆกันนะคะดูจากภายนอก ก็เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น ใช้สีขาวเป็นหลัก แต่งสีด้วยสีโทนเอิร์ธโทน ชั้นบนมีระแนงและเสาตกแต่งที่ช่วยเพิ่มมิติให้ตัวบ้าน ประตูและหน้าต่างเป็นกระจกเขียวตัดแสง กรอบบานเป็น UPVC สีดำ โครงสร้างบ้านเป็นเสาคาน ผนังก่ออิฐ ฉาบปูน เหมือนกันทุกหลัง

เริ่มกันจากผังชั้น 1 กันก่อนนะคะ จัดออกมาเป็นที่จอดรถ 4 คัน เหมือนกับบ้านหลังอื่นๆ ซึ่งถ้าเทียบกับขนาดที่ดินของบ้านที่เริ่มต้นที่ 50 ตารางวา ก็ถือว่าได้ที่จอดเยอะพอสมควรค่ะ หลายๆโครงการยังจอดได้แค่ 2-3 คันอยู่เลย และจำนวนรถก็น่าจะ Match กับจำนวนสมาชิกในบ้านด้วย เพราะบ้านมีถึง 5-6 ห้องนอนด้วยกัน ตัวบ้านจะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ

ประตูรั้วบ้านเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำแบบบานเลื่อนกว้างๆ แบบสองบานมาให้

ที่กำแพงใกล้ประตูรั้วทางเดินเข้าจะมีโคมไฟติดที่หัวเสาสำหรับตอนกลางคืนและกริ่งเรียกติดมาให้ และรั้วด้านหน้าบ้านปลูกไม้พุ่มมาเป็นแนวกำแพงเพิ่มความส่วนตัวให้ภายในบ้านและเพิ่มความร่มรืนสบายตาให้กับมุมมองจากนอกบ้าน มีตู้จดหมายพร้อมเลขที่บ้านมาให้

กำแพงรั้วบ้านสูง 1.5 m. เจาะช่องเก็บขยะจากภายนอกบ้านมาให้ ข้อดีคือเราสามารถทิ้งขยะจากภายในรั้วบ้านได้โดยไม่ต้องออกมานอกบ้านแบบนี้

ส่วนลานจอดรถใต้อาคารหน้ากว้างประมาณ 6 เมตร จอดรถได้ 2 คัน มีหลังคากันแดดกันฝนให้รถ ฝ้าเพดานลานจอดรถติดโคมซาลาเปามาให้ได้ตามที่เห็น พื้นเป็นลานคอนกรีตฉาบเรียบ แยกโครงสร้างกับตัวบ้านเพื่อกันทรุดมาให้เรียบร้อยและโรยด้วยหินแม่น้ำตกแต่งมาให้

ทางเข้าส่วนลานจอดรถ มีพื้นยกระดับขึ้น 1 สเต็ปเพื่อกันฝุ่นและสะดวกล้างทำความสะอาดพื้น ประตูลานจอดรถเป็นบาน HDF สีขาว มือจับแบบก้านโยกสแตนเลส ผนังใกล้ประตูมีเต้าเสียบปลั๊กไฟฟ้าพร้อมฝาครอบกันน้ำมาให้

ที่จอดรถด้านข้างบ้านอยู่นอกชายคา ซ้อนกันได้อีก 2 คัน ความยาวเพียงพอที่จะให้รถกระบะ กับรถขนาดกลาง ทั่วไปรวม 2 คัน จอดซ้อนกันได้ หรือจะจัดเป็นสวนข้างบ้านก็ได้นะคะ

ด้านหน้าบ้านส่วนหน้าเฉลียงก็มีพื้นที่พอให้ปลูกต้นไม้และจัดสวนได้แบบนี้

ข้างบ้านมีพื้นที่สวนกว้างพอสมควร บ้านเปล่าหลังนี้ทำเฉลียงไว้นั่งเล่นมาให้ดูเป็นไอเดียด้วย

ที่เฉลียงมีที่นั่งมาให้ดูระยะใช้งานแบบนี้

ส่วนทางเข้าหลักที่เฉลียงหน้าบ้าน มีบันไดทางขึ้น 1 ขั้นไปยังพื้นเฉลียงซึ่งปูด้วยกระเบื้องเซรามิกสีครีม ขนาด 30 x 30 ซ.ม. เพดานเฉลียงติดโคมซาลาเปามาให้สำหรับเวลากลางคืน ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อน กระจกเขียวตัดแสง กรอบ UPVC สีดำ

มือจับภายนอกเป็นแบบเซาะร่องและตัวล็อกไขกุญแจ ส่วนภายในเป็นแบบลูกบิดแบบมือจับ

เข้ามาในบ้านส่วนแรกเป็นห้องรับแขก ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนห้องรับประทานอาหาร ผนังโดยรอบห้องนี้เป็นหน้าต่างสามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้ ซึ่งจะทำให้บ้านดูโปร่งโล่งไม่อับทึบ ถ้าจัดสวนสวยๆเปิดม่านออก ก็มีบรรยากาศภายในบ้านที่เหมือนอยู่ในสวน

ภาพจากบ้านเปล่าค่ะ พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้สีครีมขนาด 60 x 60 ซ.ม.ฝ้าเพดานของจริงเป็นยิปซั่มฉาบเรียบสูง 2.6 ม. ส่วนผนังฉาบปูนเรียบติดวอลเปเปอร์และติดไฟดาวน์ไลท์ให้ทั้งหลัง

มองกลับมาที่ประตูทางเข้า จะเห็นว่ามีระยะเดินผ่านเข้าออกสบายๆไม่อึดอัด มีระยะดูทีวีจากโซฟาประมาณ 2.5 ม. ก็เป็นระยะสามารถวางทีวีจอใหญ่ขนาด 60 นิ้วได้สบายๆค่ะ

ห้องรับแขกในบ้านตัวอย่างวางโซฟาขนาด 4 ที่นั่งได้ พร้อมสตูล โต๊ะกาแฟ และชั้นวางทีวีมาให้ดูระยะใช้งานค่ะ

มองไปทางฝั่งชั้นวางทีวี ก็ทำ Built in เพิ่มมาให้ดูเป็นไอเดียนะคะ ซึ่งช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้ดีและทำให้บรรยากาศในบ้านดูน่าสนใจขึ้นตามสไตล์ของผู้อยู่ด้วยค่ะ

ส่วนของจริงจะมาเป็นผนังฉาบปูนเรียบทาสีแบบนี้นะคะ

ถัดจากห้องนั่งเล่นเป็นส่วนรับประทานอาหาร จัดโต๊ะอาหารวางสำหรับ 4 ที่นั่งมาให้ซึ่งดูกำลังสวยนะคะ แต่ใครเพื่อนฝูงเยอะหรือชอบโต๊ะใหญ่ขึ้นหน่อยก็สามารถจัดโต๊ะสำหรับ 6 ที่นั่งได้เช่นกัน เพราะมีระยะเดินรอบๆพอ โดยผนังส่วนห้องรับประทานก็จะเป็นกระจกบานใหญ่ทั้งสองฝั่ง โดยฝั่งขวามือเป็นประตูบานเลื่อนเปิดออกไปสวนข้างบ้านได้

บานประตูเลื่อนที่ผนังด้านข้างส่วนรับประทานอาหารค่ะ มือจับเป็นแบบเซาะร่องมาตรฐาน

จากสนามหญ้ามองเข้ามาที่ประตูด้านข้างค่ะ

เข้ามาในบ้าน ส่วนถัดมา ประตูทางด้านซ้ายของภาพคือประตูที่เปิดมาจากลานจอดรถค่ะ ตรงกลางด้านซ้ายเป็นทางเข้าห้องน้ำที่อยู่ชั้นล่าง ประตูถัดมาทางขวาเป็นทางเข้าครัว ที่เชื่อมต่อไปยังหลังบ้าน และทางขวาสุดเป็นบันไดสำหรับขึ้นไปยังชั้นสอง เราเข้าไปดูส่วนห้องน้ำกันต่อนะคะ

พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นบ้านชั้น 1 ไปประมาณ 5 ซม. พื้นเป็นกระเบื้องเซรามิกสีเทา ขนาด 30 x 30 ซม. ผนังด้านหลังโถสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือมี Lowwall มาให้วางของเพิ่ม ของจริงได้ตามนี้

พื้นส่วนอาบน้ำทางโครงการไม่ได้มีฉากกั้นห้องให้มานะคะ แต่จะก่อธรณีประตูขึ้นมาอีกประมาณ 5 ซม. ถ้าไม่อยากให้น้ำกระเด็นออกมาสามารถติดตั้งฉากกั้นหรือม่านกันเปียกเองได้เองได้ค่ะ

ผนังปูกระเบื้องจรดเพดาน และมีหน้าต่างแบบบานกระทุ้งมาให้ 1 ชุด มีการแต่งลายโมเสคสีดำที่ผนังมาให้ ของจริงได้ตามที่เห็น

ผนังที่ติดตั้งฝักบัวมีเจาะช่องสำหรับวางของมาให้สูงดีค่ะ สามารถติดชั้นเพิ่มที่วางของได้อีกชั้นนึงเลย เทียบขนาดฝ่ามือกับฝักบัวให้ดูค่ะ ก็มีขนาดกำลังเหมาะมือดี

มองกลับออกไปที่ประตูห้องน้ำ

อ่างล้างมือเป็นของ Englefield ทรงกลมแบบนี้ เทียบขนาดฝ่ามือกับอ่างให้ดูค่ะ จะเห็นว่าไม่มีที่วางของรอบๆอ่างมากนัก แต่โครงการก็ทำ Low Wall ด้านหลังอ่างมาให้วางของเพิ่มแล้ว ถ้าไม่พอก็สามารถทำเคาเตอร์เพิ่มได้ค่ะ เพราะมีระยะพอ

โถสุขภัณฑ์ของ Englefield ที่ใส่ทิชชู่และสายฉีดชำระเป็นสแตนเลสสีเงินเข้าชุดกัน

เข้าไปดูในห้องครัวกันต่อค่ะ ห้องครัวจะอยู่ถัดจากห้องน้ำ เป็นครัวแบบครัวปิดนะคะ

ในห้องครัวจะก่อชุดครัวมาให้ รูปทรงอย่างที่เห็นในบ้านตัวอย่างค่ะ แต่จะไม่มีบานปิดมาให้นะคะ อันนี้สามารถติดตั้งเพิ่มเองทีหลังได้ค่ะ ผนังห้องครัวเป็นกระเบื้องได้ตามที่เห็นค่ะ ทำให้เช็ดล้างทำความสะอาดได้ง่าย

เคาน์เตอร์ครัวทำเป็นรูปตัว L ด้านซ้ายและขวาต่างระดับกันเพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานนะคะ เพราะฝั่งขวามือของภาพจะใช้วางเตาและเครื่องดูควัน ก็จะมีการลดระดับลงมา

ด้านบนติดตั้งชั้นลอยและเครื่องดูดควันมาให้ดูเป็นไอเดีย

ลานหลังบ้านเป็นลานคอนกรีตลดระดับลงจากพื้นครัวประมาณ 10 เซนติเมตร

ลานซักล้างหลังบ้านมีเต้าเสียบปลั๊กไฟพร้อมฝาครอบกันน้ำ พร้อมเตรียมงานระบบท่อมาให้ ทั้งหมดได้ตามที่เห็นค่ะ

ขึ้นไปดูชั้น 2 กันต่อค่ะ บันไดเป็นบันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก ลูกตั้งฉาบปูนทาสีขาว ลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูป ราวจับบันไดเป็นเหล็กทาสีขาว ราวจับบันไดเป็นไม้สีเดียวกับพื้นลูกนอน

ส่วนใต้บันไดเป็นห้องเก็บของ ประตูห้องเก็บของเป็นประตูขนาดปกติมาให้เลยแบบนี้ เวลาจะเข้าไปเอาของก็เดินเข้าไปดูได้สบายๆไม่ต้องก้ม

พื้นห้องเก็บของจะเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ด้านในติดหลอดไฟมาให้ พร้อมใช้เป็นที่ติดแผงงานระบบไฟค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้น 2 จะมีส่วนที่เรียกว่า “Family Room” ห้องนั่งเล่นชั้นสอง ที่อยู่ตรงกลาง, ทางซ้ายเป็นห้องนอนเล็กไม่มีห้องน้ำในตัว (ใช้ห้องน้ำที่ชั้นหนึ่ง) ส่วนทางขวาเป็นห้อง Master Bedroom เป็นห้องนอนที่สมบูรณ์ที่สุด มีห้องน้ำในตัว,​ มี Walk-in Closet และยังมีระเบียงในตัวด้วย จะเป็นอย่างไรไปดูกันเลยค่ะ

ที่โถงบันไดมาที่ชั้นสองจะเห็นว่าตรงชานพักจะมีช่องแสงช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาเพื่อส่องให้โถงบันไดสว่างขึ้นด้วยค่ะ มีขั้นบันไดสามเหลี่ยมบริเวณชานพัก 2 ขั้น เวลาเดินขึ้นลงต้องระวังสะดุดกันด้วยนะคะ

ขึ้นมาที่ชั้นสองจะเจอโถงตรงกลางที่เชื่อมต่อไปยังห้องนอนทั้งสองห้องซ้ายขวาและ Family Area ตรงกลาง

Family Area หรือ ห้องนั่งเล่นที่อยู่ชั้นสองนี้จะอยู่ส่วนด้านหน้าบ้านค่ะ เป็นพื้นที่สำคัญที่คนในครอบครัวจะได้มาใช้ร่วมกันก่อนนอน หรือพักผ่อนร่วมกันนะคะ เพราะมีความเป็นส่วนตัวกว่าชั้นล่าง พื้นที่ส่วนนี้อยู่ติดกับหน้าต่างสองด้าน ได้รับแสงธรรมชาติค่อนข้างดี ในบ้านตัวอย่างวางโซฟารูปตัว L มาให้ดูระยะใช้งาน วางโต๊ะกลางได้โดยไม่เกะกะทางเดิน

ที่ Family Area จะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไปส่วนระเบียงได้

เป็นเหมือนระเบียงสำหรับยืนรับลมมากกว่าค่ะ เพราะค่อนข้างตื้น แต่ก็ยาวพอจะวางกระถางต้นไม้หรือทำเป็นสวนเล็กๆได้ ราวกันตกเป็นเหล็กโปร่งทาสีดำ พื้นระเบียงลดระดับลงจากพื้นห้องนั่งเล่นประมาณ 5 เซนติเมตร พื้นปูกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร

มองไปทางชั้นวางทีวี จะเห็นประตูของห้องนอนใหญ่หรือ Master Bedroom อยู่

ภายในห้องนอนใหญ่ สามารถวางเตียงคิงส์ไซส์โดยเหลือระยะเดินรอบๆได้สบายๆนะคะ

ภายในห้องนอนใหญ่จะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้

ปลายเตียงมีระยะเหลือประมาณ 1.8 ซม. สามารถวางชั้นวางทีวีแบบติดพื้นได้นะคะ ในบ้านตัวอย่างทำ Built in ชั้นวางทีวีและวางโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้มาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ จะเห็นว่าระยะเหลือสบายๆเลย

พื้นระเบียงลดระดับจากพื้นห้องนอนลงมาประมาณ 5 ซม. พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคสีครีมขนาด 30 x 30 ซม. ระเบียงพื้นที่ค่อนข้างกว้างแต่ตื้นนะคะ คือออกมายืนรับลมและวางกระถางต้นไม้ได้ ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กทาสีดำ ที่ระเบียงทำช่องระบายน้ำมาให้เรียบร้อย

มองไปอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นส่วน Walk in Closet ในบ้านตัวอย่างกั้นด้วยประตูบานเลื่อนเป็นสัดส่วนดี แต่บ้านมาตรฐานจะไม่ได้กั้นห้องมาให้นะคะ แต่จะเป็นมุมยุบเข้าไปเฉยๆ

ทางด้านขวาของเตียง มีระยะประมาณ 1m.สามารถวางอาร์มแชร์เอาไว้นั่งเล่นอ่านหนังสือหรือโต๊ะข้างกว้างๆได้

ด้านใน Walk in Closet วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูระยะใช้งาน

พอวางตู้ไปแล้วเหลือระยะเดินประมาณ 1.2 m.

เข้าไปดูในห้องน้ำในห้องนอนใหญ่กันต่อค่ะ

ห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำส่วนแห้งเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ภายในห้องน้ำ แบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก วัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน เพดานติดไฟดาวน์ไลท์ สังเกตที่ผนังหลังฝักบัวเตรียมงานระบบสำหรับติดเครื่องทำน้ำอุ่นมาให้เรียบร้อย

ตรงข้ามห้องนอนใหญ่จะเป็นห้องนอนเล็กของชั้น 2 ค่ะ

ห้องนอนเล็กของชั้น 2 วางเตียงสองชั้นมาให้ดูเป็นไอเดีย

เหลือระยะปลายเตียงประมาณ 80 เซนติเมตร

มองไปที่ผนังอีกฝั่งทำ Built in ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานมาให้ดูเป็นไอเดีย

เดี๋ยวขึ้นไปดูชั้น 3 กันต่อค่ะ

ผังชั้น 3 จะเป็นห้องนอน 3 ห้อง โดยที่จะมีห้องนอน 1 ห้องที่มีห้องน้ำในตัว เป็นห้องนอนที่ขนาดใหญ่พอๆกับห้อง Master Bedroom ส่วนห้องนอนอีกสองห้องจะใช้ห้องน้ำร่วมกันตรงกลาง

ที่โถงบันไดมาที่ชั้นสามจะเห็นว่าตรงชานพักจะมีช่องแสงช่วยดึงแสงธรรมชาติเข้ามาเพื่อส่องให้โถงบันไดสว่างขึ้นด้วยค่ะ มีขั้นบันไดสามเหลี่ยมบริเวณชานพัก 2 ขั้น เวลาเดินขึ้นลงต้องระวังสะดุดกันด้วยนะคะ

โถงบันไดชั้น 3 จะแจกไปห้องนอนทั้ง 3 ห้องและห้องน้ำ

หันกลับไปมองที่โถงบันไดชั้น 3 จะมีราวกันตกเป็นเหล็กทาสีขาว ท้อปเป็นไม้มาให้แบบนี้

เข้าไปดูห้องนอนห้องแรกที่อยู่ใกล้บันไดที่สุดกันก่อนเลยค่ะ

ในห้องมีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ 1 ชุด และวางเตียงเดี่ยวมาให้ดูระยะใช้งาน

ปลายเตียงเหลือระยะประมาณ 70 เซนติเมตร

มองไปทางประตูห้อง ระยะข้างเตียงฝั่งจริงๆพอวางเตียงคู่ได้นะคะ แต่ถ้าจะตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานอย่างในห้องตัวอย่างคงต้องวางเตียงคู่ชิดผนังด้านในไปเลย จะได้มีระยะเดินมากขึ้นค่ะ

มองไปทางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง

ไปดูห้องนำ้ชั้น 3 กันต่อค่ะ ห้องน้ำนี้ห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องจะใช้ร่วมกัน

ห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำส่วนแห้งเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ภายในห้องน้ำ แบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก วัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน เพดานติดไฟดาวน์ไลท์

ไปดูห้องนอนเล็กอีกห้องกันต่อค่ะ ประตูห้องนี้อยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอนใหญ่ชั้น 3 และห้องน้ำ

ในห้องติดหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ฝั่งละชุด บ้านตัวอย่างวางเตียง 2 ชั้นชิดริมผนังมาให้ดูเป็นไอเดีย ก็จะเห็นว่าเหลือระยะเดินรอบๆได้สบายๆ ปลายเตียงมีระยะเหลือประมาณ 80 เซนติเมตร วางชั้นวางทีวีได้สบายๆค่ะ

ข้างเตียงวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะทำงานมาให้ดูระยะใช้งาน

มองไปทางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้ง ผนังติดกระจกเงามาให้ดูเป็นไอเดีย จะเห็นว่าทำให้ห้องดูกว้างขึ้นได้นะคะ

ภายในห้องนอนใหญ่ชั้น 3 จะคล้ายๆห้องนอนใหญ่ชั้น 2 เลยค่ะ คือสามารถวางเตียงคิงส์ไซส์โดยเหลือระยะเดินรอบๆได้สบายๆนะคะ

ปลายเตียงมีระยะเหลือประมาณ 80 ซม. สามารถวางชั้นวางทีวีแบบติดพื้นได้นะคะ ในบ้านตัวอย่างทำ Built in ชั้นวางทีวีมาให้ดูเป็นไอเดียค่ะ

ภายในห้องนอนใหญ่จะมีประตูบานเลื่อนเปิดออกไประเบียงได้

ด้านข้างเตียงฝั่งติดระเบียงมีระยะประมาณ 40 ซม. สามารถวางโต๊ะข้างเตียงได้ ส่วนพื้นระเบียงลดระดับจากพื้นห้องนอนลงมาประมาณ 5 ซม. พื้นระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคสีครีมขนาด 30 x 30 ซม. ระเบียงพื้นที่ค่อนข้างกว้างแต่ตื้น ราวกันตกระเบียงเป็นเหล็กทาสีดำ

มองไปอีกฝั่งหนึ่งจะเป็นส่วน Walk in Closet ชั้น 3 กั้นม่านมาให้ดูเป็นไอเดีย แต่บ้านมาตรฐานจะไม่ได้กั้นห้องมาให้นะคะ แต่จะเป็นมุมยุบเข้าไปเฉยๆ

ทางด้านขวาของเตียง มีระยะประมาณ 1 m.สามารถวางชุดอาร์มแชร์เอาไว้นั่งเล่นอ่านหนังสือได้

ด้านใน Walk in Closet วางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูระยะใช้งาน

พอวางตู้ไปแล้วเหลือระยะเดินประมาณ 1 m.

ฝั่งตรงข้ามตู้เสื้อผ้าเป็นทางเข้าห้องน้ำ

ห้องน้ำลดระดับจากพื้นห้องนอนประมาณ 5 ซม. พื้นห้องน้ำส่วนแห้งเป็นกระเบื้องเซรามิกขนาด 30 x 30 เซนติเมตร
ภายในห้องน้ำ แบ่งออกเป็นพื้นที่ส่วนแห้งและส่วนเปียก วัสดุและสุขภัณฑ์จะเหมือนกันกับห้องน้ำชั้นล่างค่ะ

ผนังห้องน้ำปูกระเบื้องจรดเพดาน มีหน้าต่างบานกระทุ้งมาให้ 1 บาน เพดานติดไฟดาวน์ไลท์

ราคา

• แบบ Chicago แปลง B13 ที่ดิน 54.3 ตารางวา 228 ตารางเมตร ราคา 7.39 ล้านบาท
• แบบ New York แปลง E12 ที่ดิน 57.5 ตารางวา 271 ตารางเมตร ราคา 9.39 ล้านบาท
• แบบ Manhattan แปลง L04 ที่ดิน 61.7 ตารางวา 297 ตารางเมตร ราคา 10.60 ล้านบาท

• ค่าส่วนกลาง 30 บาท/ตร.วา/เดือน จัดเก็บล่วงหน้าถึงเดือน ต.ค. 60
• ค่าจดจำนอง 1% ของยอดกู้ ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ
• ค่าธรรมเนียมและค่าใช้จ่ายในการโอนกรรมสิทธิ์ ผู้ซื้อแล้วผู้ขายชำระฝ่ายละครึ่ง
• ค่าประกัน มิเตอร์ไฟฟ้า ประปา ผู้ซื้อเป็นผู้ชำระ

สรุป

♦ ทำเลที่ตั้งโครงการ :โครงการ โกลเด้น เพรสทีจ วัชรพล-สุขาภิบาล 5 นั้นตั้งอยู่ติดถนนสุขาภิบาล 5 ตามชื่อเลยค่ะ เป็นถนนที่เชื่อมต่อออกไปได้หลายเส้นทาง มีซอยเล็กซอยน้อยให้ลัดเลาะเยอะ ถนนเส้นหลักที่อยู่ใกล้ๆจะมีถนนสายไหม รามอินทรา พหลโยธิน นอกจากนี้จุดเด่นสำคัญของโครงการคืออยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์และมอเตอร์เวย์ ทำให้เข้าเมืองออกเมืองได้สะดวกนั่นเอง

ทางเข้าออกจะอยู่ฝั่งตรงข้ามเยื้องๆกับ Big C สุขาภิบาล 5 ซึ่งก็จัดว่าเป็นโซนที่อุดมสมบูรณ์โซนนึงเลยค่ะ เนื่องจากอยู่ใกล้ Big C ในระยะเดินถึงสบายๆ และเป็นโซนชุมชนบนถนนสุขาภิบาล 5 ที่มีร้านอาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกข้างทางเยอะพอสมควร

ห้างที่ใหญ่ขึ้นมาหน่อยก็จะเป็น Central รามอินทรา, Fashion Island และ The Promenade ที่อยู่บนถนนรามอินทรา ที่ค่อนข้างครบครันและสะดวก แล้วแต่ชอบว่าจะเดินห้างไหน สำหรับคนชอบทำอาหาร ก็มีตลาดสดออเงิน และ ตลาดวงศกร อยู่ใกล้ๆ ขับรถไปไม่ถึงสิบนาทีก็ถึงค่ะ

♦ การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว : เป็นโครงการที่เหมาะกับคนขับรถค่ะ เนื่องจากจุดเด่นสำคัญของโครงการคืออยู่ใกล้จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์และมอเตอร์เวย์ ทำให้เข้าเมืองออกเมืองได้สะดวก ถ้าจะขึ้นทางด่วนเข้าเมืองก็ห่างแค่ 1.7 กิโลเมตร หรือระยะขับรถแค่ประมาณ 3 – 5 นาทีเท่านั้น ถือว่าสะดวกมากทีเดียว

สมมติอย่างเราจะเข้าเมืองไปทองหล่อเอกมัยนี่ขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ไปประมาณ 20 นาทีก็ถึงค่ะ ถือว่าสะดวกเลย แต่ต้องเข้าใจว่าถนนสุขาภิบาล 5 เป็นโซนชุมชนที่อุดมสมบูรณ์ มีหมู่บ้านจัดสรรเยอะ ทำให้ปริมาณคนปริมาณรถเยอะ ตอนเช้าและเย็นเวลาคนเข้าโรงเรียนคนไปทำงาน กับเวลาเลิกงานหรือกลับจากโรงเรียนก็ต้องเผื่อเวลาบนท้องถนนกันไว้ด้วยนะคะ

♦ การเดินทางโดยรถสาธารณะ : ปกติถ้าจากโครงการเลย ถนนสุขาภิบาล 5 ก็มีรถแท็กซี่ กับวินมอเตอร์ไซค์วิ่งผ่านอยู่เรื่อยๆ ถ้าไม่โทรเรียกแท็กซี่ก็เดินออกมาโบกตรงหน้าซุ้มโครงการได้

และในตอนนี้ที่เส้นลำลูกกาก็มีโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีเขียว หมอชิต – สะพานใหม่ โดยวิ่งผ่านถนนพหลโยธินอ้อมมาทางถนน ลำลูกกาอยู่ด้วย ในอนาคตถ้าสร้างเสร็จ คนไม่ใช้รถก็มีทางเลือกมากขึ้นค่ะ เวลาจะออกไปไหนมาไหน

♦ บ้านและวัสดุ : รูปแบบภายนอกบ้านดูทันสมัย ใช้โทนสีเทา – น้ำตาล หลายเฉดที่ดูลงตัวกันดี วัสดุที่ให้มาก็อยู่ในระดับมาตรฐานค่อนข้างดีเมื่อเทียบกับขนาดบ้าน ทำเลและราคา และออกแบบฟังก์ชั่นมาแบบใส่ใจรายละเอียด พื้นที่ใช้งานแต่ละส่วนมีความลงตัวดีเมื่อเทียบกับโครงการอื่นๆ แต่ก็มีบางจุดก็ต้องทำเพิ่มเอง เช่นการต่อชั้นลอยในห้องครัวเพิ่มเป็นต้น

โดยบ้านที่ทางโครงการขาย จะเป็นบ้านมาตรฐาน (บ้านเปล่า) + เคาน์เตอร์ครัว ผนังบ้านฉาบเรียบทาสีและ ฝ้าเพดานยิปซั่มฉาบเรียบทาสีขาว, ไฟดาวน์ไลท์ทั้งหลัง, ลานจอดรถเป็นทรายล้าง, เฉลียงหน้าบ้านและลานหลังบ้านปูกระเบื้องเซรามิก 30 x 30 ซม. พื้นบ้านชั้นล่างปูแกรนิตโต้ ขนาด 60×60 ซม. ส่วนพื้นบ้านชั้นบนปูพื้นไม้ลามิเนต 8 มม. สุขภัณฑ์ภายในห้องน้ำของ Englefield

ประตูและหน้าต่างภายในบ้านบานใหญ่ กรอบเป็น UPVC สีดำ กระจกเขียวตัดแสง ติดมาหลายบาน ทำให้บ้านมีความสว่าง โปร่งและไม่อับทึบ เรื่องการระบายอากาศก็เตรียมมาให้โอเค คือห้องน้ำทุกห้องมีหน้าต่างบานกระทุ้งติดมาให้

♦ สิ่งอำนวยความสะดวก : มี Club House ที่มีสระว่ายน้ำ ห้องฟิตเนส และสวนสาธารณะมาให้ ขนาดไม่ได้ใหญ่มาก แต่รอบๆ Club House ลงต้นไม้ใหญ่ เล็ก ให้ความร่มรื่นค่อนข้างเยอะ คือเน้นรักษาภูมิทัศน์ภายในโครงการ และรอบๆโครงการได้ดีค่ะ ถนนในโครงการมีปลูกต้นไม้ข้างทาง มีแนวพุ่มไม้ข้างรั้วตัดแต่งเป็นระเบียบ ทางเท้าปูหญ้าและวางแผ่นหินสำหรับเดินให้

♦ ระบบรักษาความปลอดภัย : เข้า-ออกโครงการด้วย Key Card ระยะใกล้ + CCTV จับภาพป้ายทะเบียน และคนขับฝั่งละ 2 ตัว พร้อมประตูรั้วบานเลื่อนอัตโนมัติ รั้วรอบโครงการสูง 2 ม. และมีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม.ค่ะ

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 092-820-8955

WEBSITE : http://www.goldenlandresidence.co.th/

หากท่านเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

หากท่านมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

บ้านเดี่ยว เอชเคป ซีรีน บางนา-สุขาภิบาล 2 H Cape Serene โครงการใหม่จาก แฮปปี้แลนด์ กรุ๊ป บ้านเดี่ยวท่ามกลางธรรมชาติ ราคาเริ่มต้น 5 ล้านบาท*

เอชเคป ซีรีน บางนา-สุขาภิบาล 2 H Cape Serene บ้าน Tropical Modern – New Series ที่พัฒนาเพื่อให้เหมาะสมกับการอยู่อาศัย ที่สุดของการเชื่อมต่อในทุกพื้นที่ เริ่ม 5 ล้านบาท*

ที่ตั้งโครงการ

พิกัด : 13°42’11.1″N 100°42’22.5″E

ถนนสุขาภิบาล 2 แขวงประเวศ เขตประเวศ กทม.

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

:: HOUSE TYPE ::

แบบบ้าน Seana : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น

พื้นที่ใช้สอย 130 ตร.ม.

ขนาด : 3 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, ที่จอดรถ 3 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

แบบบ้าน Acacia : บ้านเดี่ยว 2 ชั้น

พื้นที่ใช้สอย 217 ตร.ม.

ขนาด : 4 ห้องนอน, 3 ห้องน้ำ, 1 ห้องอเนกประสงค์, ที่จอดรถ 3 คัน

แปลนบ้านชั้น 1 | แปลนบ้านชั้น 2

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

Tel : 02-726-5222

Website : http://www.hcape.com/

EP.309 รีวิว บ้านเดี่ยว คาซ่า แกรนด์ สุขาภิบาล 5 Casa Grand Sukhapiban 5

สวัสดีครับทุกท่าน วันนี้ผมมีรีวิวโครงการ Casa Grand สุขาภิบาล 5 มาฝาก จาก Q.House ตัวโครงการอยู่ติดกับถนนสายไหม ใกล้ตลาดวงศกร โดยรูปแบบโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 3 ชั้นมีให้เลือก 3 แบบ จุดเด่นคือมีที่จอดรถ 4 คันทุกแบบ พร้อมฟังก์ชั่นการใช้งานครบครับ ในโครงการการมี Club House และสวนหย่อมมาให้ในราคาเริ่มต้น 6.59 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ถนนสายไหม สุขาภิบาล 5 แขวงสายไหม เขตสายไหม กทม.

พิกัด : 13.921595, 100.685731

คาซ่า แกรนด์ สุขาภิบาล 5 ตัวโครงการตั้งอยู่ติดกับถนนสายไหม อยู่ระหว่างช่วงซอยสายไหม 79 และ 81 การเดินทางค่อนข้างสะดวกเนื่องจากอยู่ติดถนนใหญ่เลย ถ้าจะเข้าเมืองจากโครงการวิ่งตรงตามถนนสายไหมไปออก ถนนพหลโยธิน 54/1 จากนั้นก็ไปออกปากซอยเข้าสู่ถนนพหลโยธิน แล้วก็วิ่งตรงเข้าเมืองไปจนถึง จตุจักร อนุสาวรีย์ชัยฯได้เลย หรือวิ่งไปออกเส้นวิภาวดีรังสิตก่อนก็ได้ครับมีทางด่วนให้ขึ้นด้วย

อีกเส้นก็คือมาออกถนนสุขาภิบาล 5 แล้วก็มาขึ้นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ วิ่งเข้าเมืองไดเช่นกันครับ ส่วนการเดินทางออกนอกเมืองถ้าจะไปโซนรังสิตสายคลองต่างๆจากโครงการไปเข้าถนนเฉลิมพงษ์วิ่งตรงไปออกถนนลำลูกกามีซอยเชื่อมไปออกเส้นรังสิต-นครนายกได้เลย หรือจะไปออกถนนพหลโยธินก่อนก็ได้ครับ

ส่วนถ้าจะไปโซนรามอินทราก็ใช้เส้นสุขาภิบาล 5 มาออกรามอินทราได้เลย ถ้าจะไปบางนาสามารถเลือกใช้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ หรือมอเตอร์เวย์ก็ได้ครับ

ส่วนการเดินทางโดยรถสาธารณะหน้าโครงการตรงถนนสายไหมมีรถเมล์วิ่งผ่าน Taxi วินมอเตอร์ไซค์ก็โบกขึ้นหน้าโครงการได้เลยครับ มีวิ่งผ่านไปมาตลอด

การเดินทางวันนี้เริ่มจากทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ มุ่งหน้าถนนสุขาภิบาล 5 ลงทางด่วนมาวิ่งเข้าถนนสุขาถิบาล 5 มุ่งหน้าสายไหม วิ่งตรงไปจนสุดทางจะเจอแยกตัดกับถนนสายไหมให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายไหม จากนั้นให้ชิดขวาประมาณ 100 ม. โครงการจะอยู่ทางขวามือครับ

สรุปการเดินทาง ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ > ถนนสุขาภิบาล 5 > เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสายไหม > ประมาณ 100 ม. > คาซ่าแกรนด์ สุขาภิบาล 5

เริ่มจากทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ มุ่งหน้ารามอินทราครับ

จากนั้นจะเจอ Central East ville และ Tesco Lotus Extra ซ้ายมือ

จากนั้นวิ่งตามป้ายถนนกาญจนาภิเษกครับ

ขับมาสักพักจะเจอป้ายสุขาภิบาล 5 ให้วิ่งตามไปอีก

วิ่งตามป้ายสุขาภิบาล 5 ไปจนเจอทางลง

จากนั้นจะเจอป้ายทางลงทางด่วนไปถนนสุขาภิบาล 5

ลงแล้ววิ่งตามทางไปครับ

ตรงไปลอดใต้ทางด่วนข้างหน้า

จากนั้นจะเจอป้ายโครงการซ้ายมือ ให้ไปเลี้ยวซ้ายข้างหน้า

พอเจอแยกให้เลี้ยวซ้ายเข้าถนนสุขาภิบาล 5

เลี้ยวมาก็จะเข้าถนนสุขาภิบาล 5 ขับตรงไปอีก

จากนั้นจะเจอ Big C Market ซ้ายมือ

ตรงมาจะเจอสำนักงานเขตสายไหมทางขวามือ ตรงไปอีกครับ

จากนั้นจะเจอตลาดออเงินซ้ายมือ

เลยมาจะเจอศูนย์ Toyota ทางซ้ายมือ

จากนั้นจะเจอปั๊ม Shell ทางขวามือครับ ตรงไปอีก

และจะเจอโครงการคาซ่า วิลล์ สุขาภิบาล 5

เลยมาอีกจะเจอศูนย์ Chevrolet ขวามือ

เลยมาอีกจะเจอธนาคารกรุงไทย

จากนั้นให้ชิดซ้าย เตรียมเลี้ยวตามป้ายไปบอกไปลำลูกกา และพลโยธิน 54/1

พอเจอแยกก็เลี้ยวซ้ายไปถนนสายไหม

เลี้ยวซ้ายมาจะเป็นถนนสายไหม ทางเข้าโครงการจะอยู่ขวามือข้างหน้า ห่างจากแยกที่เลี้ยวมาประมาณ 100 ม.

ขวามือจะมีป้ายโครงการบอกไว้

เตรียมชิดขวาเลี้ยวเข้าโครงการได้เลย

ถึงโครงการ คาซ่า แกรนด์ สุขาภิบาล 5 แล้วครับ ด้านหน้าโครงจะติดกับถนนสายไหมเลย

จากหน้าโครงการเดินผ่านไปประมาณ 80 ม. จะเจอตลาดวงศกร

เลยมาหน่อยจะมองเห็นป้าย 7-11 ซ้ายมือข้างหน้า

ติดกันก็จะเป็นทางเข้าตลาดวงศกรครับ ภายในมีทั้ง ของกิน ของใช้ อาหารสดต่างๆ เป็นตลาดสำคัญของย่านนี้เลยก็ว่าได้

ความอุดมสมบูรณ์ย่านนี้ ออกแนวเป็นชุมชนชานเมือง เรื่องอาหารการกินก็จะเน้นไปทางตลาดนัด ตลาดสด ร้านค้าตามริมฝั่งทาง โดยระยะเดินจากโครงการประมาณ 80 ม. มีตลาดวงศกรซึ่งอยู่เยื้องๆกับหน้าโครงการเลย เป็นศูนย์การค้าขนาดใหญ่ในย่านนี้เลยก็ว่าได้ ด้านในตลาดมีทั้ง ตลาดสดที่อยู่ตรงกลาง อาคารพาณิชย์ที่เป็นเป็นร้านค้า ร้านอาหาร คลินิก โรงเรียนสอนพิเศษ ร้านเสริมสวย ร้านซักรีด ร้านสะดวกซื้อต่างๆ และมีตลาดนัด แผงลอยอีกเป็นจำนวนมาก ที่รวมอยู่ด้วยกัน เรียกได้ว่าเป็นสถานที่สำคัญของย่านนี้เลยครับ จากโครงการก็เดินมาได้สะดวก ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้ๆ ตรงเส้นสายไหมมี Big C market นอกนั้นคงต้องออกมาเส้นรามอินทรามี Lotus Big C เซ็นทรัลรามอินทรา

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

• 7-11 : 80 ม.
• ตลาดวงศกร : 80 ม.
• รพ.สายไหม : 450 ม.
• รร.สารสาสน์วิเทศสายไหม : 1 กม.
• รร.ออเงิน : 3.5 กม.
• ตลาดออเงิน : 4.1 กม.
• สำนักงานเขตสายไหม : 4.2 กม.
• Big C Market : 2.1 กม.
• Big C สะพานใหม่ : 10 กม.
• Lotus หลักสี่ : 13.5 กม.
• Lotus วัชรพล : 9.7 กม.

ตัวโครงการทิศเหนือเป็นด้านหลังโครงการจะติดกับคลองหกวา ทิศใต้ด้านหน้าโครงการติดกับถนนสายไหมใกล้จุดตัดระหว่างถนนสายไหมและสุขาภิบาล 5 ทิศตะวันออกติดกับพื้นที่ว่างเปล่าแต่ดูจากพื้นที่แล้วอนาคตไม่แน่อาจจะมีโครงการอื่นเกิดขึ้นครับ ส่วนทิศตะวันตกโซนด้านหน้าติดกับพื้นที่ว่างเปล่า ส่วนด้านในเข้ามาหน่อยจะเป็นบ้านพักอาศัย เป็นชุมชนในซอยสายไหม 79 ครับ

โครงการ

ทางเข้า-ออกโครงการจะแยกกันซ้ายและขวา มีเกาะตรงกลาง

ทางเข้าจะอยู่ฝั่งซ้ายครับ

ฝั่งทางเข้าจะมีป้ายโครงการสูงๆตั้งอยู่

ฝั่งทางออกจะเป็นแบบนี้ครับ จัดสวนหย่อมเล็กๆไว้

เดินเข้ามาทางเข้าซ้ายมือมีจัดพุ่มไม้ตกแต่งไว้

ผ่านเข้ามาก็จะเจอประตูทางเข้าออก

ฝั่งซ้ายมือตรงทางเข้านอกจากพุ่มไม้แล้ว ยังทำเป็นบ่อน้ำพุมให้ด้วย

มองกลับออกไปด้านหน้าโครงการ

หันหลังกลับมาทางเดิม ซ้ายมือจะเป็นทางเข้าของลูกบ้านและผู้ที่มาติดต่อ ตรงกลางเป็นป้อมยาม ขวามือจะเป็นทางออกครับ

ทางเข้าจะแยกส่วนระหว่างลูกบ้าน (เลนซ้าย) กับผู้ที่มาติดต่อ (เลนขวา)

ผู้ที่มาติดต่อต้องแลกบัตรกับ ร.ป.ภ. ก่อนเข้าโครงการทุกครั้งครับ

ส่วนลูกบ้านต้องใช้ Key Card แตะในการเข้าออก

ผ่านป้อมยามเข้ามาจะเจอถนนแบบนี้ ตรงหน้าจะเป็น Club House เลยมีทางแยกซ้ายมือ

มองไปทางซ้ายจะเจอทางวนเข้าไปส่วน Club House

เดินเข้ามาด้านในมีจัดพุ่มไม้ตกแต่งไว้

เดินผ่านโค้งมาก็จะเจอด้านหน้า Club House ครับ

ด้านหน้าทางเข้า Club House

ทางเข้าเป็นประตูกระจกบานเปิด 2 บาน

เดินเข้ามาเจอเคาน์เตอร์ และโซฟซ้ายมือ ฝ้าสูงโปร่งแบบ Double Volume

พื้นที่โซฟาสำหรับนั่งพักผ่อน

เดินเข้ามาก็จะเจอฟิตเนส ซ้ายมือเป็นประตูออกไปยังห้องน้ำ และสระว่ายน้ำด้านนอก

ส่วนของฟิตเนสมีอุปกรณ์ออกกำลังกายมา 8 ชิ้น

มีลู่วิ่งไฟฟ้า 2 เครื่อง

เครื่องบริหารกล้ามเนื้อ 1 เครื่อง

ดับเบล 1 ชุด

ม้านั่งออกกำลังกายแบบปรับระดับได้ 1 ตัว

เครื่องปั่นจักรยาน 1 เครื่อง

เครื่องเดินแบบล้อหลัง 2 ตัว

มองออกไปด้านนอกจะเห็นสระว่ายน้ำ มีประตูกระจกบานเลื่อน 2 บาน เดินออกไปยังด้านนอกได้

เดินออกมาจะเห็นสระว่ายน้ำตรงหน้าเลย

กลับเข้ามาด้านในก่อน จากส่วนพักผ่อนและฟิตเนส จะมีประตูเดินออกไปยังห้องนำ้ กับสระว่ายน้ำด้านนอกได้

เดินออกมาจะเจอห้องน้ำหญิงตรงหน้าเลย ซ้ายมือมีทางเดินไปยังห้องประชุม

มองไปทางซ้ายจะเจอทางเดินขึ้นไปยังห้องประชุมตรงหน้า ขวามือจะเป็นห้องเก็บของ

ภายในห้องประชุมจัดโต๊ะและเก้าอี้มาให้

มองเข้าไปด้านใน

ถัดจากห้องประชุมมาจะเป็นห้องเก็บของด้านใน

ภายในห้องเก็บของ

กลับออกมาด้านนอกต่อ ขวามือจะเป็นประตูเข้าไปยังฟิตเนส ซ้ายมือเป็นห้องน้ำแยกชาย-หญิง

ภายในห้องน้ำหญิงเดินเข้ามา ฝั่งซ้ายจะเป็นชุดอ่างล้างหน้า

ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้องน้ำ 3 ห้อง

ภายในห้องอาบน้ำ

ภายในห้องน้ำ

ถัดจากห้องน้ำหญิงจะเป็นห้องน้ำชาย ตรงหน้าก็จะเดินออกไปยังสระว่ายน้ำครับ

ภายในห้องน้ำชาย

มีโถปัสสาวะ 2 โถ

ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องอาบน้ำ 1 ห้อง และห้องน้ำ 2 ห้อง

เดินออกมาด้านนอกจะมองเห็นสระว่ายน้าตรงหน้า

ขวามือเป็นส่วนที่เชื่อมกับห้องฟิตเนสมีประตูทางเข้าออกตรงนี้ด้วน

เดินออกมาริมสระว่ายน้ำ มองไปปลายสระ ตรงหน้าจะเป็นสระเด็กครับ

หันไปทางซ้ายมีที่ล้างตัวอยู่

ที่ล้างตัวแบ่งมาเป็น 3 ชุด

มองกลับออกไปจะเห็นสระว่ายน้ำ และ Day Bed ที่วางอยู่ในสระ 2 ตัว

เดินมาปลายสระแล้วมองย้อนกลับไปยัง Club House

ขวามือมีแนวพุ่มไม้ปลูกไว้พร้อมไฟส่องทาง

ข้ามสระมาอีกฝั่ง ถ่ายอีกมุมให้ดูครับ

เดินออกมาหน้า Club House ตรงถนนหลักโครงการ จะพาเข้าไปชมด้านในกันต่อ ขนาดถนนหลักกว้าง 16 ม. รั้วรอบโครงการสูง 3 ม. มีแนวต้นไม้ปลูกริมรั้วยาวเข้าไปด้านใน

เดินเข้ามาซ้ายมือจะเห็นส่วนของด้านข้าง Club House

มองไปทางซ้ายจะเห็นแนวพุ่มไม้ปลูกบังสายตาจากส่วนของสระว่ายน้ำ

ผ่านมาซ้ายมือจะเจอทางเข้าที่จอดรถสำหรับ Club House

มองเข้าไปจะเจอที่จอดรถ

เดินเข้ามาอีก ซ้ายมือที่เป็นปูหญ้าเป็นเนินคือพื้นที่ขายในอนาคตครับ

มองกลับออกไปยังหน้าโครงการ

กลับเข้ามาเดินต่อไปอีกครับ

ตรงเข้ามาสุดจะเจอทางโค้ง และจะเห็นสวนหย่อมตรงหน้า

สวนหย่อมส่วนกลางจะอยู่ช่วงโค้งนี้แหละครับ

มองเข้าไปจะเห็นป้ายชื่อโครงการตั้งอยู่ มีไม้ใหญ่ไม้พุ่มประดับตกแต่ง

ทางเดินเข้าสวนจะอยู่ขวามือข้างหน้า

ทางเดินเข้าสวน

เดินเข้ามาด้านในมีไม้พุ่มปลูกเรียงมา

มองไปทางซ้ายจะเห็นแบบนี้

ตรงเข้ามาอีกมีทางเดินแยกไปยังอีกฝั่ง

ตรงกลางปูสนามหญ้า ไว้นั่งเล่นได้

ด้านในสุดของสวน ไม้ใหญ่มีมาเยอะหน่อย เพื่อสร้างความร่มรื่น

มองออกไปด้านหน้าสวน ตามทางเดินเท้าจะมีไฟส่องทาง

มองกลับเข้าไปด้านในสวนอีกที

เดินมามุมด้านหน้าแล้วถ่ายย้อนเข้าไป

ป้ายโครงการที่ตั้งอยู่ในสวน

กลับออกมานอกสวนเดินเข้าไปดูส่วนอื่นกันต่อครับ

ผ่านส่วนเข้ามาก็จะเจอถนนหลักยาวเข้าไปจนถึงด้านหลังโครงการเลย และจะแบ่งซอยย่อยขวามือทางโครงการครับ

ซอยแรกที่ติดกับสวนหย่อมจะเป็นบ้านตัวอย่างทั้ง 3 แบบ

มองไปทางสวนจะเห็นแบบนี้ครับ

ถัดจากซอยบ้านตัวอย่างมาก็จะเป็นบ้านที่พร้อมเข้าอยู่แล้ว

หน้าปากซอยจะมีป้ายซอยบอกไว้ชัดเจน ถนนซอยจะกว้าง 9 ม.

หน้าบ้านทุกหลังจะเป็นรั้วทึบ ปูหญ้ามาให้หน้าบ้าน และประตูรั้วแบบเลื่อน

บ้านทุกหลังจะได้ประตูรั้วโปร่ง แบบเลื่อน

House Type

โครงการนี้มีบ้านให้เลือก 3 แบบครับ

แบบแรก Lofty | บ้านเดี่ยว 3 ชั้น

เนื้อที่บ้าน 60.7 ตร.วา : พื้นที่ใช้สอย 221 ตร.ม.

ขนาดห้อง : 5 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 2 ห้องพักผ่อน, ที่จอดรถ 4 คัน

แบบบ้าน Lofty | แปลนชั้น 1

แบบบ้าน Lofty | แปลนชั้น 2

แบบบ้าน Lofty | แปลนชั้น 3

แบบสอง Ample | บ้านเดี่ยว 3 ชั้น

เนื้อที่บ้าน 55.7 ตร.วา : พื้นที่ใช้สอย 241 ตร.ม.

ขนาดห้อง : 3 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 2 ห้องพักผ่อน, ที่จอดรถ 4 คัน

แบบบ้าน Ample | แปลนชั้น 1

แบบบ้าน Ample | แปลนชั้น 2

แบบบ้าน Ample | แปลนชั้น 3

แบบสาม Noble | บ้านเดี่ยว 3 ชั้น

เนื้อที่บ้าน 65.3 ตร.วา : พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม.

ขนาดห้อง : 4 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 3 ห้องพักผ่อน, ที่จอดรถ 4 คัน

แบบบ้าน Noble | แปลนชั้น 1

แบบบ้าน Noble | แปลนชั้น 2

แบบบ้าน Noble | แปลนชั้น 3

บ้านตัวอย่าง

บ้านตัวอย่างที่จะพามาชมวันนี้เป็นแบบ Lofty และแบบ Ample

แบบแรก Lofty บ้านเดี่ยว 3 ชั้น เนื้อที่บ้าน 60.7 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 221 ตร.ม. 5 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 2 ห้องพักผ่อน, ที่จอดรถ 4 คัน เริ่มจากชั้น 1 จุดเด่นของบ้านโครงการนี้คือบ้านทุกหลังจะจอดรถได้ 4 คัน แบ่งเป็น 2 แถวมีเสาคั่นตรงกลาง แถวซ้ายจอดกลางแจ้ง ส่วนแถวขวาจะจอดในตัวบ้าน ตรงที่จอดรถมีประตูเข้าบ้านได้ หน้าทางเข้าบ้านมีเฉลียงเปิดประตูเข้าบ้านมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับส่วนรับประทานอาหารและส่วนครัว จากส่วนครัวมีประตูออกหลังบ้านได้ ห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบ Powder Room ตรงข้ามห้องน้ำเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง มีห้องเก็บของใต้บันไดมาให้

ขึ้นมาชั้น 2 จะเจอโถงบันได ซ้ายมือโซนหน้าบ้านจะเป็นห้องนั่งเล่น โซนหลังบ้านจะเป็นห้องนอน 3 มีประตูเข้าห้องน้ำจากในห้องนอนได้เลย ส่วนห้องน้ำตรงกลางมีสองทางเข้าคือจากโถงบันไดและจากห้องนอน 3 ฝั่งขวาจะเป็น Master Bedroom กินพื้นที่เกือบครึ่งชั้น มีห้องน้ำในตัว พร้อมพื้นที่หน้าห้องน้ำสำหรับทำ Walk in closet

ขึ้นมาชั้น 3 เจอโถงบันไดก่อนตรงกลางเป็นห้องน้ำเข้าออกได้สองทางคือจากในห้องนอน 4 และจากโถงบันได ฝั่งซ้ายจะเป็นห้องนอน 4 , 5 ส่วนฝั่งขวาเป็นห้องนอน 2 ขนาดเท่ากับ Master Bedroom ฟังก์ชั่นเดียวกันครับ

มาดูบ้านตัวอย่างกันก่อน ภายนอกบ้านรูปทรงสี่เหลี่ยมตรงขึ้นไปจากชั้น 1-3 เลย เล่นลวดลายที่สีของบ้านใช้โทนเทาเข้ม เทาอ่อน ตัดด้วยน้ำตาลและสีเหลือง รอบๆบ้านมีพื้นที่จัดสวนได้

มุมด้านข้างบ้านฝั่งโรงรถ

มุมด้านข้างบ้านอีกฝั่งจัดเป็นสวนน้ำตก

หน้าประตูทางเข้าบ้านยกพื้นขึ้นมาของจริงจะก่อปูนพื้นเป็นทรายล้างครับ

เดินมาด้านข้างบ้านจัดเป็นสวนน้ำตก พร้อมวางโต๊ะสนามไว้นั่งพักผ่อนฟังเสียงน้ำช่วยผ่อนคลายได้ดี

มองเข้าไปจะเห็นแบบนี้ครับ

บ่อน้ำตกโครงการไม่ได้ทำมาให้ ต้องทำเองนะครับ

เดินมาปลายสุดมองย้นกลับไป

เดินมาด้านหลังบ้านจะเจอกับพื้นที่ซักล้าง

มีประตูเข้าออกจากทางหลังบ้าน

ถัดมาก็จะเจอกับส่วนที่เชื่อมกับที่จอดรถ

เดินมาสุดแล้วมองกลับไปจะเห็นที่จอดรถแบบกลางแจ้ง และใตตัวบ้าน มีเสาตรงกลางจอดได้ 4 คันสองแถวครับ

มองเข้าไปจะเห็นเสาบ้านตรงกลางที่จอดรถ พื้นเทคอนกรีตมาให้

ที่จอดรถในตัวบ้าน เชื่อมกับประตูด้านข้างบ้าน ส่วนนี้ถ้าใครไม่ได้มีรถหลายคัน สามารถปรับเปลี่ยนต่อเติมผนังเพิ่มทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องนั่งเล่นก็ได้ครับ

มองจากมุมหน้าบ้านเข้าไปตรงส่วนที่จอดรถ

ส่วนเฉลียงหน้าบ้านของจริงจะก่อปูนพื้นเป็นทรายล้าง เชื่อมยาวไปถึงข้างบ้านครับ ประตูเข้าบ้านเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน

เดินเข้าบ้านมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับส่วนรับประทานอาหารและส่วนครัว ซ้ายมือเป็นห้องน้ำและบันไดขึ้นชั้นสอง พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ฝ้าสูง 2.6 ม.

เดินเข้าบ้านมาแล้วมองย้อนกลับไปที่ประตูเข้าบ้าน

วางโซฟาตัว L พร้อมโต๊ะกลางให้ดูระยะ

ระยะดูทีวีประมาณ 3.6 ม.

ถัดมาเป็นส่วนรับประทานอาหาร

วางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งให้ดูระยะ

ถัดไปเป็นส่วนห้องครัวได้เป็นครัวเปิด

ทำเคาน์เตอร์ครัวแบบตัว L ให้ดูเป็นไอเดีย ซ้ายมือเป็นประตูออกหลังบ้าน

อีกฝั่งมีพื้นที่วางตู้เย็นขนาดใหญ่ได้ หรือทำตู้เก็บของเพิ่ม

เปิดประตูออกไปจะเจอส่วนซักล้างหลังบ้านครับ

กลับเข้ามาตรงส่วนรับประทานอาหารมองไปยังประตูข้างบ้านส่วนที่จอดรถ

เดินเข้ามาซ้ายมือเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง ขวามือเป็นห้องน้ำ ตรงหน้าเป็นประตูกระจกบานเลื่อน 2 บานออกไปข้างบ้านส่วนที่จอดรถ

เปิดออกมาจะเจอเฉลียง และพื้นที่จอดรถครับ

ภายในห้องน้ำชั้นล่างเป็นแบบ Powder Room ชุดอ่างล้างหน้าที่ได้ของ Victor ทำ Low wall มาให้วางของได้ มีหน้าต่างในห้องน้ำเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน

อีกฝั่งวางโถสุขภัณฑ์ของ American Standard

พื้นห้องน้ำจะต่ำกว่าพื้นชั้นล่าง

ฝั่งตรงข้ามห้องน้ำเป็นบันไดขึ้นชั้นสอง ขวามือเป็นห้องเก็บของใต้บันได

เปิดประตูออกมาก็จะเป็นพื้นที่เก็บของ พื้นด้านในปูกระเบื้องมาให้เรียบร้อย

บันไดเป็นคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นไม้จริง

เดินขึ้นมาจะเจอชานพักบันไดก่อน มีช่องแสงด้านบน

มองขึ้นไปที่ชั้นสองจะเจอโถงบันได ซ้ายมือเป็นส่วนห้องนั่งเล่น ตรงหน้าเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็น Master Bedroom พื้นชั้นสองเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.

ขึ้นชั้นสองมาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่น หรือทำเป็นห้องทำงาน อ่านหนังสือได้ครับ

โครงการทำเป็นห้องทำงานให้ดูเป็นไอเดีย

มองกลับไปที่โถงบันได จริงๆสามารถกันเป็นห้องนอนอีกห้องได้

ออกมาตรงโถงบันได ซ้ายมือเป็นห้องนอน 3 ตรงกลางเป็นห้องน้ำเข้าออกได้สองทางคือจากในห้องนอน 3 และจากโถงบันได ขวามือเป็น Master Bedroom

เข้ามาดู Master Bedroom ก่อน วางเตียง King Size ให้ดูระยะ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.7 ม. วางเก้าอี้นั่งเล่นได้

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 70 ซม.

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 1.6 ม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.6 ม. ดูจอใหญ่ได้สบายๆครับ

ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำ หน้าห้องน้ำมีพื้นที่สำหรับทำ Walk in closet ได้

พื้นที่ตรงส่วน Walk in closet ทำให้ดูเป็นไอเดียแบบนี้

ประตูห้องน้ำอยู่อีกฝั่ง

ภายในห้องน้ำจะเจอส่วนแห้งก่อน ด้านในมีหน้าต่างบานเลื่อน 2 บานซึ่งทุกห้องน้ำในบ้านจะมีหน้าต่างเหมือนกันทุกห้อง

ชุดอ่างล้างหน้าของ Victor โถสุขภัณฑ์ของ American Standard ผนังทำ Low Wall มาให้วางของได้

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดฝักบัวแบบปรับระดับสูงต่ำได้ พื้นที่ส่วนเปียกไม่ได้แถมฉากกั้นให้ต้องติดเพิ่มเองครับ

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 0.80 x 1.65 ม.

พื้นห้องน้ำระดับต่ำกว่าพื้นห้องนอนพอประมาณ กันน้ำเลอะเทอะด้านนอกได้

ออกมาตรงโถงบันได ฝั่งตรงข้าม Master Bedroom เป็นห้องนอน 3 ขวามือเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องนอน 3

วางเตียงเดี่ยวมาให้ดู

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.9 ม.

อีกฝั่งทำตู้เสื้อผ้ามาให้ดูครับ ซ้ายมือจะเป็นประตูห้องน้ำ(ที่เปิดอยู่)

ประตูห้องน้ำจะอยู่ฝั่งเดียวกับประตูทางเข้าห้องนอน

ภายในห้องน้ำแบ่งแยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาเช่นกัน

ฝั่งด้านในวางอ่างล้างหน้า และโถสุขภัณฑ์ไว้แบบนี้ มีหน้าต่างบานเลื่อน 2 บาน

อีกมุมเป็นพื้นที่ส่วนเปียก มีก่อผนังยื่นออกมาหน่อย

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.3 x 0.90 ม.

ห้องน้ำมีทางเข้า-ออกสองทางคือจากโถงบันได และจากในห้องนอนครับ

ออกมาหน้าห้องน้ำตรงโถงบันได เราจะขึ้นไปที่ชั้นสามกันต่อ

เดินขึ้นมาเจอชานพักบันไดก่อน มีช่องแสงให้เหมือนเดิม

มองขึ้นไปที่ชั้นสาม จะเจอโถงบันไดก่อนครับ และแยกเป็นห้องนอนสองฝั่ง พื้นชั้นสามเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.

มองกลับลงมาที่ชานพักบันได

ขึ้นมาที่ชั้นสาม ซ้ายมือเป็นห้องนอน 4 และ 5 ขวามือเป็นห้องนอน 2 ตรงกลางเป็นห้องน้ำฟังก์ชั่นเดียวกับชั้นสองคือมีทางเข้าออกสองทาง

ไปดูห้องนอน 2 ก่อน

ภายในห้องนอน 2 ฟังก์ชั่นเดียวกับ Master Bedroom วางเตียงมาให้ดูระยะ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.6 ม. วางโต๊ะทำงานมาให้ดูซ้ายมือ

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 70 ซม.

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 1.3 ม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.3 ม.

ฝั่งด้านในเป็นห้องน้ำ และพื้นที่สำหรับทำ Walk in closet

บริเวณส่วน Walk in closet ขวามือเป็นประตูห้องนำ้

ภายในห้องน้ำรูปแบบเดียวกับในห้อง Master Bedroom

ส่วนเปียกอยู่อีกฝั่ง ไม่ได้แถมฉากกั้นให้

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.6 x 0.80 ม.

พื้นห้องน้ำระดับต่ำกว่าพื้นห้องนอน

กลับออกมาตรงโถงบันได ฝั่งตรงข้ามจะเป็นห้องนอน 4 (ขวามือ) และห้องนอน 5 (ซ้ายมือ)

ภายในห้องนอน 5 ขนาดเท่ากับส่วนห้องอเนกประสงค์เลย

วางเตียง 5 ฟุตชิดริมหน้าต่างให้ดู ซ้ายมือเหลือพื้นที่ข้างเตียงประมาณ 1.2 ม.

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 0.80 ม. วางโต๊ะปลายเตียงได้

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.8 ม.

ด้านข้างเตียงวางตู้เสื้อผ้าให้ดูพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง

มาดูห้องนอน 4 ต่อขนาดเท่ากับห้องนอน 3 ชั้นสองครับ

วางเตียงเดี่ยวมาให้ดูแบบนี้

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3 ม.

อีกฝั่งวางตู้เสื้อผ้าไว้พร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ซ้ายมือเป็นประตูห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำแบบเดียวกับชั้นสอง

พื้นที่ส่วนแห้งอยู่ในสุดติดกับหน้าต่างบานเลื่อน

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียก

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.3 x 0.90 ม.

ห้องน้ำมีทางเข้าออกสองทางคือจากโถงบันได และจากในห้องนอน 4

แบบบ้าน Ample เนื้อที่บ้าน 55.7 ตร.วา : พื้นที่ใช้สอย 241 ตร.ม. 3 ห้องนอน, 5 ห้องน้ำ, 2 ห้องพักผ่อน, ที่จอดรถ 4 คัน เริ่มที่ชั้น 1 ตรงส่วนที่จอดรถจะเหมือนกันทุกหลังครับ เดินเข้าบ้านมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารก่อน เชื่อมกับห้องครัวได้เป็นครัวเปิดเช่นกัน มีห้องน้ำ แบบ Powder room ติดกับประตูออกหลังบ้าน บันไดขึ้นชั้น 2 อยู่ซ้ายมือมีห้องเก็บของใต้บันได

ขึ้นมาชั้น 2 เจอโถงบันได เชื่อมกับห้องนั่งเล่นฝั่งซ้าย พื้นที่ค่อนข้างกว้าง มีห้องน้ำแบบ Powder Room มุมซ้าย ส่วนฝั่งขวาจะเป็น Master Bedroom มีห้องน้ำในตัวพร้อมกับพื้นที่สำหรับ Walk in closet

ขึ้นมาชั้น 3 จะเจอโถงบันไดเชื่อมกับพื้นที่อเนกประสงค์สามารถทำเป็นห้องพระ ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่นได้ ห้องนอน 2 จะอยู่ฝั่งขวามีห้องน้ำในตัวพร้อมกับพื้นที่สำหรับ Walk in closet ส่วนห้องนอน 3 อยู่ฝั่งซ้ายขนาดเล็กลงมาหน่อยแต่มีฟังก์ชั่นแบบเดียวกันเลย

มาดูบ้านตัวอย่างกันต่อ ภายนอกบ้านรูปทรงสี่เหลี่ยมตรงจากชั้น 1-3 เลย เล่นลวดลายที่สีโทนเทาอ่อนตัดด้วยเทาเข้มและเหลือง

มุมด้านข้างบ้านฝั่งที่จอดรถ

บ้านทุก Type จะจอดรถได้ 4 คัน แบ่งเป็นในตัวบ้าน 2 คัน และกลางแจ้ง 2 คัน พื้นเทคอนกรีตมาให้

ส่วนที่จอดรถในตัวบ้านจอดเรียงแถว 2 คัน ไฟที่จอดรถเป็นแบบโคมซาลาเปา 2 ดวง

ส่วนที่จอดรถกลางแจ้งอีก 2 คัน เวลาถอยรถเข้าบ้านก็ระวังเสาด้วยนะครับ

เดินมาด้านหลังที่จอดรถวาง Tank น้ำไว้

มองไปหลังบ้านและข้างบ้าน

เงยหน้ามองด้านบนหน่อย

เดินมาด้านหน้าบ้านจะเห็นพื้นที่ซักล้าง

พื้นที่ซักล้างหลังบ้าน มีส่วนที่เป็นช่องเข้าไปในตัวบ้าน ออกแบบมาไว้ให้วางเครื่องซักผ้า หรืออุปกรณ์ต่างๆไว้หลบฝนหลบแดดได้

มองเข้าไปจะเห็นแบบนี้ครับ

ด้านหลังบ้านจะเชื่อมกับประตูเข้าออกหลังบ้าน ขวามือ

เดินมาด้านข้างบ้านอีกฝั่ง จัดเป็นสวนหย่อมให้ดูเป็นไอเดีย

บ้านตัวอย่างยกพื้นไม้สูงเป็นชานข้างบ้าน วางโต๊ะนั่งเล่นไว้นั่งพักผ่อน

เดินมาด้านหน้าก็จัดสวนต้นไม้ไว้

มองกลับไปจะเห็นแบบนี้

บ้านตัวอย่างจัดสวนไว้มุมหน้าบ้านแบบนี้

ถ่ายจากมุมเข้าไปหน้าทางเข้าบ้าน

กลับมาเริ่มตรงประตูทางเข้าหน้าบ้าน

ประตูบานเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน

มือจับประตูด้านนอกเป็นแบบนี้ครับ

เดินเข้าบ้านมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับส่วนห้องครัวขวามือ บันไดขึ้นชั้นสองอยู่ซ้ายมือ มีห้องเก็บของใต้บันได พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ฝ้าสูง 2.6 ม.

เดินเข้าบ้านมาแล้วมองกลับไปยังประตูทางเข้าบ้าน

วางโซฟาตัว L ให้ดูระยะพร้อมโต๊ะกลาง

อีกฝั่งก็วางโซฟาตัใหญ่มาให้ดู ฝั่งนี้จริงๆจะวางโต๊ะรับประทานอาหารก็ได้นะครับ ซ้ายมือเป็นห้องครัว

ระยะดูทีวีประมาณ 6 ม. ขวามือเป็นห้องเก็บของและบันไดขึ้นชั้นสอง

ถัดจากส่วนห้องนั่งเล่นจะเป็นห้องครัวขวามือได้เป็นครัวเปิดไม่มีฉากกั้นให้ต้องติดเพิ่มเอง บันไดขึ้นชั้นสองอยู่ซ้ายมือ

เดินเข้ามาในห้องครัว ทำเคาน์เตอร์มาให้ดู ขวามือเป็นห้องน้ำ ส่วนประตูที่เห็นตรงหน้าคือประตูออกหลังบ้าน

ชุดเคาน์เตอร์โครงการทำให้ดูเป็นไอเดีย ของจริงจะได้เป็นห้องเปล่าแต่เดินระบบท่อน้ำไว้ให้

อีกฝั่งก็มีพื้นที่สามารถวางตู้เก็บของ และพื่นที่วางตู้เย็นได้ครับ

ตรงส่วนครัวจะมีห้องน้ำ(ขวามือ)

มือจับประตูห้องน้ำเป็นลูกบิด

เปิดเข้ามาจะเจอห้องน้ำแบบ Powder room คือไม่มีพื้นที่อาบน้ำ

ชุดอ่างล้างหน้าที่ได้ พร้อมกระจกเงา ทำ Low wall ไว้ให้วางของ

อ่างล้างหน้าที่ได้ของ Victor

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ของ American Standard

มีหน้าต่างบานเลื่อน 2 บานเป็นกระจกฝ้า เปิดระบายอากาศได้

พื้นห้องน้ำจะต่ำกว่าพื้นบ้านชั้น 1

ถัดจากห้องน้ำจะเป็นประตูออกหลังบ้าน

เปิดออกไปก็จะเจอกับส่วนซักล้าง

มองกลับเข้าไปในตัวบ้าน

บันไดขึ้นชั้นสองอยู่ตรงส่วนห้องนั่งเล่น มีห้องเก็บของใต้บันไดมาให้ด้วย

ภายในห้องเก็บของ ด้านในปูกระเบื้องมาให้เก็บของของได้พอสมควร

บันไดคอนกรีตเสริมเหล็ก พื้นไม้จริง

เดินขึ้นมาจะเจอชานพักบันไดก่อน มีช่องแสงเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน

มองขึ้นไปที่ชั้นสอง

มองกลับลงมาที่ชานพักบันไดจะเห็นแบบนี้ครับ

ขึ้นมาที่ชั้นสองจะเจอกับส่วนห้องนั่งเล่นครับ พื้นชั้นสองเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.

วางชุดโซฟาแบบจัดเต็มขนาด 6-7 ที่นั่งมาให้ดูพร้อมโต๊ะกลาง

ระยะดูทีวีประมาณ 5.5 ม. ซ้ายมือเป็น Master Bedroom และบันไดขึ้นชั้นสาม

มองไปฝั่งบันได ซ้ายมือจะเป็นทางเดินไปห้องน้ำครับ

พื้นที่ก่อนถึงห้องน้ำสามารถวางโต๊ะทำงานได้

หน้าห้องน้ำจะจัดตู้โชว์ หรือชั้นวางของได้อีก

ภายในห้องน้ำเป็นแบบ Powder room ไม่มีส่วนอาบน้ำ มีหน้าต่างมาให้เหมือนชั้นล่างเลย

เป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน

สุขภัณฑ์ชุดเดียวกัน ทำ Low Wall มาให้วางของได้

พื้นห้องน้ำต่ำกว่าพื้นชั้นสอง

กลับออกมาด้านนอกไปดู Master Bedroom กันต่อ ซ้ายมือเป็นบันไดขึ้นชั้นสาม

ภายในห้องวางเตียง King Size มาให้ดูระยะ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.5 ม.

พื้นที่ข้างเตียงริมหน้าต่างเหลือประมาณ 70 ซม.

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 1.5 ม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.5 ม.

มองไปอีกฝั่งเป็นห้องน้ำ พื้นที่หน้าห้องน้ำสามารถทำ Walk in closet ได้

พื้นที่ส่วน Walk in closet ขวามือเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำ แยกพื้นที่ส่วนเปียก ส่วนแห้ง

ชุดอ่างล้างหน้าของ Victor และโถสุขภัณฑ์ของ American Standard

มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อน 2 บานเหมือนกันทุกห้องน้ำ

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ไม่ได้แถมฉากกั้นมาให้ต้องติดเพิ่มเอง

ติดฝักบัวแบบปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อมที่วางสบู่ อาจจะต้องติดชั้นวางของเพิ่ม

หน้าตาฝักบัวที่ได้ขนาดพอเหมาะมือ

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 0.90 x 1.44 ม.

พื้นห้องน้ำจะต่ำกว่าพื้นห้องพอสมควรกันน้ำเลอะเทอะด้านนอกได้

กลับออกมาตรงโถงด้านนอก ขึ้นบันไดไปดูชั้นสามกันต่อ

เดินขึ้นบันไดมาจะเจอชานพักก่อน ช่องแสงจะอยู่ซ้ายขวา

มองขึ้นไปที่ชั้นสาม ตรงกลางเป็นโถงโล่งๆ ซ้ายมือเป็นห้องนอน 2 ขวามือเป็นห้องนอน 3 พื้นชั้นสามเป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม.

มองกลับลงไปยังชานพักบันได ซ้ายขวาเป็นช่องแสง

เดินขึ้นมาจะเจอโถงโล่งๆตรงกลางระหว่างสองห้องนอน ส่วนนี้สามารถทำเป็นห้องพระ หรือห้องนั่งเล่นห้องทำงานก็ได้ครับ

มองกลับไปที่บันได ซ้ายมือเป็นห้องนอน 3 ขวามือเป็นห้องนอน 2

เข้ามาดูห้องนอน 2 ก่อน ขนาดห้องพอๆกับ Master Bedroom ที่ชั้นสอง

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.6 ม. วางโต๊ะทำงานให้ดูเป็นไอเดีย

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 90 ซม.

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 1.5 ม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.5 ม.

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ หน้าห้องน้ำมีพื้นที่ทำ Walk in closet ได้

ส่วน Walk in closet ทำให้ดูแบบนี้ครับ

ภายในห้องน้ำเหมือนชั้นสองเลย

มีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนสองบาน

อีกฝั่งเป็นพื้นที่ส่วนเปียก

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.4 x 0.90 ม.

ระดับพื้นห้องน้ำจะต่ำกว่าพื้นชั้นสามครับ

มาดูห้องนอน 3 กันต่อ

วางเตียง 5 ฟุตมาให้ดู

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 1.2 ม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.2 ม.

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำมีพื้นที่ทำ Walk in closet ได้ ห้องนี้จริงๆแล้วก็คือส่วนห้องนั่งเล่นชั้นสอง แค่กั้นผนังห้องขวามือขึ้นมานั้นเองครับ

พื้นที่ส่วน Walk in closet

ภายในห้องน้ำฟังก์ชั่นเดียวกับแบบห้องนอนอื่นๆ

ได้หสน้าต่างบานเลื่อน 2 บานเหมือนกัน

ด้นในเป็นพื้นที่ส่วนเปียกไม่มีฉากกั้นมาให้

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.45 x 0.90 ม.

พื้นห้องน้ำจะต่ำกว่าพื้นห้องนอน

บ้านทุกหลังติดระบบสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic และ Motion Sensor

ชุดปลั๊ก และสวิตซ์ไฟของ Schneider

ราคา ณ เดือน มกราคม 2559

• แบบ Lofty พื้นที่ใช้สอย 221 ตร.ม. ที่ดิน 60.7 ตร.วา 5 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ | ราคา 6.59 ล้านบาท
• แบบ Noble พื้นที่ใช้สอย 260 ตร.ม. ที่ดิน 75 ตร.วา 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ | ราคา 7.7 ล้านบาท

** เงินจอง : 50,000 บาท

**ค่าสาธารณูปโภค : 25 บาท/ ตร.ม. ชำระล่วงหน้า 2 ปี

**ที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 80,000 บาท

โปรโมชั่นอื่นๆ โปรดสอบถามทางโครงการ*

บทสรุปโครงการ

ทำเลโดยรอบ คาซ่าแกรนด์ สุขาภิบาล 5 ตั้งอยู่ในย่านชานเมือง ตัวโครงการจริงๆอยู่ติดกับถนนสายไหม แต่ใกล้กับจุดตัดระหว่างเส้นสุขาภิบาล 5 และสายไหม ห่างจากแยกประมาณ 100 ม. ย่านนี้มีความคึกคักในตัวพอสมควร ตัวโครงการอยู่ห่างจากตลาดวงศกรประมาณ 80 ม. ซึ่งเป็นตลาดศูนย์รวมที่สำคัญของย่านนี้เลย คือมีตั้งแต่ของกิน ของใช้ ร้านยา ร้านอาหาร ตลาดสด ตลาดนัด 7-11 ก็มี ฯลฯ รวมไปถึงริมสองฝั่งทางถนนสายไหม และสุขาภิบาล 5 ที่มีร้านอาหารให้เห็นเป็นระยะๆครับ ส่วนห้างสรรพสินค้าใกล้มี Big C Market หรือไปแถวเส้นพหลโยธิน รามอินทรา มี Lotus BigC เซ็นทรัลครับ

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว หน้าโครงการออกมาจะเป็นถนนสายไหม เป็นเส้นหลักของย่านนี้เลยสามารถไปเชื่อมออกถนนพหลโยธิน ถนนลำลูกกา มอเตอร์เวย์ และที่สำคัญคือห่างจากเส้นสุขาภิบาล 5 ประมาณ 100 ม. ซึ่งแต่ละเส้นก็ไปเชื่อมออกเส้นสำคัญอื่นๆอีก ทำให้การเดินทางเข้าออกเมืองทำได้สะดวกสามารถเชื่อมไปออกได้หลากหลายเส้นทาง นอกจากนี้ยังอยู่ใกล้ทางด่วนรามอินทราอาจณรงค์ มอเตอร์เวย์อีกด้วย ส่วนการจราจรย่านนี้จะมีติดขัดบ้างในบางช่วงเวลาครับ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ ออกมาหน้าโครงการมีป้ายรถเมล์ มีรถเมล์วิ่งผ่าน วินมอเตอร์ไซค์ Taxi ก็โบกขึ้นหน้าโครงการได้เลย รถสองแถวก็มีวิ่งผ่านเช่นกัน ก็สะดวกพอประมาณครับถ้าไม่มีรถส่วนตัว

แบบบ้าน ที่นี่ทำมาให้เลือก 3 แบบ จุดเด่นของโครงการนี้คือบ้านเดี่ยว 3 ชั้น จอดรถได้ 4 คันทุกหลัง แตกต่างกันที่รูปแบบฟังก์ชั่นภายในบ้าน ภายนอกรูปทรงสี่เหลี่ยมตรงจากชั้น 1-3 เล่นลวดลายที่สีภายนอกโทนเทาเข้ม เทาอ่อน ตัดด้วยน้ำตาล เหลือง ภายในออกแบบมาให้บ้านดูโปร่งโล่งฝ้าสูง 2.6 ม. เน้นแสงให้เข้าได้ทุกพื้นที่ในบ้าน ห้องน้ำทุกห้องมีหน้าต่างบานเลื่อนมาให้ สามารถใช้ระบายอากาศ และช่วยให้แสงผ่านเข้าถึงได้ พื้นที่ในแต่ละส่วนทำออกมาค่อนข้างกว้าง เนื่องจากรูปแบบบ้านที่เป็นทรงสี่เหลี่ยมจึงทำให้ห้องแต่ละส่วนสามารถใช้งานได้ทุกพื้นที่ ชั้น 2 และ 3 ของบ้านแปลนจะคล้ายๆกัน เช่นส่วนห้องนั่งเล่นชั้น 2 ถ้ากั้นผนังขึ้นมาก็จะเป็นห้องนอนได้เหมือนชั้น 3 เลย ถ้าบ้านไหนเป็นครอบครัวใหญ่โครงการนี้ก็เป็นตัวเลือกที่ดีเลยครับ

วัสดุในบ้าน ได้ของมีคุณภาพ เริ่มตั้งแต่ประตูหน้าบ้าน และหน้าต่างทุกบานได้กระจกใสเขียวตัดแสงบานเลื่อน พื้นชั้นล่างเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. พื้นชั้น 2 และ 3 เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ห้องครัวไม่ได้ให้เคาน์เตอร์ แต่เดินระบบน้ำไว้ให้เรียบร้อย บันไดในบ้านเป็นไม้จริง สุขภัณฑ์ในห้องน้ำเป็นของ Victor และ American Standard

สาธารณูปโภค ส่วนกลาง มี Club House อยู่ด้านหน้าโครงการเลย แบ่งเป็น ฟิตเนสมีเครื่องออกกำลังกาย 8 เครื่อง มีห้องน้ำแยกชาย-หญิง มีห้องประชุม ส่วนกลางแจ้งเป็นสระว่ายน้ำแยกสระเด็ก มีพื้นที่นั่งเล่นริมสระได้ รอบๆจัดสวนตกแต่งด้วยไม้พุ่ม และไม้ใหญ่ มีสวนหย่อมอยู่ช่วงกึ่งกลางของพื้นที่โครงการ มีไม้ใหญ่ ไม้พุ่ม ตกแต่งมาอย่างสวยงาม มีสนามหญ้าไว้นั่งเล่นชมวิวในสวน ถนนหลักโครงการกว้าง 16 ม. ถนนซอยกว้าง 9 ม. ตามริมถนนหลักจะปลูกต้นไม้เป็นแนวไว้สร้างความร่มรื่นให้โครงการได้ดี

ระบบรักษาความปลอดภัยมี ร.ป.ภ. ตลอด 24 ชม. ร้ัวรอบโครงการสูง 3 ม. ประตูทางเข้าโครงการแยกส่วนสำหรับลูกบ้าน และ Visitor ลูกบ้านต้องแตะ Key Card เข้าออก มีไม้กระดก ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรก่อนครับ ตรงประตูเข้าออกติดตั้ง CCTV ไว้ด้วย

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 1388

WEBSITE : http://www.qh.co.th

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณครับ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวครับ

ใหม่! บ้านเดี่ยว ภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ โดดเด่น เรียบหรู และผสมผสานด้วยกลิ่นอาย English Cottage Garden เริ่ม 4.xx ล้านบาท

พฤกษา เรียลเอสเตท เตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ “ภัสสร เพรสทีจ ลุกซ์ พัฒนาการ” Passorn Prestiege Luxe Pattanakarn 38 สัมผัสบ้าน…สไตล์ Art Nouveau ที่ออกแบบมาเพื่อตอบสนองการใช้ชีวิตของคนเมือง โดดเด่น เรียบหรู และผสมผสานด้วยกลิ่นอาย English Cottage Gardenเริ่ม 4 ล้านกว่าๆ เร็วๆนี้

แผนที่โครงการ

ซอยพัฒนาการ 38 แขวงสวนหลวง เขตสวนหลวง กทม.

คลิกที่รูป เพื่อดูแผนที่ขนาดใหญ่

ลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารและสิทธิพิเศษก่อนใคร

คลิก เพื่อลงทะเบียน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 1739

WEBSITE :  http://www.pruksa.com/

EP.322 รีวิว บ้านเดี่ยว โกลเด้น เพรสทีจ เอกชัย-วงแหวน Golden Prestige Ekkachai-Wongwaen

สวัสดีครับทุกท่านวันนี้ผมมีรีวิวโครงการ Golden Prestige เอกชัย-วงแหวน จาก Golden Land มาฝาก โดยตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยเอกชัย 102/3 ห่างจากปากซอยประมาณ 130 ม. ภายในโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น ออกแบบตกแต่งรูปแบบมาในสไตล์อิงลิชคันทรี่ มีแบบบ้านให้เลือก 3 แบบ พร้อม Club House และสวนหย่อมส่วนกลางแบบจัดเต็ม ในราคาเริ่มต้น 8.59 ล้านบาท

ที่ตั้งโครงการ

ซอยเอกชัย 102/3 ถนนเอกชัย เขตจอมทอง กทม. 10150

พิกัด : 13.659132, 100.396336

ทำเลโครงการ Golden Prestige เอกชัย-วงแหวน อยู่ในย่านชานเมืองซึ่งเลยไปอีกนิดเดียวก็จะเป็นสมุทรสาครแล้ว ตัวโครงการตั้งอยู่ในซอยเอกชัย 102/3 เข้าซอยไปประมาณ 130 ม. ปากซอยเป็นถนนเอกชัยที่เชื่อมมาจากถนนสุขสวัสดิ์และถนนจอมทอง และไปสิ้นสุดที่ทางหลวงแผ่นดิน 3242 ซึ่งเชื่อมไปถึงจังหวัดสมุทรสาครเลย การเดินทางค่อนข้างสะดวกมีเส้นทางเชื่อมไปยังที่ต่างๆได้หลากหลายเส้น ถ้าจะเข้าเมืองก็วิ่งมาถนนกาญจนาภิเษก แล้วไปเข้าเส้นกัลปพฤกษ์ไปออกราชพฤกษ์ก็วิ่งตามแนว BTS เข้าสาทร สีลม พระรามสี่ได้ครับ หรือถ้าจะไปโซนพระราม 9 ดินแดง ก็มาขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครตรงถนนพระรามสอง หรือแถวสุขสวัสดิ์ก็ได้ครับ

ส่วนถ้าจะออกนอกเมือง เส้นเอกชัยนอกจากไปสมุทรสาครได้แล้ว ยังมีซอยที่เชื่อมไปออกถนนเพชรเกษมได้ เช่นถนนบางบอน 3 เชื่อมกับเพชรเกษม 69 และบางบอน 5 เชื่อมกับเพชรเกษม 81 ถนนเพชรเกษมเป็นเส้นที่เริ่มจากวงเวียนใหญ่ สามารถวิ่งเข้าและออกเมืองยาวไปจนถึงต่างจังหวัดได้เลย และยังมีถนนสายสำคัญต่างๆที่ตัดผ่านเช่น ถนนกาญจนาภิเษก ราชพฤกษ์ ถนนพุทธมณฑลแต่ละสาย ออกต่างจังหวัดไปนครปฐม เพชรบุรีก็ได้ ส่วนเส้นกาญจนาภิเษกสามารถไปได้ทั้งฝั่งสมุทรปราการ และฝั่งนนทบุรี บางใหญ่ หรือยาวไปปทุมธานีได้เลย การจราจรแถวนี้จะติดขัดเป็นบางช่วงเวลา รถค่อนข้างวิ่งเยอะเนื่องจากเป็นเส้นท่ีเชื่อมออกไปยังเส้นต่างๆได้ครับ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ ปากซอยโครงการมีป้ายรถเมล Taxi วินมอเตอร์ไซค์ สองแถวก็โบกขึ้นหน้าปากซอยได้เลยครับสะดวกดี นอกจากนี้ถ้าใครอยากจะใช้บริการรถไฟฟ้าก็สามารถไปขึ้นได้ที่สถานีบางหว้า ห่างจากโครงการประมาณ 11 กม. แต่อนาคตสามารถไปขึ้นได้ที่สถานีหลักสองตรง The Mall บางแค ห่างจากโครงการประมาณ 7 กม. ตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้างอีกไม่นานคงได้ใช้บริการกันครับ

การเดินทางวันนี้เริ่มจากทางด่วนเฉลิมมหานครตรงสะพานพระราม 9 มุ่งหน้าสมุทรสาคร ลงทางด่วนแล้ววิ่งตามถนนพระราม 2 จากนั้นวิ่งตามป้ายถนนกาญจนาภิเษก และบางแค จากนั้นขึ้นสะพานลอยกลับรถไปถนนกาญจนาภิเษก วิ่งตรงไปตามป้ายสมุทรสาครเข้าถนนเอกชัย จากนั้นขับตรงไปผ่านซอยเอกชัย 102/3 ซึ่งเป็นซอยโครงการอยู่ฝั่งขวามือ ตรงไปกลับรถ แล้ววิ่งย้อนกลับมาที่ซอยเอกชัย 102/3 เลี้ยวเข้าซอยไปประมาณ 130 ม. โครงการอยู่ทางขวามือครับ

สรุปการเดินทาง ทางด่วนเฉลิมมหานคร > ถนนพระราม 2 > ถนนกาญจนาภิเษก > ถนนเอกชัย > กลับรถ > เข้าซอยเอกชัย 102/3 > Golden Prestige เอกชัย-วงแหวน

วันนีเริ่มกันบนทางด่วนเฉลิมมหานครตรงช่วงสะพานพระราม 9 มุ่งหน้าไปดาวคะนอง ขวามือเป็นธนาคารกสิกรไทย สำนักงานใหญ่ครับ

ลงสะพานมาจะเจอป้ายดาวคะนอง ให้วิ่งตรงตามป้ายไปครับ

จากนั้นจะเจอป้ายสมุทรสาคร ให้ตามป้ายสมุทรสาครครับ

ลงทางด่วนมาจะเป็นถนนพระราม 2 จากนั้นให้วิ่งตามป้ายถนนกาญจนาภิเษก

ตรงมาหน่อยจะเจอ Home Pro และ Big C ซ้ายมือครับ ส่วนขวามือจะเป็น Central พระรามสอง

จากนั้นก็วิ่งตรงตามป้ายสมุทรสาครไปอีกหน่อย

และจะเจอป้ายถนนกาญจนาภิเษก ให้เตรียมชิดซ้ายออกทางขนาด ซ้ายมือจะเป็นโลตัสครับ

ชิดซ้ายออกทางขนาดได้เลยครับตามป้ายไป

จากนั้นก็วิ่งตรงตามเส้นขนาดถนนพระราม 2 ไปอีก

และจะเจอป้ายไปบางแคเข้าช่องซ้าย

ตามป้ายบางแคเบี่ยงซ้ายนะครับ ตรงนี้ต้องสังเกตทางดีๆครับ ระวังจะเข้าช่องผิด

เบี่ยงซ้ายตามทางไปจนถึงสะพานลอยครับ

เบี่ยงซ้ายมาจะเจอทางแยกสองทางคือ ซ้ายมือจะไปขึ้นทางด่วนไปบางนา ส่วนขวามือที่ไฮไลท์สีแดงคือทางไปบางแคครับ

ขึ้นสะพานลอยตามทางไปครับ

ลงสะพายลอยมาจะเป็นถนนกาญจนาภิเษก ให้ขับตรงไปอีกครับ

วิ่งตามถนนกาญจนาภิเษกโดยวิ่งตามเส้นคู่ขนาดไปครับ ไม่ต้องเข้าเส้นหลักนะครับ

สักพักจะเจอป้ายโครงการบอกให้เลี้ยวเข้าถนนเอกซัย

พอเจอป้ายบอกไปสมุทรสาครก็เตรียมเลี้ยวซ้ายเข้าถนนเอกชัยได้เลย

เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเอกชัยได้เลยครับ

เลี้ยวเข้ามาจะเป็นถนนเอกชัย วิ่งตรงไปอีก

ถนนเอกชัยเป็นถนนขนาด 6 เลน แบ่งฝั่งละ 3 เลน มีเกาะกลาง

เลยมาหน่อยจะเจอป้ายโครงการบอกทางเข้า ซึ่งซอยจะอยู่ฝั่งขวาเราต้องตรงไปกลับรถก่อนครับ

ฝั่งตรงข้ามซอยทางเข้าโครงการ จะมี Big C Mini และ Tesco Lotus Expressm ตรงไปกลับรถข้างหน้าครับ

เลยมาจะเจอ 7-11 ซ้ายมือ

จากนั้นจะเจอปั๊ม PTT ขวามือ

ขับเลยมาหน่อยจะเจอป้ายบอกทางกลับรถให้เตรียมชิดขวาไว้ครับ

และก็จะเจอจุดกลับรถ ให้กลับรถได้เลย

กลับรถมาจะเป็นถนนเอกชัยเหมือนกันขับย้อนขึ้นไปยังซอยโครงการต่อครับ

จากนั้นจะเจอธนาคารไทยพาณิชย์ซ้ายมือครับ

และจะเจอปั๊ม PTT เป็นปั๊มแก๊สและปั๊มน้ำมันอยู่ติดกันเลย

เลยมาหน่อยก็จะเริ่มเห็นป้ายโครงการอีกครับ

จากนั้นจะมองเห็น Big C Mini และ Tesco Lotus Express อยู่ทางขวามือที่เราขับผ่านมา เตรียมชิดซ้ายเข้าโครงการได้เลย

จากจุดกลับรถมาประมาณ 1.2 กม.จะเจอซอยโครงการครับ จากนั้นให้เลี้ยวเข้าซอยเอกชัย 102/3 สังเกตซ้ายมือปากซอยมีป้ายลูกชิ้นปลา

จากนั้นเข้าซอยเอกชัยไปประมาณ 130 ม. โครงการจะอยู่ทางขวามือครับ

หน้าปากซอยเอกชัย 102/3 เลี้ยวซ้ายเข้าซอยได้เลยครับ

เลี้ยวเข้าซอยมาจะเป็นซอยเอกชัย 102/3 ภายในซอยฝั่งซ้ายจะเห็นเป็นด้านหลังของตึกแถว ส่วนฝั่งขวาตอนนี้ยังเป็นพื้นที่ว่างเปล่าอยู่ เราตรงไปประมาณ 130 ม. ก็ถึงโครงการครับ

ตรงเข้ามาสุดจะเจอทางเข้าโครงการทางขวามือครับ

ตรงมาสุดจะเจอทางแยกขวามือเข้าโครงการ มองเห็นประตูทางเข้าโครงการครับ

ฝั่งซ้ายมือเป็นบริษัทนิวตั้น อีควิปเม้นท์ โรงงานผลิตน้ำแข็ง เครื่องทำน้ำแข็งต่างๆ

เลี้ยวเข้าโครงการได้เลยครับ

ถึงแล้วครับประตูทางเข้าโครงการ

ความอุดมสมบูรณ์รอบๆโครงการ ย่านนี้ส่วนใหญ่จะเป็นร้านอาหารข้างทางตามริมฝั่งสองข้างทางถนนเอกชัยครับ มีทั้งตลาด ร้านค้า คิลนิก ร้านประดับยนต์ ปั๊มน้ำมัน ธนาคาร ปากซอยโครงการมีร้านอาหารมีก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง พอฝากท้องได้บ้าง ฝั่งตรงข้ามปากซอยโครงการมี Big C Mini , Tesco Lotus Express , 7-11 ถ้าไกลออกมาหน่อยตรงเส้นพระราม 2 มีเซ็นทรัล พระราม 2 , Big C , Lotus , Homepro หากไปทางเส้นกาญจนาภิเษกก็มี Makro , สำเพ็ง 2 ไปทางเพชรเกษม ก็มี Big C , Lotus , Homepro , ซีคอนบางแค , The Mall บางแค สะดวกเส้นไหนก็ไปโซนนั้นครับ

รอบๆโครงการตอนนี้ส่วนใหญ่จะเป็นพื้นที่ว่างเปล่ายังไม่มีสิ่งปลูกสร้าง แต่อนาคตก็ต้องดูกันอีกที โดยทิศเหนือ ทิศตะวันออกและตะวันตกติดกับพื้นที่ว่างเปล่าครับ ส่วนทิศใต้จะติดกับซอยเอกชัย 102/3 และพื้นที่ว่างเปล่า

สถานที่สำคัญใกล้เคียง

• 7-11 : 150 ม.
• Lotus Express : 150 ม.
• Big C Mini : 150 ม.
• MRT หลักสอง : 7 กม.(อยู่ในช่วงก่อสร้าง)
• BTS บางหว้า : 11 กม.
• โรงเรียนสารสาสน์ วิเทศหนองแขม 8.3 กม.
• โรงพยาบาลวิชัยเวช : 10.7 กม.
• โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ บางแค : 7.4 กม.
• Makro : 2.3 กม.
• รพ.พระราม 2 : 7.9 กม.
• รพ.บางปะกอก 9 : 11 กม.
• Tesco Lotus : 8.8 กม.
• Big C : 7.6 กม.
• เซ็นทรัลพระราม 2 : 6.6 กม.
• The Mall บางแค : 7 กม.

โครงการ

เริ่มจากประตูทางเข้าโครงการด้านหน้า ออกแบบตกแต่งมาในสไตล์อิงลิชคันทรี่ ขวามือเป็นป้ายโครงการ

มองไปฝั่งป้ายโครงการ มีจัดสวนรอบๆ

ซูมเข้ามาใกล้อีกหน่อย

มองเข้าไปจะเห็นบ่อน้ำพุ มีดอกบัวปลูกไว้ให้ รอบๆบ่อจัดพุ่มไม้ตกแต่งไว้

ประตูทางเข้าออกแบบมาสวยดี แยกทางเข้าออกซ้าย ขวา มีป้อมยามตรงกลาง

ส่วนของทางเข้า ถ้าเป็นลูกบ้านก็เข้าเลนซ้ายได้เลย มีไม้กระดกกั้นระบบเข้าออกเป็นแบบ Easy Pass บนทางด่วนที่เราใช้กัน ขับเข้าไปได้เลยจะมีเซนเซอร์จับระยะไกล ส่วน Visitor ต้องเข้าช่องขวาและต้องแลกบัตรทุกคร้ังที่ป้อมยามครับ

ผ่านประตูทางเข้ามาจะเจอถนนหลักขนาด 12 ม. จะเห็นสวนหย่อมอยู่ทางขวามือ

ซ้ายมือเป็นรั้วโครงการสูง 3 ม. มีแนวต้นไม้ปลูกเรียงเข้าไป สร้างความร่มรื่นได้ดีครับ

มองทางขวาจะเห็นส่วนหย่อมซึ่งจะอยู่ติดกับทางเข้าโครงการเลย

มองกลับไปยังประตูทางเข้าจะเห็นแบบนี้ครับ

เดินไปดูข้างในสวนหย่อมกันต่อ

เดินเข้ามาจะเจอทางเดินเท้าเชื่อมกันตลอด

มองไปทางขวาจะเห็นร่องน้ำยาวไปถึงบ่อน้ำพุด้านหน้าโครงการครับ

มองไปทางซ้ายจะเห็นแบบนี้ มีแนวร่องน้ำยาวเข้าไปด้านในอีก

หันหลังกลับไปดูยังทางที่เราเดินเข้ามาครับ

เดินตามทางเข้ามาอีกมีทั้งไม้พุ่ม ไม้ใหญ่ปลูกไว้สวยงาม

เดินมาอีกหน่อยซ้ายมือจะเห็นน้ำตกเล็กๆจัดมาให้

เดินเลยมาอีกจะเห็นลานโล่งๆข้างหน้า ขวามือมีสนามเด็กเล่น

เดินออกมาตรงลาน ตรงนี้ไว้ให้ลูกบ้านทำกิจกรรมต่างๆได้

มองไปยังหน้าโครงการ มีน้ำพุให้ตรงส่วนนี้ด้วย มองเห็นแนวต้นสนสวยดีครับ

มองไปยังด้านในสวนอีก

ติดกับลานโล่งมีสนามเด็กเล่น

ในสนามเด็กเล่นเป็นพื้นทราย วางเครื่องเล่นเด็กๆมาให้

เดินมาอีกจะเห็นสนามหญ้าและต้นไม้

เดินมาปลายสุดของสวน ทางเดินจะเชื่อมออกถนนหลัก ขวามือจะเห็นซุ้มนั่งเล่น

มองไปส่วนที่เป็นซุ้มนั่งเล่น ทำเป็นขั้นๆขึ้นไปมีไม้พุ่มล้อมรอบ

มองจากด้านหน้าทางเดินขึ้นไปจะเห็นแบบนี้ครับ

เดินขึ้นมาจะเป็นว่าทำเป็นที่นั่งตามมุม ตรงกลางเป็นโต๊ะกลม ส่วนโครงสร้างทำเป็นระแนงให้ไม้เลื้อยแต่คงต้องรออีกสักพักกว่าจะเลื้อยเต็ม

มองกลับลงไปด้านล่างจะเห็นถนนหลักตรงหน้า

เดินลงมาจะเห็นพุ่มไม้แบบนี้

เดินออกมามองไปฝั่งตรงข้ามจะเห็นซุ้มนั่งเล่น

เดินมาฝั่งตรงข้ามจะเป็นซุ้มนั่งเล่น และมีพุ่มไม้ตกแต่งมาสวยงาม

ออกมาตรงถนนหลักเดินเข้าไปดูด้านในโครงการต่อ

เดินผ่านสวนมาจะเริ่มเป็นบ้านพักตั้งแต่ซ้ายมือเลยครับ

สองฝั่งทางริมถนนจะมีทางเดินเท้าปูพื้นหญ้าและแผ่นปูนเรียงต่อกันเป็นแนว รอให้ต้นไม้ใหญ่กว่านี้จะร่มรื่นดี

ตรงเข้าไปอีกครับ จะเจอสะพานข้างหน้า

จากนั้นจะเจอสะพานข้ามคลองบางพราน เป็นคลองเล็กๆ

มองไปทางซ้ายจะเห็นแนวคลองยาวไปอีก

มองไปทางขวาก็เป็นแนวคลองเช่นกัน

เดินลงสะพานกันต่อครับ

ลงสะพานมาขวามือจะเห็น Club House

ส่วนทางซ้ายมือจะเป็นส่วนหย่อม และสนามพัตกอล์ฟ

เดินเข้ามาด้านในสวน มีทางเดินเท้ารอบสวน

มองไปอีกฝั่งจะเห็นทางเดินเท้าเป็นทางเข้าไปอีก

มองไปตรงกลางจะเห็นสนามหญ้าแบบนี้ครับ

มีซุ้มให้นั่งเล่นอยู่ปลายสนามหญ้า

ซุ้มวงกลม มีที่นั่งรอบๆ

มองลงไปที่สนามหญ้า มองเห็นสนามพัตกอล์ฟตรงหน้า

มีทั้งแบบหลุมทราย และหญ้าเทียมด้านบน

ปลายสุดมีที่นั่งพักเชื่อมกับทางเดิน

มองกลับเข้าไปในสวนจะเห็นแบบนี้ครับ

กลับออกมาถนนหลักใหม่ ตรงหน้าจะเมองเห็นวงเวียน

ขวามือไป Club House และบ้านตัวอย่าง ซ้ายมือเป็นบ้านพร้อมอยู่ หรือตรงไปก็จะเป็นซอยย่อยไปอีกครับ

มาดูส่วนถนนซอยมีความกว้าง 9 ม.

บ้านทุกหลังจะมีรั้วโปร่งรอบตัวบ้านแบบนี้ครับ

ประตูหน้าบ้านเป็นแบบเลื่อน 2 ตอน

เลื่อนออกจะเป็นแบบนี้

กลับออกมาตรงวงเวียน ซ้ายมือเป็นทางไป Club House ขวามือคือทางที่มาจากหน้าโครงการ

เดินเข้ามาส่วน Club House กันต่อ

ก่อนถึง Club House มีที่นั่งพักอีกจุด ตกแต่งต้นไม้มาให้

จากนั้นมองเข้าไปก็จะเห็น Club House

เดินเข้ามาจะเจอทางเข้า Club House แบบนี้ครับ ตกแต่งมาในสไตล์อิงลิชคันทรี่ ซ้ายมือมีที่จอดรถ

เดินเข้ามาจะเป็นโถงแยกซ้ายไปสระว่ายน้ำ ขวาจะเข้า Club House ตรงหน้ามองออกไปเห็นสระว่ายน้ำ

เงยหน้ามองด้านบนหน่อย

มองออกมาจากทางเข้าจะเห็นน้ำตก และสระว่ายน้ำครับ

เดินไปดูสระว่ายน้ำกันก่อนครับ

ทางเดินไปยังสระว่ายน้ำ มีหลังคาโพลีคาร์พอเนตเป็นหลังคาใสให้แสงส่องผ่านลงมาได้ มีเก้าอี้นั่งชมวิวได้

ยืนตรงมุมแล้วถ่ายย้อนกลับไปจะเห็นแบบนี้ครับ

เดินมาซ้ายมือจะเป็นห้องเก็บของ

มองไปด้านข้างอีกฝั่งจะเห็นน้ำตก และโถงทางเข้า Club House ตรงกลาง

เลยจากห้องเก็บของมาก่อนขึ้นสระว่ายน้ำ ซ้ายมือมีห้องน้ำแยกชายหญิง

มองเข้าไปซ้ายมือเป็นห้องน้ำชาย ขวามือเป็นห้องนำ้หญิง

ภายในห้องน้ำชายเดินเข้ามาเจอเคาน์เตอร์ก่อน

ชุดเคาน์เตอร์อ่างล้างหน้า พร้อมกระจกเงาบานใหญ่

อ่างล้างหน้ามีมาให้ 2 ชุด

มองไปอีกฝั่งซ้ายมือเป็นตู้ Locker เก็บของ ตรงหน้าอีกฝั่งไม่ได้กันผนังปิด เปิดโล่งให้อากาศไหลผ่านได้ครับ

ถัดมาเป็นโถปัสสาวะ 2 โถ

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 1 ห้อง

ภายในห้องน้ำ

ภายในห้องอาบน้ำ

ออกมาหน้าห้องน้ำ เดินไปดูสระว่ายน้ำต่อ

เดินออกมาจะเห็นสระว่ายน้ำแบบนี้

ขึ้นบันไดมาซ้ายมือจะเจอส่วนล้างตัว ก่อนและหลังลงสระว่ายน้ำ

รอบสระน้ำเป็น Deck ไม้ จัดโต๊ะนั่งไว้ให้ มองออกไปนอกรั้วมีต้นไม้เป็นแนวสูงต่ำ ดูแล้วเย็นสบายตาดีครับ

มองออกไปที่สระว่ายน้ำ ขวามือเป็น Club House สระว่ายน้ำเป็นระบบเกลือขนาด 20 x 10 ม. แยกสระเด็ก

Deck ริมสระอีกฝั่งวาง Day Bed ไว้ 4 ที่พร้อมร่มบังแดด

จากมุมสระมองไปจะเห็นแบบนี้ครับ

เดินมาปลายสระมองลงไปเห็นบ่อเล็กๆ ที่ทำขึ้นมาเพื่อเลี้ยงหงส์ 2 ตัวไว้ในนี้ครับ

มองกลับไปยังส่วน Club House

กลับออกมาตรงโถงทางเข้า Club House เดินไปดูอีกฝั่งกันครับ

เดินเข้ามาตรงหน้าจะเห็นส่วน Club House

เดินเข้ามาจะเจอลานด้านหน้าก่อนเข้าข้างใน

มองไปจะเห็นชุดโต๊ะและเก้าอี้จัดไว้ให้นั่งชมวิวสระ

มองออกไปที่สระว่ายน้ำ

มองไปยังฝั่งห้องน้ำ เห็นน้ำตกตรงกลาง

มองไปฝั่งบ่อเลี้ยงหงส์ เห็นชานนั่งพักผ่อน

เดินเข้าไปดูด้านใน Club House กันต่อ

ภายใน Club House ตอนนี้เป็นสำนักงานขายอยู่ครับ

มองไปอีกฝั่งจัดชุดโซฟาวางไว้ ในสุดมีประตูเดินออกไปยังบ่อเลี้ยงหงส์ครับ

เลื่อนประตูออกมาจะเจอระเบียง

มองออกไปจะเห็นแบบนี้

มองไปทางขวาจะเห็นบันไดทางลงไปยังชานพักริมบ่อน้ำครับ

ทางเดินลงไม่มีราวกันตกนะครับ ระวังตกกันด้วย และก็คอยดูเด็กๆด้วยนะครับอย่าปล่อยให้มาตรงนี้คนเดียว

มองออกไปจะเห็นชาน และที่นั่งพักผ่อนชมหงส์เล่นน้ำ

ตรงชานพักมองออกไปจะเห็นถนนหลัก ฝั่งตรงข้ามเป็นสวนหย่อมและสนามพัตกอล์ฟ

ตรงชานพัก มีที่นั่งพักผ่อนและปลูกต้นไม้เพื่อให้ร่มเงา

มองไปในสุดจะเป็นบ้านของเจ้าหงส์ 2 ตัวนี้

มองไปยังสระว่ายน้ำด้านใน เวลาว่ายน้ำที่สระมองลงมาก็จะเห็นเจ้าหงส์ เล่นน้ำด้วยครับ

มองไปยังฝั่ง Club House อยากจะนั่งพักตรงนี้นานๆจังเลยยยย…….

ปิดท้ายด้วยหงส์ประจำโครงการ 2 ตัวนี้ครับ ใครแวะมาชมโครงการนี้ อย่าลืมเข้ามาทักทายเจ้า 2 ตัวนี้ด้วยนะครับ

House Type

แบบบ้านโครงการนี้มีให้เลือก 3 แบบครับ แบ่งเป็น Nice , Monaco , Provence

1 แบบบ้าน : Nice พื้นที่ใช้สอย : 225.00 ตร.ม. 4 ห้องนอน | 3 ห้องน้ำ | ที่จอดรถ 4 คัน

แปลนบ้านแบบ Nice

2 แบบบ้าน : Monaco พื้นที่ใช้สอย : 248.00 ตร.ม. 4 ห้องนอน | 5 ห้องน้ำ | ที่จอดรถ 4 คัน | 1 ห้องแม่บ้าน

แปลนบ้านแบบ Monaco

3 แบบบ้าน : Provence พื้นที่ใช้สอย : 286.00 ตร.ม. 4 ห้องนอน | 5 ห้องน้ำ | ที่จอดรถ 4 คัน | 1 ห้องแม่บ้าน

แปลนบ้านแบบ Provence

บ้านตัวอย่าง

บ้านตัวอย่างที่พามาชมวันนี้แบบแรกเป็นแบบ Nice พื้นที่ใช้สอย : 225.00 ตร.ม. 4 ห้องนอน | 3 ห้องน้ำ | ที่จอดรถ 4 คัน

เริ่มจากชั้น 1 ที่จอดรถทุกแบบจะจอดได้ 4 คันคือในตัวบ้าน 2 คัน และกลางแจ้ง 2 คัน มีประตูเข้าบ้านจากที่จอดรถได้ ที่จอดรถมีห้องเก็บของมาให้ ทางเข้าบ้านหลักมี 2 ประตูคือเข้าไปแล้วเจอส่วนห้องนั่งเล่น และเจอส่วนรับประทานอาหาร สามารถสลับปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นกันได้แล้วแต่ความชอบ เดินเข้าบ้านมาส่วนห้องนั่งเล่นและส่วนรับประทานอาหารจะเชื่อมกัน และมีทางเดินไปยังส่วนอเนกประสงค์อยู่หน้าห้องนอน 4 ในห้องนอนมีประตูออกไปมุมหลังบ้านได้ ครัวอยู่อีกฝั่งมีประตูเดินออกหลังบ้านได้ ตรงข้ามกับครัวเป็นห้องน้ำ บันไดขึ้นชั้นสองอยู่ติดกับห้องน้ำ

ขึ้นชั้น 2 มาเจอโถงบันไดก่อน เชื่อมกับส่วนห้องนั่งเล่น ทำเป็นห้องทำงานก็ได้ Master Bedroom อยู่ซ้ายมือโซนหน้าบ้าน มีห้องน้ำในตัว และระเบียงออกมาหน้าบ้าน ส่วนห้องนอน 2 และ 3 อยู่โซนหลังบ้าน ขนาดห้องใกล้เคียงกัน และต้องออกมาใช้ห้องน้ำตรงโถงบันไดทั้ง 2 ห้องครับ

มาดูบ้านตัวอย่างกัน บ้านแบบแรกที่จะพามาชมเป็นขนาดเล็กสุดในโครงการ ของจริงจะมีรั้วหน้าบ้านให้นะครับ

มองเข้าไปในตัวบ้านจากทางเข้า

เข้ามาจะเจอที่จอดรถซ้ายมือ ขวามือหน้าบ้านมีพื้นที่จัดสวนหย่อมได้ ภายนอกบ้านออกแบบมาในสไตล์อิงลิชคันทรี่ สีภายนอกโทนขาว ครีมและเทา

มองไปด้านหน้าทางเข้าบ้าน โครงการจัดเป็นสวนหย่อม มีน้ำพุตรงกลางให้ดู

ข้างน้ำพุวางโต๊ะสนาม ไว้นั่งพักผ่อน ใครชอบแบบนี้ก็ทำตามกันได้

เดินมาข้างบ้าน เหลือระยะพอเดินได้

มุมสุดหลังบ้านจัดเป็นสวนชิงช้า ส่วนนี้จะเชื่อมกับห้องนอน 4

มุมสวนชิงช้าหลังบ้าน

มองไปจะเชื่อมกับห้องนอน 4 มีประตูเข้าออกจากห้องนอน 4 ได้ครับ

เดินมาหลังบ้านกันต่อ

ตรงหลังบ้านจะมีส่วนซักล้าง มีประตูเข้าออกหลังบ้านครับ

ผ่านส่วนหลังบ้านมาก็จะเจอที่จอดรถด้านข้างบ้านอีกฝั่ง

มองจากมุมย้อนเข้าไปจะเห็นแบบนี้ครับ

เดินมาด้านข้างบ้านจะเห็นที่จอดรถนอกตัวบ้าน

เดินออกมาถึงด้านหน้าบ้านแล้วครับ

ที่จอดรถจอดใต้หลังคาได้ 2 คัน และนอกตัวบ้านอีก 2 คัน ขวามือมีห้องเก็บของ และประตูเข้าบ้านจากที่จอดรถได้

ทางเข้าบ้านจากฝั่งหน้าบ้านมีทางเข้าสองทางอยู่ฝั่งขวาครับ

ทางเข้าฝั่งซ้ายเข้าไปจะตรงกับส่วนรับประทานอาหาร ส่วนฝั่งขวาจะตรงกับส่วนห้องนั่งเล่นครับ ผมจะพาเดินเข้าไปทางห้องนั่งเล่นก่อน ประตูทางเข้าจะเป็นกระจกบานเลื่อนทั้งหมด

มือจับ และตัวล็อคประตูด้านนอก

เดินเข้ามาจะเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับส่วนรับประทานอาหารซ้ายมือ และไปยังส่วนต่างๆในบ้าน พื้นชั้นล่างปูกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ฝ้าชั้นล่างสูง 2.6 ม. ผนังได้เป็นฉาบเรียบทาสีทั้งหมด

วางโซฟารูปตัว L ให้ดูระยะพร้อมโต๊ะกลาง

ระยะดูทีวีประมาณ 2.6 ม. ขวามือเป็นประตูทางเข้าที่เดินเข้ามา

ถัดจากส่วนห้องนั่งเล่น จะเป็นส่วนรับประทานอาหารครับ ใครอยากจะสลับห้องนั่งเล่นกับส่วนรับประทานอาหารก็ได้นะครับ

วางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 6 ที่นั่งให้ดูระยะรอบๆ

มองออกไปหน้าบ้านเป็นประตูทางเข้า-ออกบ้านอีกทาง

เลื่อนประตูออกมาจะเจอเฉลียงหน้าบ้าน

มองไปทางขวา

มองไปทางซ้าย จะเห็นว่าเฉลียงเชื่อมต่อกันยาวไปถึงประตูทางเข้าส่วนห้องนั่งเล่นเลย

กลับเข้ามาในบ้านต่อ

ถัดจากส่วนรับประทานอาหารจะมีทางเดินเข้าไปยังส่วนห้องอเนกประสงค์ ห้องครัว ห้องน้ำ และบันไดขึ้นชั้น 2

เดินเข้ามาขวามือจะเป็นส่วนอเนกประสงค์ผนังติดกับห้องครัว

มองเข้าไปส่วนอเนกประสงค์ สามารถทำเป็นห้องทำงาน ห้องอ่านหนังสือได้ ขวามือเป็นห้องนอน 4 ครับ

ภายในห้องนอน 4 ห้องนี้เหมาะจะเป็นห้องรับรองแขก หรือบ้านใครมีผู้สูงอายุห้องนี้ก็เหมาะครับ จะได้ไม่ต้องเดินขึ้นลงบันไดลำบาก

วางเตียงเดี่ยวให้ดูเหลือพื้นที่ปลายเตียงประมาณ 70 ซม. ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.7 ม.

ข้างเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 1.4 ม. ทำตู้เสื้อผ้ามาให้ดู ขวามือมีประตูออกไปยังมุมหลังบ้านได้

เปิดออกมาจะเจอเฉลียงขนาด 1.8 x 2.9 ม.

มือจับประตูแบบเดียวกับประตูทางเข้าหน้าบ้าน ของ Amigo

มองออกไปจะเห็นสวนชิงช้าแบบนี้

กลับเข้ามาในห้อง

ถัดจากห้องอเนกประสงค์มีทางเดินไปยังห้องครัวขวามือ และห้องน้ำซ้ายมือ ตรงกลางเป็นประตูออกไปยังที่จอดรถได้

ภายในห้องครัวทำเคาน์เตอร์มาให้ดู ของจริงจะได้เป็นครัวเปล่าแต่เดินระบบนำ้ไว้ให้ ในสุดเป็นประตูออกหลังบ้านได้

มือจับประตูเป็นแบบคันโยก

เปิดประตูออกมาจะเจอส่วนซักล้างครับ

ติดกับประตูหลังบ้านมีหน้าต่างบานเปิดออก 1 บาน

มองกลับเข้าไปด้านใน มีพื้นที่วางตู้เย็นขวามือ

ตรงข้ามกับห้องครัวเป็นห้องน้ำ ขวามือเป็นประตูออกไปยังที่จอดรถครับ

ภายในห้องน้ำเรียงจากส่วนแห้ง ในสุดเป็นส่วนเปียก

ชุดอ่างล้างหน้าที่ได้ของ Victor ติดกันวางโถสุขภัณฑ์ของ Victor เช่นกันครับ

ในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดฝักบัวแบบปรับระดับสูงต่ำมาให้ ขวามือมีช่องแสงระบายอากาศได้เป็นบานกระทุ้ง

หน้าตาฝักบัวที่ได้ขนาดใหญ่

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.3 x 0.70 ม.

พื้นห้องน้ำจะต่ำกว่าพื้นบ้านชั้น 1

ออกมาหน้าห้องน้ำ จะเป็นประตูออกไปยังที่จอดรถ

มือจับประตูเป็นคันโยก

เปิดออกมาจะเจอที่จอดรถครับ

กลับเข้ามาด้านใน ตรงข้ามกับส่วนอเนกประสงค์ จะเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ขวามือมีห้องเก็บของใต้บันได

มือจับประตูของเก็บของเป็นแบบคันโยก

ภายในห้องเก็บของยาวเข้าไปด้านใน และเลี้ยวซ้ายเข้าไปได้อีก เก็บของได้เยอะพอสมควรครับ

บันไดขึ้นชั้น 2 เป็นไม้สำเร็จรูป

เงยหน้ามองขึ้นไปจะเจอชานพักบันไดก่อน มีช่องแสง

มองขึ้นไปชั้น 2 จะเจอโถงบันไดก่อนครับ

เดินขึ้นมาแล้วมองลงไปที่ชานพัก

จากโถงบันได ซ้ายมือจะเป็นห้องนั่งเล่น ตรงกลางเป็นห้องนอน 2 และ 3 ขวามือเป็น Master Bedroom พื้นชั้น 2 เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ฝ้าชั้นสองสูง 2.8 ม.

ขึ้นมาจะเห็นส่วนห้องนั่งเล่น หรือใครจะทำเป็นห้องทำงาน อ่านหนังสือก็ได้ครับ

วางโซฟาพร้อมโต๊ะกลางให้ดู

ระยะดูทีวีประมาณ 2.4 ม.

ออกมาตรงโถงบันได ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ ตรงกลางเป็นห้องนอน 2 และ 3 ขวามือเป็น Master Bedroom ครับ

เดินเข้ามาดู Master Bedroom กันก่อนครับ

วางเตียงขนาด 5 ฟุตให้ดู พื้นที่ข้างเตียงเหลือฝั่งละ 70 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.6 ม.

ประตูออกระเบียงเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน

เปิดออกมาเจอระเบียงขนาด 1.3 x 3.3 ม.

มองไปทางซ้าย

มองไปทางขวา

มองไปข้างล่างจะเห็นสวนน้ำพุหน้าบ้าน ตื่นตอนเช้าออกมายืนตรงระเบียงแล้วเห็นแบบนี้คงจะสดชื่นดีนะครับ

กลับเข้ามาในห้องต่อ ฝั่งตรงข้ามเป็นพื้นที่ Walk in closet ผนังขวามือของจริงไม่ได้แถมให้นะครับ โครงการทำให้ดูเป็นตัวอย่าง

โครงการกั้นส่วนนี้มาให้ดู และทำเป็นส่วนแต่งตัว

ด้านในก็ทำตู้ยาวไปถึงหน้าห้องน้ำให้ดูครับ ใครชอบก็ทำตามเป็นไอเดียได้

เดินเข้ามาในห้องน้ำ เจอชุดอ่างล้างหน้าก่อน

ชุดอ่างล้างหน้าที่ได้ของ Victor มีพื้นที่วางของรอบๆ

โถสุขภัณฑ์อยู่อีกฝั่งของ Victor

พื้นที่ส่วนเปียกอยู่มุมด้านใน

ขนาดพื้นที่ส่วนเปียก 0.80 x 0.80 ม.

พื้นห้องน้ำจะต่ำกว่าพื้นห้องนอน

ออกมาตรงโถงบันไดไปดูห้องนอน 2 (ซ้าย) และห้องนอน 3 (ขวา) ส่วนห้องที่ติดกับห้องนอน 2 ซ้ายมือเป็นห้องน้ำครับ

ภายในห้องนอน 2 วางเตียงเดี่ยวมาให้ดู ระยะปลายเตียงเหลือประมาณ 80 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.31 ม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.8 ม.

ข้างเตียงวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูครับ

ภายในห้องนอน 3 วางเตียงเดี่ยวมาให้ดูเช่นกัน ปลายเตียงเหลือพื้นที่ประมาณ 70 ซม.

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 1.3 ม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.7 ม.

อีกฝั่งวางตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเครื่องแป้งมาให้ดูครับ

ฝั่งตรงข้ามกับ Master Bedroom จะเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง ในสุดมีช่องแสงบานกระทุ้ง 1 บาน

สุขภัณฑ์ได้ของ Victor ทั้งหมด

ด้านในเป็นพื้นที่ส่วนเปียก

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 1.3 x 0.70 ม.

พื้นห้องน้ำต่ำกว่าพื้นชั้น 2 ครับ

มาต่อกันอีกแบบ แบบบ้าน : Provence พื้นที่ใช้สอย : 286.00 ตร.ม. 4 ห้องนอน | 5 ห้องน้ำ | ที่จอดรถ 4 คัน | 1 ห้องแม่บ้าน

เริ่มกันที่ชั้น 1 ที่จอดรถจอดได้ 4 คัน จากที่จอดรถเดินไปข้างบ้านจะเป็นห้องแม่บ้านพร้อมห้องน้ำ และเดินไปเข้าหลังบ้านได้ ทางหลักเข้าบ้านมีเฉลียงก่อนเข้าบ้านเดินเข้ามาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับส่วนรับประทานอาหารด้านใน ขวามือเป็นห้องอเนกประสงค์เชื่อมกัน ถัดไปเป็นห้องครัว และห้องน้ำแบบ Powder Room ฝั่งซ้ายเป็นส่วนนั่งเล่นอีกส่วนอยู่หน้าห้องนอน 4 มีประตูเปิดออกมาหน้าบ้านได้ ในห้องนอนมีห้องน้ำเรียบร้อย มีประตูเปิดเชือมออกมาหน้าบ้านได้

ขึ้นชั้น 2 มาเจอโถงบันไดก่อนเชื่อมกับส่วนนั่งเล่น ฝั่งซ้ายเป็น Master Bedroom แบ่งเป็นส่วนห้องนอน ห้องออกกำลังกาย Walk in closet และห้องน้ำ ตรงส่วนห้องออกกำลังกายปรับเปลี่ยนเป็นส่วนทำงาน หรือไว้ดูหนังก็ได้ครับ ห้องนอน 2 อยู่มุมขวาโซนหน้าบ้านมีระเบียงเล็กๆไว้ปลูกต้นไม้ มีห้องน้ำในตัว ส่วนห้องนอน 3 อยู่โซนหลังบ้าน มีห้องน้ำในตัวเช่นกัน

รูปแบบบ้านภายนอกจะตามสไตล์เดียวกัน แต่แบบนี้จะเป็นขนาดใหญ่สุดของโครงการ ตกแต่งมาได้สวยงาม ส่วนซ้ายมือของบ้านที่เห็นเป็นชั้นเดีวคือส่วนของห้องนอน 4 ครับ แยกออกมาจากตัวบ้านหลัก แต่ก็มีส่วนที่เชื่อมต่อกัน บ้านของจริงจะมีรั้วให้รอบบ้านครับ

เดินเข้ามาที่จอดรถ จอดได้ 4 คันเช่นกันครับ

จอดในตัวบ้านได้ 2 คัน มีประตูเข้าบ้านจากที่จอดรถได้

เดินไปดูรอบๆบ้านกันก่อน หน้าบ้านมีพื้นที่สำหรับจัดสวนได้ครับ

ทางเข้าบ้านปูพื้นสนามหญ้าและมีไม้พุ่มรอบๆ

ถัดเข้ามาตรงกลางทำบ่อน้ำพุให้ดูเป็นไอเดียของจริงไม่มีให้นะครับ

มองเข้าไปตรงบ่อน้ำพุ ด้านในจะเชื่อมกับประตูข้างบ้าน

ถัดไปก็จะเป็นส่วนของห้องนอน 4 ที่แยกออกมาจากตัวบ้านหลัก ดูเป็นส่วนตัวดี

มองไปด้านของจัดตกแต่งสวนมาสวยดีนะครับ

มองกลับไปจะเห็นแบบนี้

ยืนตรงมุมแล้วมองย้อนเข้าตัวบ้าน

เดินมาหลังบ้านพื้นที่ยังจัดตกแต่งสวนได้อีก

ด้านหลังบ้านก็จะยามตลอดแนวไปยังอีกฝั่ง

เดินมาจะเจอส่วนซักล้าง และมีประตูออกหลังบ้าน

เดินมาข้างบ้านอีกฝั่งจะเจอห้องแม่บ้าน

ห้องแม่บ้านอยู่ซ้ายมือ ส่วนขวามือเป็นห้องน้ำครับ

ภายในห้องแม่บ้าน

มองกลับไปที่ประตูทางเข้า

ภายในห้องน้ำมีฟังก์ชั่นครบ

ฝั่งขวาเป็นชุดอ่างล้างหน้า

อีกฝั่งเป็นโถสุขภัณฑ์

เดินออกมาถึงหน้าบ้านแล้วครับ

ประตูทางเข้าบ้านหลังอยู่ตรงนี้ครับ จะตรงกับ Master Bedroom ชั้นสอง

หน้าบ้านมีเฉลียงขนาด 4 x 1.7 ม. ประตูบ้านเป็นกระจกบานเลื่อน 2 บาน

เดินเข้าบ้านมาเจอส่วนห้องนั่งเล่นก่อน เชื่อมกับส่วนรับประทานอาหารด้านใน ซ้ายมือเป็นทางเดินไปยังห้องนอน 4 ขวามือเป็นห้องครัว และบันไดขึ้นชั้นสอง พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ฝ้าชั้นล่างสูง 2.6 ม.

วางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางให้ดูระยะ

ระยะดูทีวีประมาณ 3.7 ม.

มองกลับไปที่ประตูทางเข้าบ้านจะเห็นแบบนี้ครับ

ถัดมาเป็นส่วนรับประทานอาหาร

วางโต๊ะขนาด 6 ที่นั่งให้ดู ใครจะเปลี่ยนเป็นโต๊ะกลมก็ได้นะครับพื้นที่เหลือเฟือ

มองไปยังฝั่งห้องนอน 4 มีทางเดินเชื่อมไปอีก

ตรงส่วนทางเดินเชื่อมพื้นที่สามารถวางโซฟานั่งเล่น นอนอ่านหนังสือในวันหยุดได้

วางชุดโซฟาพร้อมโต๊ะกลางให้ดูครับ

มองออกไปจะเป็นประตูบานเลื่อนเปิดออกไปหน้าบ้าน

เปิดออกมาจะเจอส่วนหน้าบ้าน ส่วนบ้านตัวอย่างก็จะเห็นบ่อน้ำพุครับ

เดินออกมาชมวิวหน้าบ้านได้ ของจริงที่ได้ตรงส่วนนี้จะปูสนามหญ้ามาให้

ถัดไปจะเป็นห้องนอน 4

ภายในห้องนอน 4 วางเตียง King Size มีพื้นที่เหลือรอบเตียง

ระยะดูทีวีปลายเตียงวางจอใหญ่ได้สบายๆ

ด้านข้างเตียงมีประตูบานเลื่อนออกไปยังส่วนหน้าบ้านได้

เปิดออกมาจะเจอเฉลียง

มองไปฝั่งซ้ายเห็นบ่อน้ำพุ และทางเข้าหน้าบ้าน

มองไปทางขวาก็เป็นสวนหย่อมที่ตกแต่งไว้ให้ดู

กลับเข้ามาด้านในห้อง ฝั่งตรงข้ามเป็นห้องน้ำ หน้าห้องนำ้วางตู้เสื้อผ้าให้ดู

ทางเข้าห้องน้ำอยู่ด้านใน

ภายในห้องน้ำแบ่งส่วนเปียกส่วนแห้ง

ชุดสุขภัณฑ์เป็นของ Victor ทั้งหมด

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ติดฝักบัวแบบปรับระดับสูงต่ำได้ พร้อมช่องวางอุปกรณ์อาบน้ำ

พื้นห้องน้ำจะต่ำกว่าพื้นห้อง

ออกมาตรงส่วนห้องนั่งเล่น มองไปอีกฝั่งจะเป็นห้องอเนกประสงค์ และห้องครัว

เดินเข้ามาจะเจอห้องอเนกประสงค์ก่อน

มองเข้าไปด้านในส่วนห้องอเนกประสงค์ โครงการทำเคาน์เตอร์บาร์ซ้ายมือให้ดูของจริงไม่ได้ทำให้นะครับ ขวามือทำเป็นโต๊ะทำงานให้ดูเช่นกัน

ถัดมาเป็นห้องครัว ขวามือเป็นห้องน้ำแบบ Powder Room

ภายในห้องครัวทำชุดเคาน์เตอร์มาให้ดูเป็นไอเดีย ขนาดกว้างกว่าบ้านแบบแรก

พื้นที่วางตู้เย็นอยู่ขวามือ ในสุดเป็นประตูออกหลังบ้าน

เปิดออกมาจะเจอส่วนซักล้าง

มองกลับเข้าไปด้านใน จะเห็นว่าพื้นห้องครัวระดับจะต่ำกว่าพื้นชั้น 1

มาดูห้องน้ำกันต่อ ห้องนี้จะเป็นแบบ Powder Room คือไม่มีพื้นที่ส่วนเปียก

ชุดสุขภัณฑ์ของ Victor ผนังทำ Low Wall มาให้วางของได้

พื้นห้องน้ำต่ำกว่าพื้นชั้น 1

ตรงข้ามกับห้องครัวมีประตูเข้าออกที่จอดรถได้ ขวามือเป็นบันไดขึ้นชั้น 2 ตรงกลางมีห้องเก็บของใต้บันได

เปิดประตูออกมาจะเจอที่จอดรถ และมองออกไปหน้าบ้านได้

ภายในห้องเก็บของใต้บันได

บันไดเป็นไม้สำเร็จรูป

มองขึ้นไปจัเจอชานพักบันได มีช่องแสงมาให้ตรงส่วนนี้

จากชานพักมองขึ้นไปที่ชั้น 2 จะเจอโถงบันไดก่อน ซ้ายมือเป็น Master Bedroom ขวามือเป็นห้องนอน 2 และ 3

มองกลับลงไปที่ชานพักบันได

ขึ้นมาชั้น 2 ไปดู Master Bedroom กันก่อน

ภายใน Master Bedroom

วางเตียง King Size ให้ดูระยะรอบๆ

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.7 ม.

ข้างเตียงมีประตูออกไประเบียงได้

เปิดประตูออกมาเจอระเบียงขนาด 1.4 x 3.4 ม.

มองไปทางซ้าย

มองไปทางขวา

กลับเข้ามาในห้อง มองไปอีกฝั่ง ขวามือเป็นห้องน้ำ และส่วนแต่งตัว ซ้ายมือเป็นส่วนออกกำลังกาย

ตรงกลางวางโซฟามาให้ดู

มองเข้าไปยังส่วนออกกำลังกาย ใครจะทำเป็นห้องทำงาน หรือห้องดูหนังก็ได้ครับ

วางเครื่องออกกำลังกายมาให้ดู 1 เครื่อง ซ้ายขวามีหน้าต่างบานเลื่อน

มองลงไปหน้าบ้านจะเห็นบ่อน้ำพุ

ไปดูส่วนห้องน้ำกันต่อ

หน้าห้องน้ำทำเป็น Walk in closet ให้ดู

อีกฝั่งเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องน้ำ ห้องนี้จัดเต็มมาเลยครับ

ชุดอ่างล้างหน้าแบบ His & Her ของ Victor

ด้านในวางโถสุขภัณฑ์ไว้

ฝั่งตรงข้ามเป็นส่วนเปียก และอ่างอาบน้ำ

พื้นที่อาบน้ำอยู่มุมด้านใน

พื้นที่ส่วนเปียกขนาด 0.80 x 0.80 ม.

ติดกันวางอ่างอาบน้ำมาให้

ชุดอ่างอาบน้ำ พร้อมก๊อกน้ำ และฝักบัวของ Karat

ออกมาตรงโถงบันได มองไปอีกฝั่งจะเจอส่วนห้องนั่งเล่น และห้องนอน 2 ซ้ายมือเป็นห้องนอน 3 ครับ

เดินเข้ามาตรงส่วนห้องนั่งเล่น

วางชุดโซฟามาให้ดู พร้อมโต๊ะวางทีวี

ระยะดูทีวีประมาณ 2.4 ม.

ห้องนอน 2 อยู่ขวามือ ส่วนห้องนอน 3 อยู่ซ้ายมือ

ภายในห้องนอน 2 จะอยู่โซนหน้าบ้าน วางเตียงให้ดู

พื้นที่ข้างเตียงเหลือพอประมาณ

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งเหลือประมาณ 50 ซม.

พื้นที่ปลายเตียงเหลือประมาณ 90 ซม.

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 2.9 ม.

มองไปอีกฝั่งวางตู้เสื้อผ้ามาให้ดูพร้อมโต๊ะเครื่องแป้ง ขวามือเป็นห้องน้ำครับ

เดินเข้ามาในห้องนำ้เจอชุดอ่างล้างหน้าก่อน ขวามือมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 1 บาน

โถสุขภัณฑ์วางอีกฝั่ง

พื้นที่ส่วนเปียกอยู่ด้านในสุด

ขนาดพื้นที่ส่วนเปียกประมาณ 1.5 x 0.70 ม.

พื้นห้องน้ำต่ำกว่าพื้นห้องนอน

ภายในห้องนอน 3

วางเตียงเดี่ยวมาให้ดู พื้นที่วางเตียงใหญ่กว่านี้ได้ครับ

ระยะดูทีวีปลายเตียงประมาณ 3.4 ม.

อีกฝั่งวางตู้เสื้อผ้าพร้อมโต๊ะเครื่องแป้งให้ดู ซ้ายมือเป็นห้องน้ำ

ภายในห้องนำ้

สุขภัณฑ์เป็นของ Victor ทั้งหมด

ด้านในสุดเป็นพื้นที่ส่วนเปียก ขนาด 1.5 x 0.70 ม.

พื้นห้องน้ำต่ำกว่าพื้นห้องนอนครับ

บ้านทุกหลังติดสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic & Motion Sensor ทุกหลัง ชุดปลั๊ก และสวิตซ์ไฟของ Schneider ทั้งหมด

ราคา (ม.ค. 2559)

• แบบ Nice พื้นที่ใช้สอย 224 ตร.ม. ที่ดิน 101.5 ตร.วา 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ | ราคา 8.29 ล้านบาท
• แบบ Monaco พื้นที่ใช้สอย 248 ตร.ม. ที่ดิน 138.0 ตร.วา 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน | ราคา 11.5 ล้านบาท
• แบบ Provence พื้นที่ใช้สอย 286 ตร.ม. ที่ดิน 157.5 ตร.วา 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 4 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน | ราคา 14.2 ล้านบาท

** เงินจอง : 50,000 บาท

**ค่าสาธารณูปโภคในโครงการ : 27 บาท/ตร.ม. ชำระล่วงหน้า 2 ปี

**ที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 70,000 บาท

โปรโมชั่นอื่นๆ โปรดสอบถามทางโครงการ*

บทสรุปโครงการ

ทำเลโดยรอบ Golden Prestige เอกชัย-วงแหวน ตั้งอยู่ในย่านชานเมือง เลยไปอีกหน่อยก็จะเป็นสมุทรสาครทำเลโดยรอบส่วนใหญ่จะเป็นบ้านพักอาศัย ตึกแถวอาคารพาณิชย์ มีโรงงานบ้าง ตามสองฝั่งทางมีร้านอาหาร ตลาด ร้านค้า คลินิก พอฝากท้องได้บ้าง หน้าปากซอยเอกชัย 102/3 มีร้านอาหารมีก๋วยเตี๋ยว ข้าวราดแกง หรือข้ามถนนมาอีกฝั่งมี Big C Mini , Lotus Express , 7-11 ส่วนห้างสรรพสินค้ามี Makro ตรงเส้นกาญจนาภิเษก หรือไปแถวเส้นพระรามสองมี Big C , Lotus , เซ็นทรัล หรืออีกเส้นคือเพชรเกษมมี The Mall , ซีคอน , Big C , Lotus , Homepro และคอมมูนิตี้มอลล์

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว โครงการอยู่ในซอยแต่ห่างจากปากซอยระมาณ 130 ม. ออกมาก็เป็นถนนเอกชัยซึ่งเป็นเส้นที่ไปเชื่อมออกได้หลายเส้นทาง เข้าเมืองได้สะดวกโดยใช้เส้นกาญจนาภิเษกไปเข้ากัลปพฤกษ์ ออกราชพฤกษ์ วิ่งเข้าสาทร สีลม พระรามสี่ ได้เลย หรือถ้าจะไปฝั่งพระรามเก้า ดินแดง ก็มาขึ้นทางด่วนเฉลิมมหานครแถวถนนพระรามสองได้ หรือขึ้นตรงด่านสุขสวัสดิ์ก็ได้ครับ ส่วนถ้าจะออกนอกเมืองเส้นเอกชัยวิ่งไปออกสมุทรสาครได้ หรือไปใช้เส้นเพชรเกษมออกนครปฐม ยาวไปเพชรบุรีได้เลย ส่วนเส้นกาญจนาภิเษกไปโซนสมุทรปราการ และนนทบุรี ยาวไปจนถึงปทุมธานีครับ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ ปากซอยโครงการมีป้ายรถเมล์ มีรถวิ่งผ่านไปมา ส่วนTaxi วินมอเตอร์ไซค์ สองแถวก็โบกขึ้นหน้าปากซอยได้เลยครับสะดวกดี ส่วนรถไฟฟ้าตอนนี้สามารถไปขึ้นได้ที่สถานีบางหว้า ห่างจากโครงการประมาณ 11 กม. แต่อนาคตสามารถไปขึ้นได้ที่สถานีหลักสองตรง The Mall บางแค ห่างจากโครงการประมาณ 7 กม. ตอนนี้อยู่ในช่วงก่อสร้างอีกไม่นานคงได้ใช้บริการกันครับ

แบบบ้าน ที่นี่ทำมาให้เลือก 3 แบบ ตามขนาดและฟังก์ชั่นที่แตกต่างกันอกไป ตัวโครงการและภายนอกบ้านตกแต่งมาในสไตล์อิงลิชคันทรี่ สีภายนอกแต่ละ Type จะแตกต่างกันออกไป บ้านออกแบบมาดูโปร่ง รอบๆบ้านสามารถตกแต่งจัดสวนเพิ่มตามความชอบของแต่ละดนได้เลย มีช่องแสงในบ้านมาให้เยอะทำให้แสงผ่านเข้ามาในบ้านได้ ช่วยประหยัดไฟในช่วงเช้า และยังสามารถมองออกไปนอกบ้านชมสวนได้เลย ส่วนครัวให้พื้นที่มาพอสมควร ส่วนของห้องนอนในแต่ละห้องแบ่งพื้นที่มาไม่อึดอัดวางเตียงโต๊ะตู้ได้ ชั้นล่างมีห้องนอนไว้รองรับผู้สูงอายุ มีห้องอเนกประสงค์ที่ชั้น 2 สามารถปรับเปลี่ยนฟังก์ชั่นได้ อยู่ที่การใช้งานของเรา ฝ้าชั้น 1 สูง 2.6 ม. ชั้น 2 สูง 2.8 ม.

วัสดุในบ้าน ได้ของมีคุณภาพมาตรฐาน โครงสร้างของบ้านเป็นผนังรับน้ำหนัก(Wall Bearing) ซึ่งไม่สามารถทุบ ขุด เจาะ ได้ ถ้าใครจะต่อเติมบ้านคงจะไม่เหมาะ ประตูหน้าบ้าน และหน้าต่างทุกบานได้กระจกใสเขียวตัดแสงบานเลื่อน กรอบ UPVC สีขาว พื้นชั้นล่างปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ส่วนชั้น 2 เป็นไม้ลามิเนตหนา 8 มม. ผนังฉาบเรียบทาสีทั้งหมด สุขภัณฑ์ในห้องน้ำใช้ของ Victor และ Karat บ้านทุกหลังจะติดสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic & Motion Sensor

สาธารณูปโภค โครงการนี้ถือว่าจัดมาเต็มพอสมควรมี Club House ตกแต่งมาในสไตล์อิงลิชคันทรี่จัดรูปแบบฟังก์ชั่นออกมาได้น่าใช้งานดี มีสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20 x 10 ม. ห้องน้ำแยกชาย-หญิง สวนน้ำตก บ่อเลี้ยงหงส์ พร้อมหงส์ 2 ตัวที่ลอยเล่นน้ำอยู่ ฟิตเนส และที่นั่งพักผ่อนตามจุดต่างๆ มีสวนสาธารณะช่วงหน้าโครงการจัดไม้ใหญ่ ไม้พุ่มมาพร้อมสนามหญ้า มีขุดลำธารน้ำยาวเป็นแนวเพื่อสร้างบรรยากาศ มีสนามเด็กเล่น และซุ้มนั่งพักผ่อน สวนอีกจุดจะอยู่ตรงวงเวียนเป็นสนามพัตกอล์ฟ และซุ้มนั่งพักผ่อน มีต้นไม้ปลูกเป็นแนวตามถนนหลักโครงการเป็นแนวยาวเข้ามา ส่วนถนนในหลักในโครงการกว้าง 12 ม. ถนนซอยกว้าง 9 ม.

ระบบรักษาความปลอดภัยมี ร.ป.ภ. ตลอด 24 ชม. ร้ัวรอบโครงการสูง 3 ม. ประตูทางเข้าโครงการเป็นไม้กระดก แยกทางเข้าออก โดยทางเข้าแยกส่วนสำหรับลูกบ้าน มี Sensor ระยะไกล และทางเข้าสำหรับ Visitor ต้องแลกบัตรก่อนครับ ตรงประตูเข้าออกติดตั้ง CCTV บ้านทุกหลังติดสัญญาณกันขโมยแบบ Magnetic & Motion Sensor ลูกบ้านที่อยู่ในโครงการนี้ก็อุ่นใจได้ในระดับนึงครับ

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่

TEL : 092-592-1155

WEBSITE : http://www.goldenlandresidence.co.th

EP.330 รีวิว บ้านเดี่ยว เสนา พาร์ค แกรนด์ รามอินทรา  Sena Park Grand Ramindra

สวัสดีชาว Homenayoo ทุกคนค่ะ วันนี้เรามีโครงการ Sena Park Grand รามอินทรา โครงการบ้านเดี่ยวใส่ใจสิ่งแวดล้อมจากค่าย เสนาดีเวลลอปเม้นท์ มาให้ชมกัน โดยตัวโครงการเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น มีแบบบ้านให้เลือก 4 แบบ โดยทุกหลังมีแนวความคิด “ธรรมชาติ ของชีวิตทันสมัย” ด้วย Green Smart Design ทำให้ตัวบ้านช่วยประหยัดพลังงานได้มากกว่าบ้านทั่วไป กับราคาเริ่มต้น 6.87 ล้านบาท ไม่รอช้า ไปชมรายละเอียดด้านล่างกันต่อได้เลยค่า

ที่ตั้งโครงการ

ถนนรามอินทรา แขวงคันนายาว เขตคันนายาว กรุงเทพมหานคร 10230

พิกัด : 13.833733, 100.675613

แผนที่จากทางโครงการ ตัวโครงการมีทางเข้าออก 2 ทาง ทางแรกเป็นทางที่มาจากถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรี ลัดทะลุสวน Sena Park Avenue กับทางที่สองเป็นทางที่เข้าตรงๆได้จากถนนเลียบวงแหวนกาญจนาภิเษกค่ะ

โครงการ Sena Park Grand รามอินทรา เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบกาญจนาภิเษก ช่วงถนนรามอินทราตอนปลาย ความพิเศษของที่ดินโครงการนี้คือเป็นทำเลบนถนนเลียบวงแหวนรามอินทราที่สามารถทะลุออกถนนใหญ่รามอินทราได้ ส่วนสภาพแวดล้อมโดยรวม รอบๆโครงการก็ไม่มีอะไรมากค่ะ เนื่องจากเป็นถนนเส้นเลียบทางด่วนส่วนใหญ่ก็จะเป็นโครงการบ้านเดี่ยวและที่พักอาศัยของคนในละแวกนั้น

การเดินทางเข้าถึงโครงการค่อนข้างสะดวกสามารถใช้ถนนรามอินทราทั้งฝั่งมุ่งหน้ามีนบุรีโดยใช้ Private Road เข้าทาง Sena Park Avenue ลัดเข้าโครงการ และถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้าไปพหลโยธินเข้าถนนเลียบกาญจนาภิเษก หรือถ้ามาจากนอกเมืองก็สามารถใช้ถนนเลียบกาญจนาภิเษกเข้ามาโครงการได้เช่นกันค่ะ และเนื่องจากถนนรามอินทราเองก็เชื่อมอยู่กับถนนสายสำคัญๆอยู่หลายสาย อย่างถนนแจ้งวัฒนะ, ถนนนวมินทร์, ถนนเกษตรนวมินทร์, ถนนเสรีไทย หรือจากฝั่งนอกเมืองก็สามารถมาได้ทั้งจากถนนหทัยราษฏร์, ถนนพระยาสุเรนทร์, ถนนคู้บอน และถนนพหลโยธินทำให้การเดินทางเข้าถึงโครงการสะดวกยิ่งขึ้นค่ะ

ส่วนทางด่วนที่เราสามารถใช้เดินทางเข้าเมืองที่ใกล้โครงการมากที่สุดจะมี 2 จุด คือ

1.จุดขึ้นลงทางด่วนกาญจนาภิเษก โดยออกจากโครงการมุ่งหน้ามาถนนรามอินทราเลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานกลับรถเข้าถนนกาญจนาภิเษก และจุดขึ้นทางด่วนจะอยู่ไม่ไกล รวมระยะทางจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนแรกประมาณ 4.1 กม. ใช้เวลาประมาณ 6 นาที

2. จุดขึ้นลงทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์โดยออกจากโครงการเลี้ยวซ้ายวิ่งไปตามถนนเลียบกาญจนาภิเษกแล้วลัดเข้าถนนคู้บอน จะไปโผล่ตรงสี่แยกคู้บอน รามอินทรากม. 8 วิ่งออกรามอินทรามุ่งหน้าพหลโยธิน เลี้ยวซ้ายเข้าถนนเลียบด่วนรามอินทราตรงไปอีกหน่อยก็จะถึงจุดขึ้นลงทางด่วน รวมระยะทางจากโครงการถึงจุดขึ้นทางด่วนที่ 2 ประมาณ 8.4 กม. ใช้เวลาประมาณ 13 นาที

3.นอกจากนั้นเรายังสามารถใช้ถนนเส้นเลียบกาญจนาภิเษกออกนอกเมืองไปบางปะอิน อยุธยาได้ด้วยค่ะ

จากโครงการเข้าเมืองก็ทำได้ไม่ยากโดยสามารถใช้ทางลัดคือถนนคู้บอน หรือวื่งมาตรงๆออกถนนรามอินทราขึ้นสะพานกลับรถก็สามารถเข้าถนนเกษตรนวมินทร์ได้ค่ะ

สำหรับการเดินทางด้วยรถยนต์สาธารณะนั้นเรียกได้ว่าลำบากเลยค่ะ เพราะแถวโครงการไม่มีรถโดยสารใดๆผ่าน อาจจะมีพี่แท็กซี่หรือพี่วินผ่านบ้างนานนานนนครั้ง

ส่วนในอนาคต(อันไกล) ก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรี ที่จะช่วยให้การเดินทางในละแวกนี้สะดวกขึ้น โดยแนวเส้นทางจะเริ่มต้นบนถนนรัตนาธิเบศร์บริเวณระหว่าง ศูนย์ราชการนนทบุรีและแยกแคราย ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่ – บางซื่อ) บริเวณสถานีศูนย์ราชการนนทบุรี และนอกจากนั้นยังเชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตลิ่งชัน – มีนบุรี) ตรงสถานี Interchange ที่สถานีมีนบุรี บนถนนรามคำแหงซึ่งเราสามารถใช้เส้นนี้เพื่อเข้าเมืองไปเชื่อมต่อกับรถไฟใต้ดิน MRT สถานีศูนย์วัฒนธรรมได้อีกด้วย

โดยสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นสถานีรามอินทรา 83 และสถานีวงแหวนตะวันออก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นตัวสถานีไม่ได้ยู่ในระยะที่จะเดินถึงได้ ก็คงต้องอาศัยพี่วินหรือแท็กซี่มาส่งที่ตัวสถานีก่อนนะ

ในส่วนของความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินนั้นน … ก็เป็นสไตล์เลียบทางด่วนคือแห้งแล้ง แต่ๆๆ เนื่องจากพื้นที่บริเวณถนนรามอินทราช่วงปลายๆเนี่ยเป็นที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ทำให้ความอุดมสมบูรณ์ในวงกว้างค่อนข้างสูงตามไปด้วย ก็เลยจะมีทั้งตลาดสายเนตร กม.8, BigC คู้บอน ไกลไปอีกหน่อยก็มีตลาดมีนบุรี, BigC, Tesco Lotus ซึ่งอยู่บนบนถนนรามอินทรา ลงมาบนถนนนวมินทร์จะมีตลาดนวลจันทร์ และ BigC สุขาภิบาล สำหรับ Community Mall ก็จะมี Amorini ตรงแยกสวนสยามและ The Promenade ส่วนพวกห้างสรรพสินค้าในละแวกนี้จะมี Fashion Island อยู่บริเวณวงแหวนรามอินทรา ส่วนโรงพยาบาลใกล้ๆ จะมีโรงพยาบาลนวมินทร์ และโรงพยาบาลสินแพทย์ ไกลไปอีกก็จะมีโรงพยาบาลนพรัตนราชธานีตรงแยกตัดกับถนนสวนสยาม

การเดินทางวันนี้เราจะใช้ถนนเส้นหลักคือถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้าไปมีนบุรี เริ่มต้นกันที่บริเวณหน้าห้าง Central รามอินทรา ตรงมายาวยาววว แล้วลัดเข้าทาง Sena Park Avenue ออกไปยังเส้นคู่ขนานถนนกาญจนาภิเษก ลอดใต้ทางพิเศษอีกนิดก็ถึงโครงการ เสนาพาร์ค แกรนด์ รามอินทรา แล้วค่า
สรุปการเดินทาง Central รามอินทรา > ถนนรามอินทรามุ่งหน้ามีนบุรี >Sena Park Avenue > Sena Park Grand รามอินทรา

เริ่มต้นจากหน้าห้าง Central รามอินทรา มุ่งตรงไปบนถนนรามอินทราฝั่งมุ่งหน้ามีนบุรี

ตรงมาไม่นานจะเห็นสนามมวยลุมพินี

ผ่านแยกลาดปลาเค้า ถ้าใครจะไปเกษตร – นวมินทร์ สามารถเลี้ยวขวาใช้เส้นนี้ลัดไปได้

เลยแยกลาดปลาเค้ามาหน่อยก็จะเห็น BigC Extra รามอินทรา อยู่ฝั่งตรงข้าม

ตรงมาจะผ่าน FoodLand ใครหิวๆก็แวะเข้าไปหาอะไรทานได้ เค้าเปิด 24 ชม.

ผ่านตลาดปั้นทอง กม.4

ขับตรงไปเรื่อยๆมุ่งหน้ามีนบุรี

ด้านบนคือทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์

เห็นป้ายแล้วเราอยู่เลนขวาไว้นะคะ เพราะเดี๋ยวเราจะขึ้นสะพานข้ามแยก อย่าเผลอชิดซ้ายนะเดี๋ยวหลุดไปบางกะปิแล้วจะเสียเวลามิใช่น้อย

ขึ้นสะพานข้ามแยกไปเลยค่ะ

ขึ้นสะพานมาจะเห็นตึกสูงๆทางขวามือ คือคอนโดลุมพินีนั่นเองค่ะ

ลงจากสะพานมาเจอศูนย์ Isuzu ทางซ้ายมือ เราตรงต่อไป

ตรงมาเรื่อยๆ เจอตลาดรามอินทรา 83 ถึงตรงนี้ก็เตรียมตัวชิดซ้ายได้แล้วค่ะ

ขับมาอีกไม่นานจะเห็นซุ้มทางเข้าสีเขียวใหญ่ยักษ์

ซึ่งก็คือทางเข้าเสนาพาร์ค อเวนิวนั่นเองค่ะ เราก็เลี้ยวซ้ายเข้าไปโลด

ผ่านซุ้มมาจะเจอป้อมรปภ.ก่อน

ผ่านสนามเด็กเล่นขนาดใหญ่

มีที่จอดรถตลอดทางซ้ายมือค่ะ

ออกมาสุดอเวนิวจะเจอถนนเลียบกาญจนา ถ้าเราไปขวามือจะไปออกถนนใหญ่รามอินทรา แต่เดี๋ยวเราจะไปโครงการกันก็เลี้ยวซ้ายไปทางบางปะอินค่ะ

ตรงมาอีกนิดเดียวก็จะเห็นทางลัดเข้าโครงการแล้วค่ะ

ลอดใต้ทางด่วนไป

ออกจากใต้อุโมงค์มาก็เจอโครงการแล้วค่ะ แต่ตอนนี้ทางเข้ารองนี้กำลังปรับปรุงอยู่เพราะฉะนั้นเดี๋ยวจะพาไปดูทางเข้าหลักกันก่อนนะคะ

ที่ทางเข้าหลักมีป้ายโครงการ และครอบครัวกวางสัญลักษณ์ของโครงการอยู่ด้านหน้าค่ะ

เข้ามาที่ทางเข้าหลักจะเป็นถนนกว้าง 20 เมตร

ด้านข้างฝั่งขวาจัดเป็นสวนไม้พุ่มสลับสี สวยๆ

ส่วนฝั่งซ้ายตอนนี้เป็นที่ดินเปิดโล่งขนาดใหญ่ ซึ่งที่ดินตรงนี้ก็เป็นของเสนาที่จะพัฒนาเป็นโครงการในอนาคตค่ะ

ซุ้มทางเข้าหลักแบ่งทางเข้าออก 2 ฝั่ง ฝั่งละ 2 เลนและมีทางคนเดินขนาบข้างซ้าย – ขวา

ระบบความปลอดภัยเป็นไม้กระดกฝั่งละ 2 ชุด และมีรปภ. 24 ชั่วโมง

ถนนด้านกว้าง 20 เมตร และมีฟุตบาทขนาดประมาณ 1 คนเดิน มีลงต้นไม้, ไม้พุ่มตลอดทางร่มรื่นดีค่ะ

เข้ามาจากทางเข้าหลักประมาณ 450 เมตร ก็จะเห็นซุ้มทางเข้าโครงการ เสนาพาร์ค แกรนด์ที่เราจะพามาดูกันวันนี้ค่าา

สถานที่สำคัญใกล้เคียงต่างๆ

1. โรงเรียนเศรษฐบุตรบำเพ็ญ 5.6 กม.
2. โรงพยาบาลนวมินทร์ 7.1 กม.
3. โรงพยาบาลสินแพทย์ 1.6 กม.
4. โรงพยาบาลนพรัตนราชธานี 3.5 กม.
5. ตลาดมีนบุรี 7.3 กม.
6. ตลาดสายเนตร 4.6 กม.
7. Big C 4.9 กม.
8. Makro รามอินทรา 5.1 กม.
9. Tesco Lotus มีนบุรี 8.9 กม.
10. Amorini 2.7 กม.
11. Fashion Island 700 กม.
12. The Promenade 850 กม.
13. สวนสยาม 2.9 กม.

รอบโครงการ

ทิศเหนือติดกับที่ดินของเสนายาวไปตลอดจนสุดโครงการ ซึ่งมีแผนจะพัฒนาเป็นหมู่บ้านอีกในอนาคต ทิศใต้ติดกับหมู่บ้านข้างเคียง ทิศตะวันออกก็ติดกับที่ดินของเสนาเช่นกัน และทิศตะวันตกติดกับถนนกาญจนาภิเษกค่ะ

หน้าโครงการเป็นถนนเลียบกาญจนาภิเษกและหลังรั้วที่เห็นคือทางด่วนกาญจนาภิเษกค่ะ

ซ้ายมือเป็นถนนวิ่งยาวไปรามอินทรา

ขวามือวิ่งไปบางปะอิน

ติดกับโครงการเราเป็นโครงการ The Plant ของค่ายพฤกษา

ภายในโครงการ

โครงการนี้มีขนาดประมาณ 42 ไร่ จำนวนบ้านทั้งโครงการ 174 ยูนิต จาก Master Plan จะเห็นว่าตัวโครงการต้องเข้ามาจากถนนใหญ่ประมาณ 450 เมตร เมื่อถึงหน้าโครงการจะมีซุ้มทางเข้าของโครงการที่มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วย Double Security Gate และ รปภ.24 ชั่วโมง ผังของโครงการดูเข้าใจง่ายๆค่ะ คือเข้ามาปุ๊ปจะเจอส่วน Club House ตั้งตระหง่านอยู่ตรงหน้าและถนนหลักกว้าง 12 เมตร ซึ่งถนนกว้าง 12 เมตรนี้จะมีระยะอยู่แค่บริเวณหน้า Club House เท่านั้น ถัดจากถนนหลักบริเวณคลับเฮ้าส์เลี้ยวไปทางซ้ายมือจะเป็น Sale Office และบ้านตัวอย่างทุกแบบค่ะ ซึ่งถนนรองที่แจกไปยัง Sales Office และบ้านหลังอื่นๆจะมีความกว้าง 10 เมตร ทั้งโครงการ

ซุ้มทางเข้าของโครงการมาในสไตล์เดียวกับซุ้มทางเข้าหลัก แบ่งทางเข้า ออกซ้ายขวาฝั่งละ 1 เลน มีทางเท้าให้เดินขนาบข้าง

ป้ายโครงการเสนาพาร์ค แกรนด์ สีเขียวตามสไตล์เสนา

ระบบความปลอดภัยใช้ระบบ Access Card ระยะใกล้ มีรปภ.24 ชั่วโมง ส่วนประตูเป็น Double Gate ชั้นแรกเป็นรั้วกั้นไม้กระดกและชั้นที่สองเป็นประตูเลื่อนไฟฟ้า ส่วน Visitor ต้องแลกบัตรเข้าโครงการและให้ลูกบ้านประทับตราเพื่อแลกบัตรคืนที่ประตูทางเข้าค่ะ

เข้าโครงการมาปุ๊ปจะเจอกับ Club House และสวนหย่อมของโครงการก่อนเลย ซึ่งเดี๋ยวเราจะกลับมาดูรายละเอียดด้านในหลังจากไปเดินดูโครงการรอบๆกันแล้วนะคะ

มาดูทางขวามือกันก่อน ถนนหลักในโครงการกว้าง 12 เมตร

แยกเป็นถนนหลักตรงไปและถนนด้านข้างส่วนกลางที่ตัดไปเชื่อมกับซอยด้านหลัง

ถนนข้างส่วนกลางที่ตัดไปเชื่อมกับซอยด้านหลังกว้าง 10 เมตร มีฟุตบาทให้เดินทั้งซ้ายและขวา

มาถึงซอยด้านหลังจะเป็นซอยยาวๆ มองจากตรงนี้จะแบ่งเป็นซ้ายและขวา

หน้าบ้านจะมีฟุตบาทขนาดประมาณ 1 คนเดินได้พอดีๆ

ขวามือจะเป็นซอยยาวไปจนสุดโครงการ พื้นที่สุดโครงการฝั่งนี้จะติดกับคลองเกร็ด

ส่วนซ้ายมือก็เป็นซอยยาวว ไปจนสุดโครงการเช่นกัน แต่จุดสิ้นสุดของซอยนี้จะอยู่ติดกับที่ดินของเสนาที่มีแผนพัฒนาในอนาคตค่ะ

กลับมาที่หน้าโครงการกันอีกครั้ง คราวนี้เดินไปดูซ้ายมือบ้าง

ฝั่งซ้ายนี้จะเป็นส่วนของ Sale Office และบ้านตัวอย่างทั้ง 4 แบบ

ตัวเซลล์ออฟฟิศใช้บ้านแบบ Nova จัดตั้งเป็นที่ประจำการ

ฝั่งซ้ายนี้ก็มีซอยย่อยตัดไปถึงซอยด้านหลังเหมือนกันนะ

ออกมาเจอซอยด้านหลังที่เราลองเดินมาดูแล้วเมื่อสักครู่ จุดสังเกตคือคลับเฮ้าส์ทางขวามือค่ะ

อีกด้านหนึ่ง

กลับมาดูที่ส่วนกลางของโครงการกันบ้าง ด้านหน้าจัดเป็นสวนดอกไม้ ตกแต่งอย่างเป็นระเบียบ ตัวคลับเฮ้าส์ใช้เส้นเฉียงตกแต่งดีไซน์โดยรวมมาในสไตล์ Eco – Modern

พื้นที่ข้าง Club House มีที่นั่งพักผ่อน เป็นพื้นที่ Event Zone ให้ลูกบ้านมาจัดกิจกรรมสังสรรค์กัน

ม้านั่งคอนกรีตแบบ Out Door

ที่นั่งกึ่ง Indoor มีระแนงไว้กันแดดให้

อีกด้านนึงของตัว Club House เป็นสนามเด็กเล่น มีของเล่นเป็นกระดานลื่น และชิงช้า 1 ชุด

ด้านข้างมีที่นั่งให้ผู้ปกครองคอยนั่งดูเด็กๆเล่นกันอย่างใกล้ชิด

ด้านหลังสนามเด็กเล่นมีที่นั่งพักผ่อนอีก 1 จุด

ม้านั่งคอนกรีต มีระแนงกันแดด

มาถึงตัว Club House ใช้ชื่อว่า Eco Club มาจาก Ecology ที่แปลว่าสิ่งแวดล้อม

ตัวคลับเฮ้าส์มี 2 ชั้น ด้านบนเป็น Fitness Club, พื้นที่พักผ่อนและสระว่ายน้ำ ส่วนด้านล่างเป็นส่วนของนิติบุคคลและห้องน้ำ

ขึ้นมาชั้นบนจะเจอกับพื้นที่นั่งพักผ่อน เป็น Lobby เพดานสูงโปร่ง ผนังเปิดโล่ง สามารถมานั่งชิลล์ในวันว่างได้สบายๆ

อีกด้านเป็น Fitness Club

ด้านในเป็นผนังกระจกช่วยให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาได้ ทำให้ห้องสว่างได้โดยไม่ต้องเปิดไฟ

มีลู่วิ่ง 2 ลู่, Elliptical 1 เครื่อง, เครื่องซิทอัพ 1 เครื่อง

จักรยานไฟฟ้า 2 เครื่อง, บอลโยคะ 3 ลูก, Leg Extension 1 เครื่อง, Elliptical 1 เครื่อง

ดัมเบล 12 ชิ้น และเสื่อโยคะ 3 ผืน

ออกมาจากฟิตเนสจะมีบันไดลงไปส่วนสระว่ายน้ำ

มีป้ายบอกทางไปยังส่วนต่างๆของ club House และป้ายกำกับกฏระเบียบการใช้สระว่ายน้ำค่ะ

ลงมาเจอสระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20 x 6.5 เมตร ลึก 1.3 เมตร แยกสระเด็กกับสระผู้ใหญ่ รอบๆสระตีระแนงพื้นและวาง Day Bed ไว้ให้นั่งพักผ่อนริมสระ

พื้นที่ล้างตัวก่อนลงสระ 1 จุด

มี Day Bed ทั้งหมด 6 ชุดรอบๆสระ

จากพื้นที่สระว่ายน้ำ Out Door มองไปเห็นม่านน้ำสำหรับตกแต่งและสร้างบรรยากาศผ่อนคลายบริเวณสระ

ลงมาชั้นล่างเป็นห้องเจ้าหน้าที่และนิติบุคคล

ห้องน้ำแยกชาย – หญิง

ด้านในห้องน้ำหญิงมีอ่างล้างมือ 2 ชุด

ล็อคเกอร์เก็บของ 12 ช่อง

มีห้องน้ำ 2 ห้อง และห้องอาบน้ำ 2 ห้อง

ด้านในห้องน้ำมีชุดโถสุขภัณฑ์พร้อมกระดาษชำระ

ด้านในห้องอาบน้ำ

ในห้องน้ำชาย มีห้องน้ำ 2 ห้อง ห้องอาบน้ำ 2 ห้อง

ล็อคเกอร์เก็บของ 12 ช่อง

โถปัสสาวะ 2 ชุด

บ้านตัวอย่าง

โครงการ Sena Park Grand รามอินทรามีจุดเด่นอยู่ตรงที่การออกแบบของโครงการนี้จะเน้นการประหยัดพลังงาน โดยใช้พลังงานธรรมชาติ Green Smart Design คือ

1.Maximize Nature โดยการวางตัวบ้านให้สอดคล้องกับทิศทางลมเพื่อรับทิศทางลมให้บ้านเย็นสบายและการวางผังบ้านตามทิศหนือ – ใต้ เพื่อลดปริมาณแสงแดดเข้าสู่ตัวบ้านช่วยให้บ้านเย็นไม่ต้องเปิดแอร์บ่อยๆค่ะ

2.Extreme Ventilation เพิ่มช่องลมระบายความร้อนใต้หลังคาพร้อมฉนวนกันความร้อนเพื่อช่วยลดความร้อนที่จะเข้าสู่ตัวบ้าน

3.Smart Shading เป็นการเพิ่มแผงยังแสงหรือ Facdae ช่วยบังแสงแดดที่จะเข้าสู่ตัวอาคาร

4.Eco Friendly Materials ตัวบ้านมีการเลือกใช้วัสดุที่ช่วยป้องกันแสงแดดเข้าสู่ตัวอาคารอย่าง ผนังกระจก, สี และอุปกรณ์ที่ช่วยประหยัดทรัพยากรเช่น สุขภัณฑ์ประหยัดน้ำและหลอดประหยัดไฟเป็นต้น

5.Oxygen Boost เพิ่มพื้นที่สีเขียวรอบบ้านและในโครงการ เช่น ปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาเพื่อลดแสงสะท้อนจากภายนอกเข้าสู่ตัวบ้าน

แบบบ้านทุกแบบเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น จำนวนบ้านทั้งโครงการ 174 ยูนิตในที่ดินมาตรฐานคือ 65 ตารางวา ซึ่งบ้านของจริงที่ได้จะเป็นบ้านเปล่าแถมชุดครัวและโคมไฟที่โถงบันไดมาให้นะคะ มีแบบบ้านทั้งหมด 4 แบบ คือ

1. Geo Smart 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ (ฟังก์ชั่นเสริม 1 ห้องทำงาน ) พื้นที่ใช้สอย 154 ตารางเมตร
2. Aqua Smart 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 2 ที่จอดรถ (ฟังก์ชั่นเสริม 1 ห้องทำงาน) พื้นที่ใช้สอย 165 ตารางเมตร
3. Oxy Smart 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 21 ห้องรับแขก ที่จอดรถ (ฟังก์ชั่นเสริม 1 ห้องทำงาน 1 ห้องพักผ่อน) พื้นที่ใช้สอย 190 ตารางเมตร
4. Nova Smart 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 2 ที่จอดรถ (ฟังก์ชั่นเสริม 1 ห้องพักผ่อน 1 ห้องทำงาน 1 ห้องแม่บ้าน) พื้นที่ใช้สอย 239 ตารางเมตร

สำหรับบ้านตัวอย่างตอนนี้ที่โครงการมีมาให้ดูครบทุกแบบแล้ว แต่วันนี้เราจะพาไปดูแบบหลังเล็กคือ Aqua Smart และแบบบ้านหลังใหญ่สุดคือ Nova Smart ไปดูกันว่าเค้าจะทำในส่วนของการประหยัดพลังงานได้ดีแค่ไหน ไปดูกันเลยค่ะ

เริ่มจากแปลนบ้าน Aqua Smart จะเห็นว่ามีทางเข้าออกทั้งหมด 3 ทางคือทางเข้าหลักหน้าบ้าน, ทางเข้าจากที่จอดรถ และทางเข้าจากเฉลียงข้างบ้านค่ะ โดยที่จอดรถสามารถจอดรถได้ 2 คัน เมื่อเข้าบ้านจากทางประตูทางเข้าหลักมาจะเจอกับพื้นที่รับแขก ติดกับพื้นที่รับแขกทางขวามือจะมีเฉลียงให้ออกไปยังพื้นที่ข้างบ้าน ส่วนทางซ้ายมือของพื้นที่รับแขกจะเป็นห้องน้ำ, บันไดขึ้นไปชั้น 2 และประตูที่เชื่อมกับที่จอดรถ ส่วนครึ่งหลังของบ้านจะเจอกับห้องรับประทานอาหารซึ่งมีพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องทำงานทางขวามือ ส่วนซ้ายมือจะเป็นครัวปิดที่ทางโครงการทำมาให้เป็นสัดเป็นส่วนแล้วค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้นสองจะเจอโถงบันไดที่มีพื้นที่วางของนิดๆหน่อยๆพอจะวางตู้หรือชั้นวางของเตี้ยๆได้ จากโถงจะแจกไปยังห้องนอน 3 ห้องโดยฝั่งหน้าบ้านจะแบ่งเป็นห้องนอนเล็กและ Master Bedroom ที่มีห้องน้ำส่วนตัวด้านใน และฝั่งหลังบ้านจะมีห้องนอนเล็กอีก 1 ห้องและห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันของห้องนอนเล็กทั้ง 2 ห้องค่ะ

บ้านหลังน้องเล็กแบบ Aqua Smart พื้นที่ใช้สอย 165 ตารางเมตร 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 2 ที่จอดรถ ที่มีฟังก์ชั่นเสริมเพิ่มมาคือ 1 ห้องทำงาน หน้าตาโดยรวมถูกออกแบบมาแบบ Modern เรียบง่าย

บ้านจริงเราจะได้รั้วบ้านทึบสลับระแนงเหล็กโปร่งสีเทา เข้ากับแผง Facade ของบ้าน ตัวประตูทางเข้าเป็นแบบบานเลื่อน ด้านข้างมีประตูเล็กสำหรับคนเดินเข้าออก นอกจากนั้นจะได้กริ่งไร้สายหน้าบ้าน, Mail Box, ไฟกิ่งและที่เก็บขยะค่ะ

แอบส่องช่องระบายอากาศใต้หลังคาระบายความร้อน เพื่อช่วยให้บ้านเย็นลงค่ะ

ตัวบ้านแบ่งเป็น 2 ฝั่งคือฝั่งที่จอดรถและฝั่งประตูทางเข้าหลักของบ้าน

มาดูฝั่งที่จอดรถกันก่อน พื้นที่จอดรถขนาด 2 จอด พื้นเป็น Stamp Concrete

มีดวงไฟซาลาเปามาให้ 1 ดวง และจากตรงนี้จะเห็นช่องแสง 2 จุด คือหน้าต่างจากห้องน้ำและหน้าต่างบานกระทุ้งจากห้องรับแขก

มีห้องเก็บของไว้เก็บอุปกรณ์ทำสวนหรือเครื่องมือช่าง

ประตูทางเข้าจากที่จอดรถเป็นบานประตู HDF สีขาว ซึ่งทางเข้าจากที่จอดรถแบบนี้จะช่วยอำนวยความสะดวกเวลาที่เราขับรถเข้ามาจอดแล้วจะขนลองเข้าบ้านก็สามารถเข้าจากทางนี้ได้เลย ใกล้ครัวกว่าไปอ้อมเข้าทางหน้าบ้านค่ะ

มือจับแบบก้านโยกของ Hafele ตัวล็อคด้านนอกแบบใช้กุญแจไข ด้านในเป็นตัวล็อคแบบใช้มือบิด

ยกพื้นขึ้นมาค่อนข้างสูงประมาณ 40 เซนติเมตร

ก่อนจะเข้าไปดูในตัวบ้านเราไปเดินดูรอบๆบ้านกันก่อนนะคะ เริ่มจากฝั่งซ้ายติดกับที่จอดรถ

รั้วของบ้านแต่ละหลังเป็นรั้วทึบสูงประมาณ 2 เมตร พื้นที่ข้างบ้านจะลงหญ้าไว้ให้แบบนี้เลยค่ะ

ออกมาฝั่งหลังบ้าน เนื่องจากบ้านตัวอย่างหลังงนี้อยู่ติดกับรั้วหลักของโครงการจึงได้เป็นรั้วสูง 3 เมตร แต่ถ้าเป็นแปลงมาตรฐานหลังชนกันทั่วไปก็จะได้รั้วสูง 2 เมตรเท่ากันรอบบ้านค่ะ พื้นที่ซักล้างหลังบ้านทำเป็นลานยื่นออกมาให้ขนาดประมาณ 1.5 x 3.5 เมตร ตรงนี้ถ้าเราอยากจะได้ลานซักล้างกว้างๆเผื่อทำกิจกรรมอื่นๆก็สามารถจะเทพื้นคอนกรีตต่อเติมกันเองได้ แต่ว่าต้องดูเรื่องโครงสร้างด้วยนะ เพราะถ้าเทพื้นแยกจากตัวบ้านก็มีโอกาสที่พื้นจะทรุดตัวนะ

ประตูลานซักล้างที่เชื่อมต่อออกมาจากครัว เป็นบาน UPVC บานเรียบสีขาว ลูกบิดสแตนเลสของ Colt มีหลอดฟลูออเรสเซ้นท์พร้อมฝาครอบมาให้ 1 ดวง ซึ่งแสงสว่างไม่น่าจะเพียงพอแนะนำให้ติดดวงไฟเพิ่มเติมค่ะ

พื้นลานซักล้างปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 เซนติเมตร สีและลายตามภาพ และเนื่องจากพื้นซักล้างที่ทำมาให้ยกพื้นค่อนข้างสูงเค้าเลยทำแบ่งเป็นขั้นบันไดมาให้เป็น 2 ขั้น แบบนี้

พื้นที่ข้างบ้านอีกด้านหนึ่งจะเป็นฝั่งของห้องทำงานและห้องรับแขก พื้นที่ข้างบ้านเหลือพอประมาณสามารถทำเป็นทางเดินสวน ลงต้นไม้หรือจะทำเป็นพื้นที่นั่งพักผ่อนก็ยังได้ค่ะ

มีทางออกเชื่อมต่อมาจากส่วนห้องรับแขกและครัว

มาถึงประตูทางเข้าหลักของบ้าน ได้ไฟโคมซาลาเปามา 1 ดวง

เฉลียงหน้าบ้านขนาดประมาณ 3.6 x 1.6 เมตร ยกพื้นขึ้นมาสูงประมาณ 45 ซม. แบ่งเป็นขั้นบันไดได้ 2 ขั้น

สามารถเดินเข้าจากฝั่งที่จอดรถได้เพราะเค้าทำเป็นขั้นบันไดมาให้ด้วย เดินได้สะดวกไม่ต้องอ้อมไปบันไดหน้าบ้านค่ะ

ประตูทางเข้าเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยว บานกรอบอลูมิเนียมอบขาว กระจกเป็น Green Tint ช่วยกรองแสงที่จะเข้าไปในบ้านได้บางส่วนแต่ก็มีข้อเสียคือเนื้อกระจกจะเก็บความร้อนเอาไว้ได้มากกว่ากระจกเขียวตัดแสงทั่วไป ส่วนด้านข้างเป็นบานฟิกซ์ไว้เป็นช่องแสงให้กับตัวบ้าน ประตูเข้าบ้านหลักที่เป็นกระจกเต็มบานแบบนี้อาจจะมีความปลอดภัยน้อยกว่ากระจกบานทึบแนะนำให้ติดประตูเหล็กดัดเพิ่มด้านในนะคะ

พื้นชั้น 1 ยกสูงประมาณ 10 เซนติเมตร ตัวรางเลื่อนติดตั้งแบบลดระดับมาให้แล้ว เวลาเดินเข้าออกบ้านจะลดโอกาสสะดุดได้ดีค่ะ

มือจับและตัวล็อค จับได้ถนัดมือดีค่ะ

เข้ามาในบ้านส่วนแรกจะเจอกับเป็นห้องรับแขก ซึ่งเชื่อมต่อกับส่วนห้องรับประทานอาหาร และห้องทำงาน พื้นชั้น 1 ทั้งชั้นปูด้วยประเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร และจะสังเกตเห็นได้ว่าบ้านหลังนี้ได้ช่องแสงมาค่อนข้างเยอะ สามารถรับแสงธรรมชาติเข้ามาในบ้านได้ ซึ่งจะทำให้บ้านดูโปร่งโล่งไม่อับทึบ และช่วยประหยัดไฟในเวลากลางวันด้วย

พื้นที่ส่วนห้องรับแขกจะได้ไดาวน์ไลท์มา 4 ดวง พร้อมโคมซาลาเปามาอีก 1 ส่วนฝ้าก็ดรอปมาให้ตามแบบในรูปเลยค่ะ

เรามาดูทีละส่วน ส่วนแรกเป็นห้องรับแขก ตรงนี้จะได้แสงธรรมชาติมาจากชุดหน้าต่างด้านข้างและประตูทางเข้าหลักของบ้าน

ถ่ายชุดหน้าต่างข้างบ้านมาให้เห็นแบบชัดๆ เป็นหน้าต่างบานกระทุ้งผสมบานฟิกซ์เต็มผนังมีกระจกแบบเข้ามุมเป็น Bay Window ให้เบาๆ ซึ่งตรงนี้จะรับแสงเข้าบ้านมาได้เยอะ ข้อดีคือได้แสงสว่างแต่ข้อเสียคือบ้านจะได้รับความร้อนมามากเกินไป ตรงนี้สามารถแก้ไขได้โดยติดฟิล์มกัน UV หรือม่านกรองแสง UV ก็ได้ค่ะ ซึ่งนอกจากจากจะได้ลดความร้อนที่จะเข้าตัวบ้านแล้วยังได้ความเป็นส่วนตัวเพิ่มมาอีกด้วย

หันกลับไปตรงประตูหน้าบ้านจะเห็นระบบสัญญาณเตือนภัยซึ่งตรงนี้จะเป็น Option พิเศษที่ทางโครงการเค้าติดตั้งมาให้ทุกหลังนะคะ

สำหรับพื้นที่ของห้องรับแขกด้านที่เราจะใช้วางโซฟา จะเห็นว่าเหมาะสำหรับการวางโซฟาขนาดประมาณ 3 – 4 คนนั่งหรือถ้าจะขยายขนาดเป็น 5 ที่นั่งก็ยังได้อยู่นะ โซฟากว้างๆเผื่อใครชอบเอนหลังดูทีวียามบ่าย

มองจากฝั่งคนนั่งโซฟาออกไปก็จะเห็นช่องแสงเป็นหน้าต่างบานกระทุ้งอีก 1 จุด แต่บานนี้ไม่ค่อยช่วยเรื่องแสงสว่างเท่าไหร่ถ้าเทียบกับบานอีกฝั่ง ผนังด้านนี้จะเป็นที่วางทีวีและบันไดขึ้นไปชั้น 2 ค่ะ ด้วยฝ้าที่สูงเกือบ 3 เมตร เราสามารถติดตู้ลอยไว้ด้านบนแล้วดูไม่รก

ระยะห่างจากระหว่างผนัง 2 ด้านก็จะอยู่ที่ประมาณ 3.5 เมตร ถ้าหักระยะนั่งโซฟาออกไป ระยะห่างการนั่งดูทีวีของเราก็จะอยู่ที่ประมาณ 2.4 เมตร ขนาดจอทีวีที่เหมาะสมก็ไม่ควรเกินประมาณ 55″ – 60″ ค่ะ

ถัดมาเป็นส่วนรับประทานอาหาร เชื่อมกับห้องครัว ได้เป็นครัวปิด ขวามือมีประตูออกข้างบ้านได้

พื้นที่ห้องทานอาหารได้โคมซาลาเปา 2 ดวง

มาดูฝั่งทางขวากันก่อนติดกับห้องรับแขกจะประตูออกไปนอกบ้าน ถัดมาเป็นพื้นที่ห้องทำงานและห้องทานอาหาร

ประตูที่ใช้ออกไปข้างบ้านป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมอบขาว

มือจับแบบเซาะร่อง

พื้นลดระดับประมาณ 10 เซนติเมตร

พื้นที่ห้องทำงานจะอยู่ติดกับส่วนทานอาหาร ได้ช่องแสงเป็นชุดหน้าต่างบานเลื่อนคู่และบานฟิกซ์ กระจกเข้ามุมแบบ Bay Window พื้นที่ห้องทำงานตรงนี้เป็นพื้นที่เชื่อมต่อกับห้องทานอาหาร เลยอาจจะดูไม่ค่อยเป็นสัดป็นส่วนเท่าไหร่ ถ้าใครคิดว่าจะใช้เป็นห้องทำงานที่จริงจังขึ้นมาหน่อยแนะนำว่าควรกั้นห้องให้เป็นเรื่องเป็นราวนะคะ

ให้ดูชุดหน้าต่างแบบชัดๆ มองออกไปได้วิวสวนข้างบ้าน

ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 2 ดวง

วางโต๊ะทำงาน 1 ชุดแบบพอดีๆ ค่อนข้างจะแน่นไปนิด

ห้องทางอาหารขนาดค่อนข้างกว้าง สามารถวางโต๊ะอาหารขนาด 6 ที่นั่งได้สบายๆ

ช่องแสงของห้องทานอาหารเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ 2 บาน

มือจับแบบเซาะร่องและตัวล็อค 2 ชั้น

ติดกับห้องทานอาหารเป็นห้องครัว ห้องน้ำ และบันไดขึ้นชั้นบน

ห้องครัวกั้นมาให้เป็นสัดป็นส่วน ด้วยประตูบานเลื่อนบานกรอบอลูมิเนียมอบขาว

พื้นห้องครัวลดระดับลงมาประมาณ 12 เซนติเมตร ตัวรางเลื่อนประตูก็ติดแบบลดระดับลงมาเรียบร้อยลดโอกาสเดินสะดุดค่ะ

พื้นห้องครัวปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 เซนติเมตร และแถมชุดเคาน์เตอร์ครัว และอ่างล้างจาน มาให้ในบ้านทุกหลัง

มีหน้าต่างบานเลื่อนเล็กๆเหนืออ่างล้างจานไว้สำหรับเปิดระบายอากาศและรับแสงธรรมชาติช่วยฆ่าเชื้อโรคได้บางส่วน

อีกด้านเป็นประตูออกไปยังลานซักล้างและช่องแสงเป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมอีกจุดของห้องครัว

เปิดประตูออกไปยังลานซักล้าง ลดระดับลงไปประมาณ 12 เซนติเมตร

มาต่อที่ห้องน้ำห้องเดียวของชั้น 1 กัน

พื้นห้องน้ำด้านในลดระดับลงไปประมาณ 10 ซม. วัสดุปูพื้นเป็นกระเบื้องเซรามิค

ลักษณะห้องน้ำจะเว้าคล้ายๆตัว L เพราะส่วนหน้าเสียพื้นที่ให้กับท้องบันไดไปแล้วนั่นเองค่ะ

อ่างล้างมือแบบลอยตัวขนาดพอประมาณไม่มีเคาน์เตอร์เก็บของใต้อ่างด้านบนมีที่วางของนิดหน่อย ยี่ห้อ Kohler และก๊อกน้ำของ Grohe

ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Kohler สายชำระของ Grohe และที่ใส่กระดาษชำระของ Englefield

สายชำระขนาดพอดีมือแต่อาจจะเล็กไปสำหรับคนมืออวบๆ

พื้นที่อาบน้ำไม่มีกั้นห้องอาบน้ำมาให้แต่ใช้เป็นการลดระดับพื้นลงมาประมาณ 6 ซม. แทน ตรงนี้ถ้าใครอยากจะกั้นให้เป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้นก็สามารถติดตั้ง Shower Box ได้ไม่ยากนะคะ นอกจากนั้นพื้นที่อาบน้ำตรงนี้ยังมีช่องแสงมาให้ 1 ขุด พร้อมไฟดาวน์ไลท์ 1 ดวง ส่วนฝักบัวปรับระดับที่ได้เป็นของ Grohe พร้อมก๊อกน้ำด้านล่างเผื่อใครจะใช้รองน้ำใส่กะละมังส่วนที่วางสบู่ของ Englefield ค่ะ

ฝักบัวขนาดพอดีๆ

พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1.45 x 0.9 เมตร อาบได้สบายๆ

ไปต่อกันที่ชั้น 2 เลยค่ะ ตัวบันไดขึ้นชั้น 2 เป็นบันไดคสล. ลูกตั้งและลูกนอนไม้ของ Shera ราวเหล็กทำสีมือจับบันไดเป็นไม้แข็งทำสีเข้ากับตัวบันได

โถงบันไดมีช่องแสงเป็นหน้าต่างบานยาว 1 ชุด ช่วยให้แสงธรรมชาติเข้ามาในโถงบันไดได้ นอกจากนั้นยังได้โคมไฟตามรูปมาอีก 1 ชุด

ขึ้นมาถึงชั้น 2 พื้นชั้น 2 ปูด้วยลามิเนตลายไม้สีอ่อน หนา 8 มม.

บันไดมีชานพักสี่เหลี่ยม 1 จุด เดินได้ปลอดภัยค่ะ

ขึ้นมาก็จะเจอโถงบันไดก่อนค่ะ ชั้น 2 นี้จะมีห้องนอนทั้งหมด 4 ห้อง ห้องน้ำที่โถง 1 ห้อง และห้องน้ำใน Master Bedroom อีก 1 ห้อง

พื้นที่โถงบันไดมีที่ว่างสำหรับวางของได้นิดหน่อย อาจจะวางตู้เก็บของที่ใช้ร่วมกันทุกคนไว้ตรงนี้ก็ได้ หรือจะติดกระจกไว้สำหรับเช็คความเรียบร้อยก่อนออกจากบ้านก็ได้ค่ะ

มองกลับไปดูโถงบันไดโดยรวม

เริ่มจากห้องนอนห้องแรกทางขวามือ บานประตูของห้องนอนทุกห้องจะได้เป็นบานสำเร็จรูป HDF สีขาว

พื้นปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องมาจากโถงบันได กั้นด้วยตัวจบสีเข้ากับพื้น

ห้องตกแต่งมาแบบเรียบร้อยด้วยโทนสีครีม ห้องนี้ได้ช่องแสงมาค่อนข้างเยอะ โดยเป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 3 บานและประตูบานเลื่อนกระจกที่เชื่อมกับระเบียงอีก 1 จุด ส่วนไฟส่องสว่างห้องนี้จะได้เป็นโคมซาลาเปามา 1 ดวง ที่กลางห้องค่ะ

ประตูที่เชื่อมห้องนอนกับระเบียงฝั่งหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมอบขาว

ระเบียงลดระดับพื้นลงไปประมาณ 12 ซม. พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. สีตามภาพ

ระเบียงขนาดประมาณ 0.9 x 3.9 เมตร พอจะวางชุดโต๊ะเก้าอี้เล็กๆไว้นั่งชมวิวหรือจะปลูกไม้กระถางเพิ่มความร่มรื่นสักหน่อยก็ดีค่ะ

ราวกันตกระเบียงเป็นราวเหล็กทาสีเทาอ่อน

เตียงวางขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่างก็เหมาะสมกับขนาดห้องดีนะคะ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือประมาณ 5o ซม. พอจะวางโต๊ะข้างเตียงเล็กๆสำหรับวางโคมไฟได้

ฝั่งปลายเตียงจัดเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ หรือจะวางเป็นโต๊ะวางทีวีก็ได้ค่ะเพราะเค้ามีช่องสัญญาณมาให้เรียบร้อย

พื้นที่ปลายเตียงเหลือค่อนข้างเยอะ สามารถใช้เป็นที่นั่งทำงานได้สบายๆ

พื้นที่ข้างเตียงอีกฝั่งจัดเป็นตู้เสื้อผ้าแบบ Built – in

ประตูตู้เป็นบานเลื่อนซึ่งเหมาะสมกับพื้นที่ข้างเตียงที่เหลือค่ะ

ถัดไปเราจะไปต่อกันที่ห้องนอนใหญ่กันค่ะ

ห้องนอนใหญ่ หรือ Master Bedroom ก็ยังตกแต่งมาแบบคุมโทนด้วยสีครีม น้ำตาลอ่อน มีช่องแสง 4 จุด คือหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บานที่หัวเตียง, ประตูบานเลื่อนที่เชื่อมกับระเบียงหน้าบ้านอีก 1 ชุด และหน้าต่างบานกระทุ้งอีกบานที่ข้างประตูค่ะ

สำหรับห้องนอนใหญ่นี้จะได้ฝ้าเป็นฝ้าหลุมแบบนี้ พร้อมไฟดาวน์ไลท์บริเวณส่วนห้องนอน 4 ดวง และโคมซาลาเปาอีก 1 ดวง

เราจะไปดูระเบียงหน้าบ้านกันก่อน โดยประตูที่เชื่อมห้องนอนกับระเบียงหน้าบ้านเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมอบขาว

พื้นระเบียงลดระดับลงไปประมาณ 12 ซม. พื้นปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีและลายตามภาพ ขนาด 30 x 30 ซม.

ระเบียงห้องนี้จะแคบกว่าห้องที่แล้วหน่อยนึง คือกว้างแค่ประมาณ 70 ซม. พอแค่ออกมายืนกินลมชมวิวค่ะ

มีที่วางคอมเพรสเซอร์ระหว่าง 2 ห้องมาให้

ห้องนอนวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่าง วางได้พอดีๆกับช่องแสงด้านหลัง แต่ถ้าใครไม่ซีเรียสเรื่อง Proportion การวางเตียง ก็สามารถจะขยับไปเป็นคิงส์ไซส์ได้ ที่ยังเหลือวางได้สบายๆค่ะ

พื้นี่ข้างเตียงฝั่งระเบียงเหลือประมาณ 1.1 เมตร จะวางโต๊ะเล็กหรือตู้เล็กๆก็ได้สบายค่ะ

ฝั่งปลายเตียงจัดเป็นโต๊ะเขียนหนังสือ จะวางเป็นโต๊ะวางทีวีก็ได้เช่นกันค่ะเพราะเค้ามีช่องสัญญาณมาให้แล้วเรียบร้อย

พื้นที่ปลายเตียงเหลืออีกเยอะ เดินได้สบายๆค่ะ

อีกฝั่งของห้องก็ยังคงเป็นพื้นที่ของห้องนอนใหญ่ ซึ่งเค้ากั้นมาให้เป็นห้อง Walk – in Closet แล้วค่ะ

พื้นที่ข้างเตียงฝั่ง Walk – in Closet นี้จัดเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง

พื้นที่ก็เหลือเฟือ อาจจะขวาง Circulation นิดๆหน่อยๆแต่ไม่เป็นปัญหาอะไรค่ะ

ด้านในส่วน Walk – in Closet มีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมอบขาว

ห้องน้ำส่วนตัวในห้อง Master Bedroom

พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม. และปูด้วยกระเบื้องเซรามิคสีครีมอ่อน

ด้านในห้องน้ำมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยวสำหรับรับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ

ได้ไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง

อ่างล้างมือ Kohler พร้อมเคาน์เตอร์เก็บของใต้อ่าง และที่วางของข้างอ่างก็วางได้อีกพอสมควรเลยค่ะ

ขนาดอ่างค่อนข้างใหญ่

โถสุขภัณฑ์ Kohler สายชำระ Grohe และที่ใส่กระดาษชำระ Englefield ตำแหน่งติดตั้งถูกต้องใช้งานได้สะดวกค่ะ

พื้นที่อาบน้ำไม่มี Shower Box มาให้ แต่ใช้การแบ่งให้เป็นสัดส่วนด้วยพื้นลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม. แต่ถ้าเราอยากจะแบ่งให้เป็นสัดส่วนมากขึ้นก็สามารถทำได้ด้วยการติด Shower Box ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำขนาดประมาณ 1.4 x 0.9 พอขยับตัวอาบน้ำได้สบายๆค่ะ

อีกด้านของห้องน้ำก็มีช้องแสงอีก 1 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง

ห้องถัดไปที่เราจะไปดูเป็นห้องนอนเล็กที่อยู่ฝั่งซ้ายของบันไดค่ะ

ห้องนี้ตกแต่งมาแตกต่างจากห้องอื่นๆ มาในโทนสีเขียวสดใสเหมาะกับเด็กเล็กๆ

ห้องนี้มีช่องแสงมาให้ 3 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บานและหน้าต่างบานเลื่อนเดี่ยว 1 บาน

วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต แบบเข้ามุมมาให้ดูเป็นตัวอย่าง การวางเตียงเข้ามุมแบบนี้ช่วยให้ประหยัดพื้นที่ค่ะ

พื้นที่ปลายเตียงวางตู้เตี้ยเล็กๆมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

พื้นที่ปลายเตียงเหลือค่อนข้างเยอะ สามารถจะวางตู้เก็บของขนาดใหญ่กว่าตัวอย่างก็ได้ หรือจะว่างโต๊ะสำหรับวางทีวีก็ยังได้ค่ะ

ข้างเตียงอีกด้านวางตู้เสื้อผ้า และโต๊ะเขียนหนังสือ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือพอให้ขยับตัวเลือกเสื้อผ้าได้สบายๆค่ะ

ออกมาที่ห้องน้ำที่ใช้ร่วมกันของห้องนอนเล็ก 2 ห้อง

พื้นห้องน้ำปูด้วยกระเบื้องเซรามิค ลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.

ผนังห้องน้ำกรุกระเบื้องเซรามิคสีตามภาพ

อ่างล้างมือ Kohler ขนาดพอดีๆ

ติดกันเป็นโถสุขภัณฑ์ Kohler ติดตั้งระยะมาตรฐานใช้ได้สะดวก

พื้นที่อาบน้ำไม่มีกระจกกั้นอาบน้ำมาให้ แต่ก็ยังเป็นสัดเป็นส่วนด้วยพื้นที่ลดระดับลงมาประมาณ 4 ซม

ขนาดพื้นที่อาบน้ำประมาณ 1.6 x 0.85 เมตร อาจจะแคบไปสักหน่อยสำหรับคนอวบๆนะคะ

มาต่อกันที่บ้านหลังใหญ่สุดกับแบบบ้าน Nova Smart พื้นที่ใช้สอย 239 ตารางเมตร 4 ห้องนอน 4 ห้องน้ำ 1 ห้องรับแขก 2 ที่จอดรถ ที่มีฟังก์ชั่นเสริมเพิ่มมาคือ 1 ห้องแม่บ้าน การวางผังโดยรวมๆจะเหมือนกับบ้านแบบที่แล้ว เพียงแต่จะได้พื้นที่ใช้งานและฟังก์ชั่นเพิ่มขึ้น เริ่มจากทางเข้าหลักเข้ามาจะเจอกับห้องรับแขก จากห้องรับแขกขวามือจะเป็นห้องน้ำและบันไดขึ้นชั้นบน ถัดจากห้องรับแขกไปทางหลังบ้านจะเป็นห้องทานอาหารติดกับห้องทานอาหารเป็นห้องทำงานที่มีขนาดใหญ่ขึ้น พร้อมกับกั้นห้องมาให้เป็นสัดเป็นส่วน สามารถจะเปลี่ยนเป็นห้องนอนได้ค่ะ อีกด้านของห้องทานอาหารจะติดกับ Pantry หรือพื้นที่เตรียมอาหารเบาๆ ถัดไปจะเป็นส่วนครัวปิด จากครัวสามารถออกไปยังลานซักล้างได้ ส่วนห้องแม่บ้านนั้นจะถูกแยกออกจากตัวบ้านโดยจะสามารถเข้าถึงได้จากด้านนอกของตัวบ้านเท่านั้นค่ะ

ขึ้นมาที่ชั้นสองจะเจอโถงบันไดที่มีขนาดใหญ่ขึ้นและจะมีฟังก์ชั่นที่เพิ่มขึ้นคือห้องพักผ่อนขนาดใหญ่และพื้นที่อ่านหนังสือ นอกจากนั้นห้องนอนทุกห้องจะได้ห้องน้ำส่วนตัวในห้องเลย แต่พื้นที่ Walk – in Closet จะมีเฉพาะในห้องนอนใหญ่เหมือนเดิมค่ะ

หน้าตาโดยรวมถูกออกแบบมาคล้ายๆกันทุกแบบคือแบบ Modern เรียบง่าย เน้นโทนสีครีม เขียว และน้ำตาลสื่อถึงธรรมชาติ จากตรงนี้เราจะเห็นแผง Facade 3 ชุดที่ช่วยกันแสงอาทิตย์เข้าสู่ตัวบ้าน

บ้านจริงเราจะได้รั้วบ้านทึบสลับระแนงเหล็กโปร่งสีเทา ตัวประตูทางเข้าเป็นแบบบานเลื่อน ด้านข้างมีประตูเล็กสำหรับคนเดินเข้าออก นอกจากนั้นจะได้กริ่งไร้สายหน้าบ้าน, Mail Box, ไฟกิ่งและที่เก็บขยะค่ะ

พื้นที่จอดรถขนาด 2 จอด พื้นเป็น Stamp Concrete มีไฟโคมซาลาเปา 1 ดวง

เรามาเดินดูรอบๆตัวบ้านกันก่อน เริ่มจากฝั่งขวาติดกับที่จอดรถ รั้วบ้านสูง 2 เมตร ส่วนพื้นที่ข้างบ้านเหลือประมาณ 2 เมตร สามารถจะจัดเป็นสวน หรือทางเดินเล็กๆได้ส่วนพื้นทางโครงการจะปูพื้นหญ้ามาให้แบบนี้เลยค่ะ

มีเฉลียงเชื่อมกับห้องอเนกประสงค์

หลังบ้านกับห้องทานอาหารและห้องครัวด้วยหน้าต่างแต่จะไม่มีประตูเชื่อมมาหลังบ้านนะคะ

พื้นที่ข้างบ้านอีกฝั่งเชื่อมอยู่กับห้องแม่บ้านและห้องครัว

ประตูทางซ้ายมือคือประตูที่เชื่อมห้องครัวและลานซักล้าง ส่วนทางขวามือคือห้องแม่บ้าน

ห้องแม่บ้านจะแยกเป็นสัดเป็นส่วนออกจากตัวบ้านเลยค่ะ โดยจะมีห้องน้ำและห้องนอนไว้ให้ครบ

ภายในห้องน้ำของแม่บ้าน

ประตูทางเข้าหลักหน้าบ้านมีไฟติดผนังไว้ให้ 1 ดวง ซึ่งอาจจะไม่เพียงพอ แะให้ติดไฟเพิ่มเติมนะคะ

เฉลียงหน้าบ้านค่อนข้างสูงจึงแบ่ง Step เป็น 2 ขั้น แต่จากที่เห็นระดับของทั้ง 2 ขั้นจะไม่เท่ากัน อาจจะทำให้จังหวะการก้าวพลาดได้ เพราะฉะนั้นเดินกันด้วยความระมัดระวังนะคะ

เฉลียงฝั่งที่ต่อกับที่จอดรถก็มี Step ให้เราเดินเข้าบ้านจากที่จอดรถได้เลยไม่ต้องอ้อมไปทางหน้าบ้านค่ะ

ประตูทางเข้าหลักเป็นประตูบานเลื่อนเดี่ยวบานกรอบอลูมิเนียมอบขาว

ด้านบนมีกันสาดมาให้แบบนี้เลยค่ะ

มือจับและตัวล็อค

พื้นยกระดับประมาณ 12 ซม. จากเฉลียงหน้าบ้านตัวรางของประตูทางเข้าหลักติดตั้งบนพื้นที่ลดระดับไว้แล้ว เวลาเดินจะสะดวกมากขึ้นเพราะไม่มีตัวรางมาเกะกะ

พื้นบ้านปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60 x 60 ซม. ระบบไฟใช้ดาวน์ไลท์ผสมกับโคมซาลาเปาทั้งหลัง ส่วนแรกที่เราเห็นคือห้องรับแขก จากตรงนี้เราก็จะเห็นห้องทางอาหาร และห้องอเนกประสงค์ ส่วนบ้านจริงก็จะเป็นห้องเปล่าๆ นะคะ

ห้องนั่งเล่นจะได้รับแสงธรรมชาติจากชุดหน้าต่างบานบานกระทุ้งและบานฟิกซ์ 1 ชุด และจากประตูหน้าบ้านเต็มๆอีก 1 บาน ตรงนี้ถ้าใครกังวลเรื่องความเป็นส่วนตัวแนะนำให้ติดม่านบังสายตาไว้ด้วยนะคะ เพราะบานประตูค่อนข้างใหญ่ใครผ่านไปมามองเข้ามาเห็นในบ้านแน่นอนเลย

ให้ดูชุดหน้าต่างบานใหญ่ข้างบ้านแบบชัดๆ

ผนังของด้านที่เราเห็นอยู่นี้กว้างประมาณ 3 เมตร ขนาดโซฟาที่เหมาะกับพื้นที่ก็ประมาณ 3 – 4 ที่นั่ง ก็จะพอมีที่ให้วางโต๊ะเล็กๆข้างโซฟาได้ หรือถ้าใครคิดว่าจะวางโซฟาอย่างเดียวก็สามารถวางได้ถึง 5 ที่นั่งเลย

อีกฝั่งจัดชั้นวางทีวีจัดมาให้เป็นไอเดียตกแต่ง ซึ่งของจริงจะเป็นผนังเปล่าๆพร้อมเต้าเสียบสายไฟและสัญญาณโทรทัศน์

ระยะจากโซฟาถึงที่วางทีวีประมาณ 3 เมตร สามารถวางทีวีได้ถึงขนาด 55″ – 60″ เลยค่ะ

ถัดจากห้องรับแขกมาซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ออกไปที่จอดรถ ขวามือเป็นห้องน้ำและถัดไปเป็นโซนรับประทานอาหาร, ห้องอเนกประสงค์ และ Pantry

มาดูห้องน้ำที่อยู่ติดกับห้องรับแขกกันก่อน

ห้องน้ำที่ชั้นล่างมีฟังก์ชั่นมาครบทั้งห้องน้ำและส่วนอาบน้ำแต่ไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้งมาให้ ผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคจรดเพดาน ส่วนฝ้าที่เราเห็นตัดเฉียงลงมานั้นเพราะว่าห้องน้ำใช้พื้นที่ใต้บันไดด้วยนั่นเองค่ะ

ได้ไฟดาวน์ไลท์ 2 ดวง

อ่างล้างมือ Kohler ขนาดพอดีๆ

โถสุขภัณฑ์ของ Kohler สายชำระของ Grohe และที่ใส่กระดาษชำระของ Englefield ตำแหน่งติดตั้งถูกต้องตามมาตรฐาน

ตรงข้ามกับโถสุขภัณฑ์เป็นพื้นที่อาบน้ำที่ไม่มี Shower Box มาให้นะคะ

แต่จะถูกแยกเป็นสัดส่วนด้วยพื้นที่ลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.

ออกมาจากห้องน้ำฝั่งตรงข้ามเป็นโถงที่เชื่อมออกไปยังที่จอดรถ

ถัดไปเป็นห้องทานอาหาร ที่มีช่องแสงที่มุมห้องทั้ง 2 ด้าน

สำหรับโต๊ะทานอาหารที่จัดมาให้ดูจะเป็น 6 ที่นั่ง แต่ถ้ามีสมาชิกในบ้านหลายคน ก็สามารถเพิ่มเป็น 8 ที่นั่งได้โดยเพิ่มขนาดโต๊ะให้กว้างขึ้นอีกนิดและวางเก้าอี้ที่หัวและท้ายของโต๊ะนะคะ

พื้นที่ทางอาหารจะได้ไฟดาวน์ไลท์มา 4 ดวง และไฟโคมซาลาเปา 1 ดวง

ขวามือเป็นห้องอเนกประสงค์ที่กั้นห้องมาให้เป็นสัดเป็นส่วน

โดยประตูเป็นประตูบานเลื่อนบานกรอบอลูมิเนียมอบขาว

รางเลื่อนติดตั้งบนพื้นแบบนี้อาจจะเดินสะดุดได้ต้องเดินด้วยความระมัดระวังนะคะ

ห้องนี้จะได้ไฟโคมซาลาเปามา 1 ดวง

ห้องนี้จัดเป็นห้องทำงานและมีที่นั่งพักผ่อนวิวสวนมาให้ดูเป็นตัวอย่าง ซึ่งถ้าครอบครัวไหนมีสมาชิกครอบครัวเป็นผู้สูงอายุหรือคนที่ใช้บันไดไม่สะดวกก็สามารถจะใช้ห้องนี้เป็นห้องนอนก็ได้นะคะ

อีกด้านมองไปยังห้องทานอาหาร

ติดกับห้องทางอาหารอีกฝั่งเป็น Pantry เตรียมอาหาร ซึ่งตรงนี้เราสามารถเอาเก้าอี้ เคาน์เตอร์บาร์มาวางได้ จะมีประโยชน์มากในเวลาเร่งด่วนตอนเช้าๆ คือลงมาแล้วทานอาหารเล็กๆน้อยๆไม่ต้องเสียเวลาเข้าไปเตรียมอาหารในครัว

บ้านจริงจะได้เคาน์เตอร์ครัวมาตามภาพเลยค่ะ

มีหน้าต่างบานเลื่อนเล็กๆเหนืออ่างล้างจาน รับแสงธรรมชาติและระบายอากาศ

ด้านหลัง Pantry จะเป็นห้องครัวที่ของจริงจะเป็นประตูบาน HDF

พื้นห้องครัวลดระดับลงไปประมาณ 10 ซม.

ด้านในครัวก็มีชุดเคาน์เตอร์และอ่างล้างจานมาให้ตามภาพเลยค่ะ

ได้ไฟโคมซาลาเปามา 1 จุด

มีช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่อยู่เหนือเคาน์เตอร์สำหรับระบายอากาศ และรับแสงธรรมชาติ

ประตูเชื่อมครัวกับลานซักล้างได้เป็นบานประตู UPVC สีขาว

บันไดขึ้นไปชั้นบนโครงสร้าง คสล.ลูกตั้งและลูกนอนไม้ของ Shera ราวเหล็กทำสีมือจับบันไดเป็นไม้แข็งทำสีเข้ากับตัวบันได

บันไดมีชานพักสี่เหลี่ยม 1 จุด

พื้นชั้น 2 เป็นลามิเนตลายไม้

ชั้น 2 มี 3 ห้องนอนพร้อมห้องน้ำในตัว 1 ห้องอ่านหนังสือ และ 1 ห้องพักผ่อนค่ะ

หันกลับไปดูที่โถงบันไดกันอีกที จะเห็นช่องแสงที่โถงบันได้ 2 จุด ช่วยให้โถงบันไดได้แสงสว่างมากเพียงพอในตอนกลางวันค่ะ

ถ่ายชุดหน้าต่างที่โถงบันไดมาให้ดูชัดๆ เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่ผสมกับหน้าต่างบานฟิกซ์ 2 บาน

ติดกับโถงบันไดทางขวาเป็นโถงพักผ่อน

มีช่องแสง 2 จุด เป็นหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 บาน

วางโซฟาขนาดประมาณ 2 – 3 ที่นั่งได้

จะเห็นว่าโถงพักผ่อนตรงนี้จะได้แสงธรรมชาติจากหน้าต่างทั้ง 4 บานแบบเต็มๆ

ห้องถัดไปที่จะไปดูคือห้องติดบันไดเป็นห้องพักผ่อน บ้านตัวอย่างกั้นห้องมาให้ดูโดยใช้บานกระจกช่วยให้ห้องไม่ดูทึบจนเกินไปค่ะ

ห้องนี้ถือเป็น High Light ของชั้น 2 เลยค่ะ เพราะเป็นห้องเปิดโล่งขนาดใหญ่ ซึ่งเราสามารถจัดเป็นห้องนั่งเล่นแบบส่วนตัวที่ชั้น 2 หรือจะใช้เป็นพื้นที่สำหรับทำกิจกรรมครอบครัวก็ได้ หรือถ้าบ้านไหนมีสมาชิกเยอะหน่อยก็สามารถจะกั้นทำเป็นห้องนอนได้เช่นกันค่ะ

ห้องนี้ได้ช่องแสงขนาดใหญ่มา 2 ชุด คือประตูเชื่อมกับระเบียง

และชุดหน้าต่างเป็นหน้าต่างบานเลื่อคู่และบานฟิกซ์ 3 บาน

ออกไปดูที่ระเบียงกันก่อนค่ะ

พื้นระเบียงลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.

ระเบียงห้องนี้ค่อนข้างกว้างสามารถเอาชุดโต๊ะเล็กๆออกมานั่งพักผ่อน หรือจิบชาตอนเช้าๆได้

อีกฝั่งของระเบียงเป็นระเบียงห้องนอนใหญ่ค่ะ

มาต่อกันที่ห้องนอนใหญ่

พื้นห้องนอนปูด้วยลามิเนตต่อเนื่องมาจากโถงบันไดกั้นด้วยตัวจบสีเข้ากับพื้น

ห้องนอนใหญ่อยู่ถัดมาจากห้องพักผ่อน ตกแต่งมาแบบเรียบหรู มีช่องแสง 3 จุด คือหน้าต่างบานกระทุ้ง 2 ชุดและประตูบานใหญ่ที่เชื่อมกับระเบียง 1 ชุด ฝ้าเพดานดรอปมาให้ตามแบบ พร้อมไฟดาวน์ไลท์ 4 และไฟโคมซาลาเปาอีก 1 ดวง

พื้นระเบียงปูด้วยกระเบื้องเซรามิค พื้นลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม.

ระเบียงกว้างประมาณ​ 90 ซม. สามารถปลูกไม้กระถางให้ความร่มรื่นพอได้อยู่ค่ะ

พื้นที่ข้างระเบียงมีเหลือไว้ให้วางคอมเพรสเซอร์

พื้นที่ข้างระเบียงอีกด้านก็มีพื้นที่สำหรับวางคอมเพรสเซอร์ระหว่างระเบียงทั้ง 2 ห้อง

บ้านตัวอย่างวางเตียงขนาดควีนไซส์มาให้ดูเป็นตัวอย่างซึ่งจริงๆเราจะขยับเป็นคิงส์ไซส์ก็ยังได้จะได้นอนหลับสบายๆ

พื้นที่ข้างเตียงเหลือค่อนข้างเยอะ สามารถจะวางตู้เล็กๆตามแบบบ้านตัวอย่างหรือจะขยับไซส์ขึ้นมาอีกก็ได้ไม่มีปัญหาค่ะ

ฝั่งปลายเตียง Built – in มาให้ดูเป็นชั้นวางทีวีและโต๊ะเขียนหนังสือ

พื้นที่ปลายเตียงเหลืออีกเยอะ สามารถวาง Bed Bench ไว้สำหรับนั่งแต่งตัวหรือวางของ

อีกด้านของห้องเป็น Walk – in Closet

พื้นที่ข้างเตียงฝั่งนี้ก็มีพื้นที่เหลือพอสมควร เดินได้ไม่อึดอัดค่ะ

ด้านใน Walk – in Closet ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 1 ดวง ในนี้มีพื้นที่ค่อนข้างเยอะ สามารถ Built – in ตู้เสื้อผ้าเกาะผนังไปโดยรอบแล้วยังมีที่ทางให้เดินและแต่งตัวอยู่ แต่ข้อเสียของห้องนี้คือไม่มีช่องแสงธรรมชาติเลย คุณผู้หญิงอาจจะแต่งหน้าลำบากหน่อย

มาดูห้องน้ำส่วนของ Master Bedroom กันต่อ

ด้านในห้องน้ำแยกส่วนเปียกส่วนแห้ง

ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 2 ดวง

อ่างล้างมือแบบฝังพร้อมเคาน์เตอร์มีที่เก็บของค่อนข้างเยอะ

อีกด้านมีระเบียงเฉพาะของห้องน้ำ

เป็นระเบียงขนาดเล็กๆๆ และประตูก็เล็กมากๆ เข้าไปลำบากคงเหมาะจะใช้เป็นระเบียงสำหรับเปิดระบายอากาศเท่านั้นค่ะ

โถสุขภัณฑ์ Kohler สายชำระ Grohe และที่ใส่กระดาษชำระ Englefield ตำแหน่งอยู่ข้างประตูทางเข้าตำแหน่งติดตั้งถูกต้องใช้งานได้สะดวกค่ะ

ห้องอาบน้ำถูกแบ่งอย่างเป็นสัดเป็นส่วน

ฝักบัวคู่ 2 ขนาด ปรับน้ำร้อนน้ำเย็นได้ มีทั้งแบบ Rain Shower และฝักบัวปกติยี่ห้อ Grohe

พื้นที่อาบน้ำขนาด 1 x 1.4 เมตร พื้นลดระดับลงไปประมาณ 2 ซม.

ออกมาที่ห้องโถงอีกครั้ง

ไปดูห้องนอนเล็กห้องแรกที่อยู่ติดกับพื้นที่พักผ่อนกันก่อนค่ะ

ห้องนอนห้องนี้ตกแต่งมาแบบเรียบง่าย มีช่องแสงเพียงจุดเดียวเป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่บานกรอบอลูมิเนียมอบขาว

ได้โคมซาลาเปามา 1 จุด

เตียงนอนวางแบบ 3.5 ฟุต เข้ามุม

พื้นที่ปลายเตียงจะเป็นตู้เสื้อผ้าและโต๊ะเขียนหนังสือ

ซึ่งเมื่อจัดทั้งหมดลงไปแล้วก็ยังเหลือพื้นที่ให้เดินได้สบายๆ

อีกด้านของห้องเป็นห้องน้ำ

พื้นห้องน้ำลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม. ผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคสีตามภาพ พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ภายในห้องน้ำมีช่องแสง 1 จุด เป็นหน้าต่างบานเลื่อนคู่

อ่างล้างมือแบบลอยตัวของ Kohler

โถสุขภัณฑ์ของ Kohler สายชำระของ Grohe และที่ใส่กระดาษชำระของ Englefield

ห้องอาบน้ำถูกแยกมาแบบเป็นสัดเป็นส่วน ฝักบัวปรับระดับที่ได้เป็นของ Grohe พร้อมที่วางสบู่และก๊อกน้ำด้านล่างเผื่อใครจะใช้รองน้ำใส่กะละมังส่วนที่วางสบู่ของ Englefield ค่ะ

พื้นที่อาบน้ำลดระดับลงไปประมาณ 3 ซม. ขนาดประมาณ 1.4 x 1

ถัดมาเป็นห้องนอนเล็กห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้

ห้องนี้เข้ามาจะเจอกับห้องน้ำก่อนเลย

ห้อน้ำลดระดับลงไปประมาณ 5 ซม. พื้นปูด้วยกระเบื้องแกรนิตโต้ ผนังกรุด้วยกระเบื้องเซรามิคสีตามภาพ มีช่องแสง 1 จุด บริเวณที่อาบน้ำ

ได้ไฟดาวน์ไลท์มา 2 ดวง

อ่างล้างมือแบบลอยตัวขนาดพอประมาณไม่มีเคาน์เตอร์เก็บของใต้อ่างด้านบนมีที่วางของนิดหน่อย ยี่ห้อ Kohler และก๊อกน้ำของ Grohe

ติดกับอ่างล้างมือเป็นโถสุขภัณฑ์ของ Kohler สายชำระของ Grohe และที่ใส่กระดาษชำระของ Englefield

พื้นที่อาบน้ำไม่มี Shower Box มาให้ แนะนำว่าให้ติดม่านหรือติดกระจกกั้นห้องอาบน้ำเพิ่มเติมก็จะดี เพราะไม่อย่างนั้นเวลาอาบน้ำไป น้ำก็คงจะกระเซ็นลงบนโถสุขภัณฑ์แน่นอนค่ะ

พื้นที่อาบน้ำประมาณ 0.9 x 1.1 เมตร

ห้องนี้ตกแต่งมาแบบเรียบง่าย มีช่องแสง 2 จุด ถ้าวันไหนอากาศดีๆสามารถเปิด 2 บานพร้อมกันเพื่อให้อากาศถ่ายเท และลมพัดโกรกได้ได้ต้องเปิดเแอร์เลยแต่ถ้าจะเปิดหน้าต่างทิ้งไว้กลางคืนก็แนะนำว่าควรติดมุ้งลวดกันแมลงก่อนนะคะ

วางเตียงขนาด 3.5 ฟุตมาให้ดูเป็นตัวอย่าง

พื้นที่ปลายเตียงจัดเป็นชั้นวางของและโต๊ะเขียนหนังสือ

พื้นที่ปลายเตียงเหลือให้เดินได้สบายๆ

ข้างเตียงอีกด้านทำเป็นตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของ

ซึ่งพื้นที่ข้างเตียงที่เหลือฝั่งนี้ก็เหลือพอให้ใช้งานฟังก์ชั่นการแต่งตัวได้ค่ะ

อีกมุมนึง มองออกไปฝั่งห้องโถง

สวิทช์ไฟทั้งบ้านของ BTICINO

มี VDO จากโครงการมาให้ดูกันค่ะ

ราคา (ก.พ.59)

• Aqua Smart แปลงที่ AS142 ที่ดิน 63 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. 3 ห้องaนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ | ราคา 6.874 ล้านบาท
• Oxy Smart แปลงที่ OS147 ที่ดิน 60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 190 ตร.ม. 3 ห้องaนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ | ราคา 8.137 ล้านบาท
• Nova Smart แปลงที่ NS162 ที่ดิน 70 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 239 ตร.ม. 4 ห้องaนอน 4 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ | ราคา 10.53 ล้านบาท

** เงินจอง : 50,000 บาท / ทำสัญญา : 100,000 บาท
**ค่าสาธารณูปโภค : 30 บาท/ตร.วา/เดือน

**ที่ดินเพิ่ม-ลด ตารางวาละ 61,000 บาท
โปรโมชั่นอื่นๆ โปรดสอบถามทางโครงการ*

บทสรุปโครงการ
ทำเลโดยรอบ โครงการ Sena Park Grand รามอินทรา เป็นโครงการที่ตั้งอยู่บนถนนเลียบกาญจนาภิเษก ช่วงถนนรามอินทราตอนปลาย ตัวทำเลมีความเศษความพิเศษคือ สามารถเข้าออกได้ 2 ทางคือจากถนนเลียบกาญจนาภิเษกและถนนรามอินทราโดยวิ่งผ่าน Sena Park Avenue ที่เป็นที่ดินของเสนาซึ่งตอนนี้เป็นสวนขนาดใหญ่กว่า 10 ไร่ สภาพแวดล้อมโดยรวมรอบๆโครงการเป็นโครงการบ้านเดียวข้างเคียงและที่ดินเปล่าที่รอการพัฒนา

ความอุดมสมบูรณ์ในระยะเดินถึงถือว่าแห้งแล้ง แต่ความอุดมสมบูรณ์โดยรวมค่อนข้างคึกคักมีตลาดและ Hyper Market ให้เลือกหลายจุดแต่ต้องขับรถออกมานะ นอกจากนั้นยังอยู่ใกล้กับศูนย์การค้าใหญ่อย่าง Fashion Island และ Community Mall อย่าง The Promanade

การเดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัวค่อนข้างสะดวกโดยใช้ถนนรามอินทราเป็นเส้นหลัก เพื่อเข้าไปใน Sena Park Avenue และเชื่อมกับถนนเลียบกาญจนา ซึ่งตัวถนนรามอินทราเอง เป็นถนนเส้นที่มีถนนเส้นอื่นๆมาเชื่อมอยู่ด้วยกันหลายสายอย่างถนนนวมินทร์, ถนนเกษตรนวมินทร์, ถนนเสรีไทย หรือถนนที่มาจากฝั่งนอกเมืองก็สามารถมาได้ทั้งจากถนนหทัยราษฏร์, ถนนพระยาสุเรนทร์, ถนนคู้บอน และถนนพหลโยธิน นอกจากนั้นโครงการยังอยู่ใกล้กับทางด่วนวงแหวนรอบนอกและทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์ ซึ่งสะดวกสำหรับขาเข้าเมือง ส่วนขาออกนอกเมืองก็สามารถออกจากโครงการแล้วใช้เส้นเลียบกาญจนาตรงขึ้นไปได้ถึงบางปะอิน อยุธยาเลยค่ะ

การเดินทางโดยรถสาธารณะ ถือว่าลำบากเลยค่ะ เนื่องระยะทางจากหน้าโครงการเข้ามาถึงโครงการค่อนข้างไกล ประมาณ 450 เมตร ซึ่งเกินระยะเดินสบายมานิดหน่อย เมื่อออกมาหน้าโครงการได้แล้วเนื่องจากว่าตัวโครงการอยู่บนเส้นเลียบทางด่วนจึงไม่ค่อยมีรถโดยสารสาธารณะผ่าน จะมีก็รถสองแถวจาก Fashion Island – ตลาดออเงิน นอกจากนั้นก็คงต้องพึ่งรถแท็กซี่และพี่วินที่นานๆจะผ่านมาหน้าโครงการ

ส่วนในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีชมพูช่วงแคราย – มีนบุรี ที่เชื่อมต่อกับรถไฟฟ้าสายสีส้ม(ตลิ่งชัน – มีนบุรี) และรถไฟฟ้าสายสีม่วง(บางใหญ่ – บางซื่อ) ที่จะช่วยให้การเดินทางในละแวกนี้สะดวกและประมาณเวลาในการเดินทางได้ดีขึ้น ซึ่งสถานีรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่ใกล้โครงการที่สุดจะเป็นสถานีรามอินทรา 83 และสถานีวงแหวนตะวันออก แต่เนื่องจากตัวโครงการไม่ได้อยู่เกาะแนวเส้นรถไฟฟ้าจึงต้องพึ่งรถโดยสารเพื่อไปถึงตัวสถานีก่อนค่ะ

แบบบ้าน การออกแบบมาในสไตล์ Eco Modern มีจุดเด่นตรงการออกแบบที่เน้นให้บ้านเย็น และประหยัดการใช้พลังงานของตัวบ้าน ทั้งระบบระบายความร้อนบนหลังคา และการใช้ Shading ของ Facade เพื่อกันความร้อนเข้าสู่ตัวบ้าน นอกจากนั้นยังให้ช่องแสงมาค่อนข้างเยอะรับแสงธรรมชาติเข้ามาในตัวบ้านได้มากทำให้บ้านมีความโปร่งมากขึ้น ส่วนการฟังก์ชั่นการใช้งานก็ครบถ้วน มีครัวไทยแยกมาให้เป็นสัดเป็นส่วน พื้นที่ใช้สอยโดยรวมจัดมาให้ใช้ได้อย่างลงตัวไม่รู้สึกติดขัดอะไร ในห้องนอนแต่ละห้องจัดพื้นที่มาให้เหลือๆ สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ที่จำเป็นๆได้ครบและยังมีพื้นที่เหลือ

วัสดุ ที่จอดรถหน้าบ้านเป็นพื้นคอนกรีตสแตมป์ เฉลียงหน้าบ้าน, ลานซักล้างและระเบียงเป็นกระเบื้องเซรามิคขนาด 30 x 30 ซม. พื้นภายในบ้านชั้นล่าง รวม Pantry และ ห้องครัวเป็นกระเบื้องแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ชั้น 2 ได้เป็นพื้นลามิเนตหนา 8 มม. บานประตูภายในบ้านเป็นบานประตูสำเร็จรูป HDF, บานประตูห้องน้ำและประตูซักล้างเป็น UPVC สีขาว ชนิดกันน้ำ ส่วนประตูและหน้าต่างบานเลื่อนและบานกระทุ้งทั้งหมดเป็นบานกรอบอลูมิเนียมอบขาว กระจก Green Tint สวิทช์ไฟทั้งหลังของ Bticino ไฟทั้งบ้านผสมระหว่างดาวน์ไลท์และโคมซาลาเปาทั้งหลัง ดรอปฝ้าหลุมให้ในห้องหลักๆอย่างห้องรับแขก ห้องนอนใหญ่ โถสุขภัณฑ์และอ่างล้างหน้าของ Kohler, ก๊อกอ่างล้างหน้า ฝักบัวและก๊อกใต้ฝักบัว Grohe, ที่ใส่กระดาษชำระ ที่วางสบู่และราวแขวนผ้าของ Englefield

สาธารณูปโภค ระบบรักษาความปลอดภัยมีป้อมรักษาความปลอดภัย 2 คือจุดป้อมหลักใหญ่ของเสนาใช้ไม้กระดกและซุ้มทางเข้าของโครงการเป็น Double Gate Security ทั้ง 2 จุด ใช้ Access Card ระยะใกล้ ส่วน Visitor จะใช้การแลกบัตรเข้าออก รั้วรอบโครงการสูง 3 เมตร และรั้วของบ้านและละหลังสูง 2 เมตร มีกล้อง CCTV รอบโครงการทั้งหมด 10 ตัว ถนนหลักกว้าง 12 เมตรและถนนรองในโครงการกว้าง 10 เมตร ถนนกว้างขับได้สบายๆ สำหรับส่วนกลางมีสวนสาธารณะที่จัดมาอย่างเรียบร้อยเป็นระเบียบ, Event Zone, Fitness, สระว่ายน้ำระบบเกลือขนาด 20 x 6.5 เมตร ลึก 1.3 เมตร

คะแนน

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่
TEL : 02-5087069
WEBSITE : คลิกที่นี่
หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ โปรดกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน
และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ

EP.333 รีวิว บ้านเดี่ยว ดีไลท์ แอทซีน วัชรพล-จตุโชติ Delight @ Scene Watcharapol-Jatuchot

สวัสดีค่ะ วันนี้เราจะพาไปชมโครงการบ้านเดี่ยว “Delight @ Scene วัชรพล – จตุโชติ“ จาก พฤกษา เป็นโครงการบ้านเดี่ยว จำนวน 291 ยูนิต ซึ่งมีให้เลือก 3 แบบด้วยกัน เริ่มต้นที่ขนาดพื้นที่ใช้งาน 165 ตร.ม. เริ่มต้นที่ราคา 4.93 ล้านบาท

โครงการตั้งอยู่บนถนนจตุโชติ ใกล้ทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ด่านจตุโชติซึ่งตรงนี้จะสะดวกอย่างมากต่อคนใช้ทางด่วนเพราะขาลงจะอยู่ก่อนถึงโครงการเพียงแค่ 400 ม. และขาขึ้นเพียงกลับรถใต้ทางด่วนเลยค่ะ วันนี้เราจะพาท่านผู้อ่านไปเดินสำรวจสถานที่ วิเคราะห์ทำเล และดูบ้านตัวอย่างกันค่ะ ว่าโครงการนี้เป็นอย่างไร : )

ที่ตั้งโครงการ

ถนนจตุโชติ แขวงออเงิน เขตสายไหม กทม. 10220

พิกัด google map: 13.897729, 100.686581

โครงการ ดีไลท์ แอทซีน วัชรพล-จตุโชติ Delight @ Scene Watcharapol-Jatuchot เป็นโครงการบ้านเดี่ยวตั้งอยู่บนถนนจตุโชติ ติดกับทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์ ด่านจตุโชติ โดยสามารถเข้าถึงโครงการได้สะดวกโดยใช้ทางด่วนเพราะทางขึ้นและทางลงทางด่วนอยู่ใกล้กับโครงการค่ะ หรือจะมาทางเส้นวัชรพลแล้วเข้าซอยจตุโชติก็ได้

ที่ตั้งโครงการ Delight @ Scene วัชรพล – จตุโชติ ตั้งอยู่บนถนนจตุโชติ อยู่ติดกับทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์ ถ้าพูดถึงความอุดมสมบูรณ์แล้ว โดยรอบและด้านหน้าโครงการในระยะที่เดินออกไปหาซื้ออะไรทานนั้นอาจยากหน่อยค่ะ เพราะความอุดมสมบูรณ์กระจายตัวอยู่ในเส้นสุขาภิบาล 5 จากเส้นนั้นในแผนที่จะเห็นว่ามีทั้งตลาด และ Mini Big C ซึ่งก็จะมีร้านค้าร้านอาหารอยู่สองข้างทางเลยค่ะ โดยตลาดออเงินที่ตั้งอยู่บนถนนสุขาภิบาล 5 ห่างจากโครงการประมาณ 3 กม.แต่เนื่องจากถนนหน้าโครงการเป็นถนนเดินรถทางเดียวจึงทำให้ต้องกลับรถตรงทางเลียบทางด่วนและวิ่งเข้าเส้นสุขาภิบาล 5 ก็จะกลายเป็นระยะประมาณ 7 กม.

หรือวันหยุดถ้าอยากพักผ่อน ชอปปิ้งก็สามารถไปยังเส้นรามอินทราได้เพราะห้างสรรพสินค้าอย่างเซ็นทรัลรามอินทราหรือจะไป Crytal Park หรือ The walk ซึ่งเป็นคอมมูนิตี้มอลที่ตั้งอยู่บนทางเลียบทางด่วนรามอินทรา เป็นแหล่งร้านค้าร้านอาหารมีให้เลือกสรรกันมากมายเลยค่ะ

ที่ตั้งโครงการ Delight @ Scene วัชรพล – จตุโชติ ตั้งอยู่บนถนนจตุโชติ จากเส้นจตุโชติเชื่อมต่อกับถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งเส้นสุขภิบาล 5 นั้นสามารถวิ่งเข้าวัชรพลและรามอินทราได้ค่ะ

ตัวโครงการอยู่ใกล้กับทางด่วนรามอินทรา – อาจนรงค์ ด่านจตุโชติ สะดวกต่อการใช้ทางด่วนเพราะจุดลงทางด่วนด่านจตุโชติจะอยู่ก่อนถึงโครงการประมาณ 400 ม.ทำให้เมื่อลงมาแล้วก็ตรงไปแล้วเข้าโครงการได้เลย ไม่จำเป็นต้องกลับรถ ส่วนทางขึ้นก็เพียงแค่กลับรถแล้วขึ้นอีกฝั่งแค่นั้นเองค่ะ

ตัวทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ก็เป็นเส้นทางด่วนที่เชื่อมต่อกับวงแหวนรอบนอกหรือถนนกาญจนาภิเษก จึงสามารถวิ่งไปทางปทุมธานี อยุธยา หรือจะเข้าเมืองลงตรงเส้นวัชรพล ,ลาดพร้าว หรือพระราม 9

การเดินทางสามารถไปได้สะดวกถ้าใช้เส้นทางด่วนรามอินทรา แต่วันนี้ทีมงานจะพาไปในแนวราบนะคะโดยจะเริ่มเดินทางจาก

ถนนประดิษฐ์มนูธรรม(ทางเลียบทางด่วนรามอินทรา) → ขึ้นสะพานข้ามแยกวนเข้าถ.วัชรพล – เลี้ยวขวาและเลี้ยวซ้ายวิ่งตามเส้นวัชรพล → เลี้ยวขวาเข้าถ.สุขาภิบาล5 →เลี้ยวขวาเข้าซอยจตุโชติ → ตรงเข้าไปประมาณ 2.7 กม.ก็จะเจอพื้นที่โครงการ Delight @ Scene วัชรพล – จตุโชติ แล้วค่า

วิ่งตามเส้นถนนประดิษฐ์มนูธรรม(ทางเลียบทางด่วนรามอินทรา) มาเรื่อยๆเมื่อถึงแยกที่ตัดกับถ.รามอินทราให้ชิดขวาเพื่อขึ้นทางยกระดับข้ามแยกรามอินทรา

ขึ้นมาแล้วให้ชิดซ้ายเพื่อวนลงถนนวัชรพลค่ะ

วิ่งตรงไปเข้าถนนวัชรพล

เส้นวัชรพลก็จะมีร้านค้า ร้านอาหารตามสองข้างทางตลอดแนวเพราะเป็นย่านพักอาศัย ขากลับบ้านถ้าผ่านเส้นนี้แวะซื้อกับข้าวก็สะดวกค่ะ

ตรงไปเรื่อยๆจนถึงสามแยกให้เลี้ยวขวาตามเส้นวัชรพลไป

ตรงนี้จะมีตลาดชื่อตลาดถนอมมิตรค่ะ อยู่ทางขวามือ

เลี้ยวซ้ายวิ่งตามเส้นวัชรพล

ถึงยากที่ตัดกับถ.สุขาภิบาล 5 ให้เลี้ยวขวา

เมื่อเลี้ยวมาแล้วให้ขึ้นทางยกระดับ

ลงมาชิดขวาไว้เตรียมขึ้นทางยกระดับอีกจุดนึงค่ะ

ขึ้นทางยกระดับ

วิ่งตามเส้นถนนสุขาภิบาล 5 จะมีตลาดออเงินซึ่งเป็นตลาดที่ใกล้กับโครงการมากที่สุด และจะมี Mini Big C

เลี้ยวขวาเข้าถนนจตุโชติ

เส้นจตุโชติจะมีไม่ค่อยมีร้านค้าร้านอาหาร ส่วนใหญ่จะเป็นย่านพักอาศัยเป็นโครงการหมู่บ้านจัดสรรค่ะ

ตรงมาจากปากซอยจตุโชติประมาณ 2.7 กม.ก็จะถึงโครงการค่ะ

ปากทางเข้าโครงการจะมีสะพานเล็กๆข้ามคลอง

รอบๆโครงการ

ก่อนถึงประตูทางเข้าโครงการจะมีสะพานข้ามคลอง ซึ่งคลองที่เห็นเป็นคลองเล็กๆ ภาพที่เห็นด้านบนคือคลองที่อยู่ทางด้านซ้ายของสะพานค่ะ จะเห็นว่ามีพื้นที่เปล่าติดถนน ส่วนคลองก็เต็มไปด้วยวัชพืช

ด้านขวาของโครงหรือด้านขวาของโครงการเป็นพื้นที่ดินเปล่า ตัวคลองก็มีวัชพืชลอยปิดผิวน้ำเกือบหมด

ด้านหน้าโครงการเป็นทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ เป็นถนนเดินรถทางเดียว ดังนั้นออกมาจากโครงการจึงต้องเลี้ยวซ้ายเท่านั้นนะคะ

ตรงถนนด้านขวาจะเห็นว่ามีรถวิ่งทางเดียวและมีรถเยอะพอสมควรเพราะจุดนี้เป็นจุดทางออกของทางด่วนด่านจตุโชติค่ะ

อีกด้านจะเห็นว่ามีทางกลับรถและทางวิ่งเลียบทางด่วน สามารถลัดไปถนนวงศกรและสุขาภิบาล 5 ได้ค่ะ

Delight @ Scene วัชรพล – จตุโชติ ตั้งอยู่บนถนนจตุโชติ เป็นถนนเดินรถทางเดียง มีคลองไหลผ่านด้านข้างและด้านหน้าโครงการ รอบข้างเป็นพื้นที่เปล่าและย่านพักอาศัย มีทั้งหมู่บ้าน บ้านเดี่ยว โรงเรียนและโกดังต่างๆ รอบๆจึงไม่คึกคักเท่าไหร่นักค่ะ ไม่มีร้านค้าร้านอาหารในระยะที่เดินไปได้เพราะตลาดและร้านค้าไปกระจุกตัวอยู่ตรงถนนสุขาภิบาล 5 มากกว่า เส้นนั้นจะมีทั้งตลาดสดและ mini Big C ร้านค้า ร้านกาแฟ ซึ่งเป็นแหล่งที่ใกล้ที่สุดที่จะฝากปากท้องนะคะ

สถานที่สำคัญ
– จุดขึ้นลงทางด่วนจตุโชติ ประมาณ 0.4 กม.
– แฟชั่นไอแลนด์ รามอินทรา ประมาณ 13.5 กม.
– ฺBig C ประมาณ ประมาณ 4 กม.
– โรงพยาบาลพญาไทย นวมินทร์ ประมาณ 13 กม.
– ซาฟารีเวิลด์ ประมาณ 11.5 กม.
– ตลาดออเงิน ประมาณ 2.9 กม.
– Plearnaly Mall ประมาณ 8.5 กม.
– ตลาดวงศกร ประมาณ 6 กม.
– เสถียรธรรมสถาน ประมาณ 10.1 กม.
– สนามบินดอนเมือง ประมาณ 17.7 กม.
– เซ็ลทรัลรามอินทรา ประมาณ 15.8 กม.
– ตลาดถนอมจิตร ประมาณ 9.8 กม.
– The Walk ประมาณ 10.1 กม.

ตัวโครงการ

ด้านหน้าโครงการจะมีป้ายโครงการตั้งอยู่ชัดเจน แบ่งทางเข้า-ออกด้วยป้อมยามหน้าหมู่บ้านค่ะ ประตุทางเข้าใช้โทนสีน้ำตาล มีไฟประดับให้ความสว่างอย่างทั่วถึง

ทางเข้าโครงการจะมีป้อมยาม 24 ชั่วโมง กล้องวงจรปิดจุดละ 2 ตัว คือถ่ายให้เห็นหน้าคนขับและถ่ายทะเบียนรถ ไม้กระดกและรั้วเหล็กค่ะ จะมีจุดให้สแกน Key Card Access ระยะใกล้

เข้าไปภายใน ถนนหลักจะกว้าง 16 ม.ค่ะ สองข้างทางมีฟุตบาทให้เดินสะดวก ต้นไม้ตลอดข้างทาง

ทุกหัวมุมซอยจะมีป้ายบอกซอยและกล้องวงจรปิดที่ถ่ายเข้าไปในซอย นอกซอย และถ่ายตรงถนนหลัก

ภายในซอยย่อยกว้าง 9 ม.ค่ะ จากภาพซอยย่อยจะไม่มีฟุตบาทนะคะ ตอนนี้จะเห็นว่าเริ่มมีลูกบ้านเข้ามาพักอาศัยกันบ้างแล้วค่ะ

ส่วนของส่วนกลางจะมี คลับเฮ้าส์และส่วนส่วนกลาง โดยคลับเฮ้าส์จะรายล้อมด้วยสวนอย่างที่เห็นนี้ค่ะ

สวนของโครงการมีทางเดินและลู่วิ่งสำหรับเดินเล่นและออกกำลังกายในสวน

อีกมุมของสวนค่ะ

คลับเฮ้าส์เป็นอาคารสองชั้น ออกแบบเป็นอาคารทรงสี่เหลี่ยมดูโมเดิร์น ใช้โทนสีน้ำตาล ผนังเป็นกระจกเขียวตัดแสงสูงตั้งแต่พื้นห้องจนสุดเพดานทำให้ห้องดูโปร่งและได้แสงธรรมชาติโดยไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวันเลยค่ะ

ด้านหน้าจะเป็นส่วนของสระว่ายน้ำซึ่งแยกเป็นสระเด็กและสระผู้ใหญ่ โดยสระขนาด 5.7 x 19.3 เมตร แบ่งสระเด็กลึก 0.6 เมตร สระผู้ใหญ่ลึก 1.2 เมตร

ส่วนพื้นที่นั่งริมสระ และที่ล้างตัวค่ะ

ถัดมาข้างบันไดที่จะขึ้นไปยังชั้น 2 จะเป็นส่วนของห้องน้ำซึ่งแยกเป็นห้องน้ำชายและหญิง

ภายในห้องน้ำค่ะ

ภายในชั้น 1 ของคลับเฮ้าส์เป็นพื้นที่นั่งเล่น มีโซฟาและโต๊ะให้นั่งพักผ่อน

อีกมุมก็จะได้วิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง

ฟิตเนสจะอยู่ชั้นบนค่ะวิวที่ได้ก็เป็นวิวสระว่ายน้ำและสวนส่วนกลาง ตอนนี้มีเครื่องเล่นประมาณ 7 ตัวด้วยกัน คือมีลู่วิ่ง 2 ตัว ,จักรยาน 2 ตัว,เครื่องวิ่งวงรี 1 ตัว,เครื่องออกกำลังกายขา 1 ตัวและดับเบล 1 ชุด

แบบบ้าน

ห้องในโครงการมี 3 แบบค่ะ คือ
– The Mist ขนาดที่ดิน 52.60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ
– The Forest ขนาดที่ดิน 56.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน
– The Arise ขนาดที่ดิน 81.30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม. 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องแม่บ้าน

สำหรับแบบบ้านตัวอย่างที่จะพาไปดูวันนี้จะพาไปดูทั้ง 3 แบบเลยค่ะ แต่จะดูแบบละเอียดทุกซอกทุกมุมนั้นเป็นแบบ The Mist และ The Forest เพราะแบบ The Arise ซึ่งเป็นแบบของบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากสุด ตอนนี้ตั้งเป็นสำนักงานขาย เราจึงขอเก็บภาพโดยรวมของบ้านมาให้ชมแทนละกันนะคะ

แบบแปลน The Mist แม้จะเป็นแบบบ้านที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยน้อยที่สุด แต่ก็ถือว่ากว้างขวาง พื้นที่ใช้สอยทุกส่วนครบครันไม่แออัด แบบสัดส่วนแต่ละส่วนอย่างลงตัวโดยชั้นล่างจะแบ่งพื้นที่เป็นห้องนั่งเล่น ห้องทานอาหารและห้องครัว โดยจะมีพื้นที่อเนกประสงค์อยู่ติดกับห้องนั่งเล่นค่ะ เข้ามาในตัวบ้านส่วนที่จะเจอส่วนแรกคือห้องนั่งเล่นหรือห้องรับแขก ติดกันนั้นจะเป็นส่วนอเนกประสงค์เราสามารถกั้นพื้นที่ให้เป็นห้องทำงาน หรือจะกั้นเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องก็ได้ ถัดมาเป็นส่วนทานอาหาร ซึ่งอยู่ติดกับห้องครัวและส่วนเตรียมอาหาร ตรงนี้จะมีประตูเพื่อเปิดออกไปยังที่จอดรถนอกบ้านค่ะ

ชั้นบนก็แบ่งสัดส่วนชัดเจนคือมีพื้นที่อเนกประสงค์ซึ่งสามารถทำเป็นพื้นที่ทำงานหรือพื้นที่ทำการบ้านของเด็กๆก็ได้ค่ะ ชั้นบนจะมีห้องนอนด้วยกัน 3 ห้อง ห้องน้ำ 2 ห้องโดยห้องนอนกลางและเล็กจะใช้ห้องน้ำร่วมกัน

The Mist เป็นบ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. 3 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องครัว 1 ห้องเก็บของ หน้ากว้าง 10 ม. ภายนอกใช้ทีเรียบโทนขาว เทาอ่อนค่ะ จากด้านนอกจะเห็นได้ว่ามีหน้าต่างและประตูกระจกซึ่งจะทำให้ตัวบ้านภายในสว่างแม้ไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวัน ส่วนกระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสงนะคะ

บ้านจริงที่ได้หน้าตาจะเป็นแบบนี้ค่ะ ส่วนที่จอดรถจะเทคอนกรีตขัดเรียบต่อกับถนนโครงการไปเลย รั้วเป็นสีน้ำตาลอิฐ เหล็กสีดำเป็นประตูเหล็กแบบรางเลื่อน

กลับมาดูบ้านตัวอย่างกันต่อ ด้านข้างที่ติดกับประตูหน้าบ้านจะมีหน้าต่างกระจกหลายจุดเพื่อให้ตัวบ้านได้แสงธรรมชาติเข้าไปภายใน

อีกด้านก็จะมีหน้าต่างเล็กๆเพราะเป็นส่วนของห้องน้ำชั้นล่างและห้องครัวค่ะ ส่วนด้านบนจะเป็นห้อนนอน

พื้นที่จอดรถขนาดกว้าง 4.9 x ยาว 7.3 ม. ซึ่งขนาดนี้ถ้าเป็นรถเล็กอาจจอดได้ 2 คัน แต่ถ้าเป็นรถใหญ่อาจจอดได้คันเดียวค่ะ

ประตูทางเข้าบ้านจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน มีเฉลียงทางเข้ายกระดับจากพื้นดิน กว้าง 1×3.5 ม.ค่ะ มีไฟที่เสาทั้งสองด้านและไฟดาวไลน์ตรงฝ้าเพดานด้านบน

เมื่อเปิดประตูเข้ามา ภาพแรกที่เห็นจะเป็นแบบนี้ค่ะ เป็นส่วนของห้องนั่งเล่น ที่ยาวไปจนถึงส่วนอเนกประสงค์ทำให้บ้านดูกว้างและไม่อึดอัด อีกทั้งหน้าต่างกระจกทางด้านซ้ายก็มีสามจุด ทำให้บ้านได้แสงธรรมชาติเข้ามา สามารถสังเกตได้ว่าในภาพไม่ได้เปิดไฟในบ้านเลยนะคะ แต่บ้านก็ยังดูสว่างและโปร่ง

บ้านจริงที่จะได้เป็นแบบนี้ค่ะ เราสามารถกั้นระหว่างส่วนนั่งเล่นกับส่วนอเนกประสงค์ได้ แต่ขอแนะนำว่ากั้นด้วยตู้โปร่งหรือระแนงจะทำให้ห้องดูไม่ทึบเพราะเราจะเห็นความกว้างไปจนสุดส่วนอเนกประสงค์ค่ะ พื้นบ้านที่ได้ปูด้วยแกรนิตโต้ 60×60 ซม. ผนังฉาบเรียบสีขาว ไฟดาวไลท์

มุมห้องนั่งเล่นจากภาพจะเห็นว่ามีพื้นที่เหลืออีกมาก จึงสามารถวางโซฟาตัวใหญ่กว่านี้ได้ค่ะเผื่อสมาชิกในบ้าน และแขกที่มาเยี่ยมเยียน ด้านหลังก็มีหน้าต่างเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อน

อีกด้านจะเป็นตำแหน่งวางทีวีค่ะ บ้านจริงตรงนี้จะไม่ผนังกั้นนะคะ จะเป็นพื้นที่โล่งไปเลยซึ่งเราสามารถต่อเติมเองได้หรือถ้าอยากสะดวกก็หาตู้สวยๆมาตั้ง ก็สามารถวางได้ทั้งทีวีและเป็นชั้นวางของ แต่ก็ต้องดูเรื่องสายไฟที่จะต้องต่อเข้าทีวีด้วยค่ะ

บ้านจริงที่ได้จะเป็นแบบนี้ค่ะ คือจะโล่งไปจนถึงห้องครัวเลย

หันมาดูระยะห่างระกว่างโซฟากับระยะผนังนะคะ ถ้าจะต่อเติมแบ่งบ้านให้เป็นสัดส่วน พื้นที่ก็มีเหลือเฟือให้วางโซฟาที่มีลักษณะเป็นตัว L ก็ยังได้ค่ะ

ติดกับส่วนนั่งเล่นจะเป็นพื้นที่อเนกประสงค์ ส่วนนี้สามารถกั้นเป็นห้องทำงานหรือจะกั้นเป็นห้องนอนเล็กอีกห้องได้ค่ะ แต่ถ้ากั้นด้วยระแนงไม้แบบนี้ก็จะทำให้บ้านดูเป็นสัดส่วนแต่ไม่ทำให้บ้านดูแคบลง

มุมนี้ก็จะมีหน้าต่าง 2 จุดทำให้ได้แสงธรรมชาติบ้านไม่ทึบค่ะ

เรามาดูส่วนถัดไปของบ้านกันบ้าน ส่วนนี้จะเป็นส่วนทานอาหาร ครัวไทยและพื้นที่เตรียมอาหารในบ้าน

ส่วนทานอาหารพื้นที่กว้างและสว่าง ตรงนี้สามารถวางโต๊ะทานอาหารสำหรับ 5-6 ท่านได้เลยค่ะเผือบ้านไหนแขกมาเที่ยวบ่อยๆก็ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีพื้นที่เพียงพอที่จะต้อนรับ

อีกมุมของมุมทานอาหารค่ะ ถ้าวางโต๊ะแนวขวางก็จะได้โต๊ะยาวกว่านี้

หน้าต่างกระจกบานใหญ่ กรอบอลูมิเนียมสีขาว กระจกเขียวตัดแสง มีมือจับและตัวล็อคตรงกลาง

ติดกันนั้นก็จะเป็นห้องน้ำและประตูที่เปิดไปยังที่จอดรถค่ะ เผื่อวันไหนฝนตกจอดรถเสร็จก็เดินเข้าบ้านได้สะดวก

พื้นบ้านจะยกสูงกว่าระดับพื้นที่จอดรถนะคะ จะเห็นว่าประตูตรงนี้จะมีมือจับเป็นตัว L มีตัวล็อค 3 จุดคือบนสุด ตรงกลางและด้านล่าง เพื่อความปลอดภัยค่ะ

ภายในห้องน้ำชั้น 1 ค่ะ สุขภัณฑ์ที่ได้จะเป็นแบบที่เห็นในบ้านตัวอย่างเลยนะคะ

อ่างล้างหน้ามีตู้ด้านล่างเผื่อเก็บของ ตัวอ่างเป็นของ Mogen

โถสุขภัณฑ์เป็นของ Mogen พร้อมสายชำระและที่ใส่กระดาษทิชชู่

จะมี Shower box ของ Barthroom ให้โดยพื้นจะกั้นขอบปูนขึ้นมาทำให้แยกส่วนแห้งและเปียกได้ชัดเจน ประตู Shower box เป็นแบบบานเลื่อน กระจกที่ใช้เป็นกระจกนิรภัยค่ะ

ห้องน้ำจะมีหน้าต่างเล็กๆบานเลื่อนกระจก เพื่อให้ได้แสงธรรมชาติเข้ามา ตรงข้ามฟักบัวเป็นราวแขวนผ้า ตรงนี้ถ้าให้ใช้สะดวกไม่ต้องมากลัวว่าผ้าที่แขวนไว้จะเปียก แนะนำให้ติดตั้งเพิ่มตรงนอก Shower box

ฝักบัวเป็นของ American Standard พร้อมที่วางสบู่ ดังนั้นตรงนี้อาจต้องติดตั้งชั้นวางของเพิ่มเพื่อวางแชมพูและของใช้อื่นๆค่ะ

ส่วนที่อยู่ติดกันนั้นก็จะเป็นส่วนของพื้นที่เตรียมอาหาร บ้านจริงที่ได้ตรงนี้จะไม่มีเคาน์เตอร์ให้นะคะ ต้องต่อเติมเอง ส่วนหน้าต่างที่ให้จะเห็นว่าสูงกว่าระดับเคาน์เตอร์เพื่อให้สามารถติดตั้งเคาน์เตอร์ครัวได้ถ้าต้องการ เพราะจะสะดวกเวลาใช้งานเช่นวางแค่พวกผลไม้ น้ำ หรือขนม เวลาจะหยิบทานก็ไม่ต้องเดินเข้าไปในครัว

บ้านจริงที่ได้จะเป็นแบบนี้ค่ะ คือเป็นพื้นที่โล่งให้ตกแต่งเพื่อวางเคาน์เตอร์เอง

ติดกับห้องน้ำก็จะเป็นครัวไทยค่ะ

พื้นห้องครัวจะระดับเดียวกับพื้นบ้านแต่ปูด้วยกระเบื้องขนาด 40×40 ซม.โทนสีเทาอ่อน

เข้าไปภายในจะมีหน้าต่างเล็กๆให้เพื่อให้มีแสงเข้ามาในครัว จากครัวจะมีประตูเปิดไปยังหลังบ้าน ประตูเป็นวัสดุ UPVC

ห้องจริงที่ได้จะเป็นแบบนี้ค่ะ ทางโครงการจะวางท่อไว้ให้เพื่อติดตั้งต่อกับอ่างล้างจาน

หน้าต่างบานเลื่อนกระจกเขียวตัดแสง

ประตูภายในห้องครัวเป็นประตูเปิดไปยังหลังบ้าน พื้นตรงหลังบ้านจะมีส่วนที่ปูด้วยคอนกรีตขัดเรียบ

พื้นนอกบ้านจะต่างระดับจากตัวบ้าน จะเห็นว่าข้างห้องครัวเป็นช่องไว้ให้วางเครื่องซักผ้า ตรงนี้โครงการก็จะวางท่อและเดินสายไฟไว้ให้นะคะ ติดกันนั้นที่เป็นประตูเล็กๆจะเป็นห้องเก็บของ

ภายในห้องเก็บของ เป็นห้องเก็บของใต้บันได ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม. ประตูเป็น UPVC สูง 1.5 เมตร

บันไดขั้นไปยังชั้น 2 ค่ะ

บันไดเป็นตัว L นะคะ ชานพักจะเป็นขั้นบันไดไปด้วยดังนั้นเวลาเดินก็ระวังกันนิดนึงเพราะบางคนอาจจะไม่ชินเท่าไหร่ แต่ก็มีราวจับให้ตลอดแนวทำให้เดินได้สะดวกขึ้นค่ะ

ขึ้นมาชั้นบน จะมีส่วนอเนกประสงค์ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมระหว่างห้องนอน 3 ห้อง พื้นชั้นนี้จะเป็นลามิเนตลายไม้สีเข้ม

บ้านจริงที่ได้จะเป็นแบบนี้ค่ะ

พื้นที่อเนกประสงค์ จะแบ่งเป็นส่วนนั่งเล่นชั้นบน มุมพักผ่อนเผื่อเบื่อๆที่จะอยู่ในห้องก็ออกมายืดเส้นยืดสายตรงนี้ หรือจะทำเป็นมุมอ่านหนังสือ ก็ได้ค่ะเพราะพื้นที่กว้างประมาณ 2.3×2.5ม. และมีหน้าต่างกระจกทำให้มุมนี้สว่าง

ติดกันนั้นจะเป็นห้องนอน 2 และห้องน้ำ

ในส่วนของห้องน้ำห้องนี้จะเป็นห้องที่ห้องนอน 2 และ 3 ใช้ร่วมกัน โดยจะมีประตูทางเข้าสองทางคือจากห้องอเนกประสงค์และจากทางห้องนอน 2 พื้นลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม. ลายไม้สีน้ำตาล

อ่างล้างหน้าของ Mogen ชั้นด้านล่างจะเป็นสีไม้สีน้ำตาลอ่อน

โถสุขภัณฑ์ของ Mogen ค่ะ พร้อมสายชำระและที่ใส่ทิชชู่

จะมี Shower box ของ Barthroom ให้โดยพื้นจะกั้นขอบปูนขึ้นมาทำให้แยกส่วนแห้งและเปียกได้ชัดเจน ประตู Shower box เป็นแบบบานเลื่อน กระจกที่ใช้เป็นกระจกนิรภัยค่ะ

ฝักบัวเป็นของ American Standard พร้อมที่วางสบู่ ดังนั้นตรงนี้อาจต้องติดตั้งชั้นวางของเพิ่มเพื่อวางแชมพูและของใช้อื่นๆค่ะ

คราวนี้มาดูห้องนอน 2 ซึ่งอยู่ติดกับห้องน้ำกันค่ะ ห้องนี้จะมีขนาดห้อง 3×4.6 ม. ซึ่งเป็นห้องที่มีขนาดใหญ่รองจากห้องนอน 1 ซึ่งเป็น Master bedroom

ห้องจริงที่ได้ค่ะ ห้องนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานเลื่อนเล็กๆให้ กระจกหน้าต่างบาน Fix จะอยู่อีกด้าน ห้องนี้มีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ทำให้ห้องดูสว่างค่ะ

มุมข้างห้องน้ำ สามารถวางเป็นตู้เสื้อผ้า หรือโต๊ะทำงานได้ สำหรับตู้เสื้อผ้าถ้าต้องการใบใหญ่กว่านี้อาจต้องหามุมในการวางใหม่ เพราะถ้าวางมุมนี้ก็จะปิดหน้าต่างที่อยู่เหนือโต๊ะทำงานค่ะ

เตียงสามารถวางขนาด 3.5 ฟุตหรือ 5 ฟุตก็ได้ค่ะเพราะห้องมีพื้นที่เหลือเฟือ แต่ถ้าวางเตียงเล็กจะทำให้มีพื้นที่วางโซฟาริมหน้าต่างเป็นพื้นที่พักผ่อนส่วนหนึ่งในห้อง

หัวเตียงมีระยะให้วางโต๊ะทำงานตัวใหญ่กว่านี้ และไม่เวลาอ่านหนังสือก็ได้รับแสงสว่างเพียงพอโดยไม่ต้องเปิดไฟ

ปลายเตียงมีพื้นที่ให้ติดตั้งทีวีแบบติดผนัง แม้จะมีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านได้สบายๆ แต่ถ้าวางตู้ก็จะทำให้เดินลำบาก ดังนั้นติดตั้งทีวีแบบแขวนจะสะดวกกว่าค่ะ

มาดูห้องต่อไปกันดีกว่า ห้องที่อยู่ติดกันนั้น หรือห้องที่อยู่ตรงกลางคือห้องนอน 3 ค่ะ เป็นห้องที่มีขนาดพื้นที่ใช้สอยน้อยสุด

ห้องนี้มีขนาด 2.95×3.4 ม. ห้องไม่กว้างมากดังนั้นเหมาะสำหรับเป็นห้องเด็กค่ะ วางเตียงขนาด 3.5 ฟุต ตู้เสื้อผ้าและโต๊ะอ่านหนังสือ ห้องนี้จะมีหน้าต่างกระจกให้เป็นแบบบานเลื่อนและมีบาน Fix อยู่ด้านล่างเพื่อให้ห้องดูสว่างและกว้างขึ้น

อีกมุมของห้องค่ะ ตรงด้านนี้จะมีปลั๊กและสายอากาศเผื่อติดตั้งทีวี

ห้องจริงที่ได้หน้าตาจะเป็นแบบนี้ค่ะ

ห้องสุดท้ายในบ้านหลังนี้ที่จะพามาดูคือห้องนอน 1 หรือ Master bedroom เป็นห้องนอนที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดและมีห้องน้ำในตัวค่ะ

ห้องนอนใหญ่มีขนาด 3.3×4.2 ม.เป็นห้องที่มีห้องน้ำและระเบียงในตัว ภายในห้องจะมีหน้าต่างตรงหัวเตียง 2 บานโดยเป็นบานเปิดแบบบานเลื่อน 1 บานและบาน Fix 1 บาน ส่วนประตูระเบียงจะเป็นประตูกระจกบานเลื่อน กระจกในห้องจะเป็นกระจกเขียวตัดแสง ทำให้ระดับความสว่างที่เข้ามาไม่มากจนเกินไปและทำให้สบายตามากขึ้นค่ะ

ห้องจริงที่ได้หน้าตาจะเป็นแบบนี้ ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ไฟดาวไลท์ พื้นลามิเนตสีน้ำตาลเข้ม

เตียงสามารถวางขนาด 6 ฟุตได้ โดยปลายเตียงจะเหลือพื้นที่สามารถวางโต๊ะวางทีวี หรือชั้นวางของได้ค่ะ

ข้างเตียงจะมีพื้นที่เหลือสามารถวางโต๊ะหัวเตียงหรือจะวางเป็นโต๊ะทำงานเล็กๆแบบนี้ก็ได้ค่ะ

ระยะปลายเตียงสามารถติดตั้งทีวีได้

ระเบียงจะปูด้วยกระเบื้องโทนสีน้ำตาลขนาด 30×30 ซม.

ระเบียงกว้างตลอดแนวห้องคือ 0.90×3.30 ม.

อีกด้านของห้องจะเป็นห้องน้ำค่ะ จะเห็นว่าพื้นที่หน้าห้องน้ำมีขนาดให้พอวางตู้เสื้อผ้าได้ แต่ไม่สามารถวางตู้ใหญ่ๆได้เนื่องจากจะบังสวิตซ์ไฟพอดี เพราะห้องนี้ออกแบบให้ตู้เสื้อผ้าสามารถวางในห้องน้ำได้

ภายในห้องน้ำจะเห็นว่ามีการแบ่งห้องเป็นสัดส่วนโดยแบ่งส่วนอาบน้ำและมีการกั้นฉากระหว่างส่วนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ ภายในห้องน้ำด้านขวาจะเห็นว่ามีการวางตู้เสื้อผ้า ซึ่งตรงนี้ก็มีข้อดีข้อเสียต่างกันค่ะ คือง่ายต่อการใช้งาน คืออาบน้ำเสร็จก็ไม่ต้องออกมาแต่งตัวนอกห้อง

แต่ข้อเสียคือในห้องนี้จะมีความชื้น ด้งนั้นตู้เสื้อผ้าที่จะติดตั้งควรจะเป็นตู้ที่ยกสูงจากพื้นห้องน้ำเพื่อลดความชื้นจากพื้นห้องน้ำมายังตู้เสื้อผ้า

ห้องจริงที่จะได้ค่ะ ผนังเป็นกระเบื้องสีขาวขนาด 30×30 ซม. และมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องลายหินขนาด 30×30 ซม.ซึ่งเป็นแบบเดียวกับที่ปูพื้นห้องน้ำ

อ่างล้างหน้าจะเป็นของ Mogen ด้านข้างมีหน้าต่างกระจกเพื่อให้ห้องไม่ทึบ

อีกด้านจะเป็นส่วนของโถสุขภัณฑ์และส่วนอาบน้ำ โดยส่วนอาบน้ำจะมีการกั้นขอบปูนและมี shower box เพื่อแยกให้เป็นส่วนเปียก

โถสุขภัณฑ์เป็นของ Mogen ค่ะ

ส่วนอาบน้ำ ห้องนี้จะได้ Rain shower ด้วยนะคะ

แบบแปลน The Forest เป็นบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. พื้นที่ใช้สอยครงครันและจัดได้อย่างลงตัวชั้นล่างมีห้องนั่งเล่น ห้องอเนกประสงค์ ห้องน้ำ ห้องเตรียมอาหารที่อยู่ติดกับครัวไทยซึ่งมีขนาดกว้างขวางไม่จำเป็นต้องมาต่อเติมเพิ่ม อีกทั้งแบบบ้านหลังนี้จะมีห้องแม่บ้านซึ่งมีห้องน้ำของแม่บ้านแยกออกมา โดยจะอยู่ในส่วนของหลังบ้านที่อยู่ติดกับส่วนซักล้าง

ชั้นบนมีห้องนอน 3 ห้องและทุกห้องจะมีห้องน้ำในตัว และห้องนอน 2 ห้องจะมีระเบียงส่วนตัว ตรงกลางโถงบันไดก็จะมีส่วนอเนกประสงค์อีกจุดซึ่งสามารถเป็นห้องนั่งเล่น หรืออาจทำเป็นห้องทำงานก็ได้ค่ะ

The Forest เป็นบ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องครัว 1 ห้องเก็บของ 1 ห้องแม่บ้านหน้ากว้าง 12 ม. ภายนอกใช้ทีเรียบโทนขาว เทาอ่อนค่ะ จากด้านนอกจะเห็นได้ว่ามีหน้าต่างและประตูกระจกซึ่งจะทำให้ตัวบ้านภายในสว่างแม้ไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวัน ส่วนกระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสงนะคะ

หน้าตาบ้านจริงที่ได้ค่ะ รั้วเป็นสีน้ำตาลอิฐ รั้วประตูเป็นอลูมิเนียมสีดำเป็นประตูเลื่อน ส่วนที่จอดรถจะเป็นคอนกรีตฉาบเรียบ รอบข้างบ้านจะปูหญ้าไว้ให้ค่ะ

ด้านข้างอีกมุมของบ้านด้านนี้ก็จะเห็นว่ามีหน้าต่างกระจกทั้งบานเล็กบานใหญ่

อีกมุมของบ้านที่อยู่ด้านของห้องนั่งเล่นค่ะ

ส่วนจอดรถบ้านจริงจะปูคอนกรีตฉาบเรียบ ขนาดของพื้นที่จอดรถคือ 5.4×5.8 ม.กว้างกว่าแบบเมื่อกี้ทำให้หลังนี้สามารถจอดรถคันใหญ่ได้ 2 คัน

หน้าบ้านจะมีเฉลียงยกระดับจากพื้นดินโดยมีขั้นบันได 2 ขั้นจะถึงตัวบ้านค่ะ

เข้ามาในตัวบ้านส่วนแรกที่เจอคือส่วนนั่งเล่นค่ะ ขนาดพื้นที่ความกว้างจะเท่ากับบ้านหลังเล็ก แต่เราสามารถเพิ่มระยะห่างจากโซฟาถึงชั้นวางทีวีได้เพราะบ้านจริงที่ได้จะไม่มีผนังกั้นระหว่างส่วนนั่งเล่นและส่วนทานอาหาร

บ้านจริงที่ได้หน้าตาจะเป็นแบบนี้ค่ะ บ้านจะสว่างเพราะมีหน้าต่างกระจก กรอบหน้าต่างเป็นอลูมิเนียมสีขาว ตัวกระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง พื้นปูด้วยแกรนิตโต้ขนาด 60×60 ซม. ผนังฉาบเรียบทาสีขาว ไฟดาวไลท์

ตำแหน่งวางโซฟา จะเห็นว่าสามารถวางโซฟาตัวใหญ่กว่านี้ได้ค่ะ ด้านหลังตรงผนังจะมีหน้าต่างกระจก เพิ่มความสว่างและโปร่งให้ส่วนนั่งเล่น

ระยะห่างระหว่างโซฟา และตำแหน่งวางทีวีจะเห็นว่ามีระยะห่างกันพอสมควร คือสามารถวางโซฟาตัว L และโต๊ะกาแฟหน้าทีวี ก็ยังมีที่เหลือให้เดินผ่านได้สบายๆ

ติดกันนั้นเป็นส่วนอเนกประสงค์ค่ะ มุมนี้จะทำเป็นมุมนั่งเล่น พักผ่อน มุมอ่านหนังสือ หรือจะทำเป็นมุมทำงานโดยกั้นโดยระแนงไม้โปร่งๆ เพราะถ้ากั้นเป็นผนังทึบจะทำให้บ้านดูแคบลง เพราะส่วนนี้เป็นส่วนที่เมื่อเราเปิดประตูเข้ามาก็จะเห็นผ่านจากส่วนนั่งเล่นค่ะ

มุมนี้จะมีหน้าต่าง 2 จุดเป็นหน้าต่างกระจกบานเลื่อนซึ่งมีขนาดใหญ่กว่าตรงส่วนนั่งเล่น

ติดกับส่วนนั่งเล่นจะเป็นส่วนทานอาหารและครัว ตรงนี้จะเห็นว่ามีโต๊ะทางทีวี ซึ่งบ้านจริงที่ได้ก็จะไม่มีการกั้นผนัง ดังนั้นเราสามารถเลือกตู้ใบสวยๆหรือชั้นวางเตี้ยๆไว้วางทีวี ก็ได้ค่ะ จะไม่ทำให้บ้านดูแคบด้วย

บ้านจริงที่ได้หน้าตาจะเป็นแบบนี้เลยค่ะ นั่งมองจากส่วนนั่งเล่นก็จะเห็นไปถึงส่วนทำอาหารที่อยู่ข้างห้องน้ำเลยค่ะ

มุมทานอาหาร สามารถวางโต๊ะทำหรับ 6 ที่นั่งได้ค่ะ มุมนี้จะมีหน้าต่างกระจกบานใหญ่ ทำให้เห็นสวนหน้าบ้านและได้แสงจากธรรมชาติ

ติดกันนั้นเป็นประตูไปยังส่วนจอดรถ ประตูส่วนนี้เป็นวัสดุ UPVC มือจับเป็นแบบตัว L มีตัวล็อค 3 ตัวคือด้านบนสุด ตรงกลาง และด้านล่าง

เปิดออกมาจะเจอกับที่จอดรถซึ่งลดระดับลงจากพื้นตัวบ้านค่ะ

ติดกับประตูที่จอดรถจะเห็นห้องน้ำ ตรงกลางคือส่วนเตรียมทำอาหาร และประตูด้านซ้ายมือนั่นคือครัวไทยค่ะ

ห้องน้ำชั้นล่างจะมี shower box ให้ด้วยนะคะ เผื่อมีแขกมาพักต้องใช้ห้องอาบน้ำ ก็ไม่จำเป็นต้องไปใช้ห้องน้ำส่วนตัวที่อยู่ในห้องนอน เหนืออ่างล้างหน้าจะมีกระ

พื้นห้องน้ำลดระดับจากพื้นบ้านเล็กน้อย ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.โทนสีน้ำตาลอ่อน

ภายในอ่างล้างหน้าและสุขภัณฑ์ของ Mogen พร้อมสายชำระและที่ใส่ทิชชู่ ใต้อ่างมีชั้นวางของให้

Shower box จะกั้นขอบปูนขึ้นมาเพื่อแยกส่วนเปียกและส่วนแห้ง ประตูเป็นแบบกระจกนิรภัยบานเลื่อน

ฝักบัวของ American standard มีที่วางสบู่ให้ แต่คงต้องซื้อชั้นวางมาติดตั้งเพิ่มนะคะ

ออกมานอกห้องกันบ้าง ส่วนนี้เป็นส่วนเตรียมอาหารซึ่งบ้านจริงที่ได้จะเป็นพื้นที่เปล่าๆไม่มีเคาน์เตอร์มาให้ ดังนั้นในบ้านตัวอย่างที่เห็นสามารถเอาไปเป็นไอเดียในการแต่งบ้านได้ค่ะว่าสามารถมีเคาน์เตอร์ยาวและกว้างได้ขนาดนี้เหมาะสำหรับเตรียมอาหารเล็กๆน้อยๆพวกอาหารเช้าหรือต้มต่างๆ แต่ถ้ามีเครื่องดูดควันก็ทำอาหารประเภทผัดได้แต่คงไม่ใช่แบบผัดพักบุ้งไฟแดงนะคะ

ติดกันนั้นเป็นครัวไทยโดยพื้นครัวไทย

ภายในครัวไทยขนาด 2.5×3.2 ม. สามารถวางเคาน์เตอร์ได้ทั้งสองฝั่ง ทำให้มีพื้นที่เตรียมอาหารมากขึ้น ด้านข้างสามารถเว้นไว้วางตู้เย็น ในห้องครัวจะมีหน้าต่างบานเล็กเหนือเคาน์เตอร์

บ้านจริงที่ได้ค่ะ จะเห็นว่าโครงการได้เดินท่อน้ำประปาและท่อน้ำทิ้งเตรียมไว้ให้แล้ว

ประตูที่เปิดออกไปยังหลังบ้าน เป็นวัสดุ UPVC ด้านข้างจะมีหน้าต่าง1บาน

เปิดออกมาจะเป็นส่วนข้างบ้านค่ะ สามารถเดินไปยังหลังบ้านได้

หลังบ้านจะมีส่วนซักล้าง จะเห็นว่ามีประตูสามบานโดยประตูแรกคือประตูห้องแม่บ้าน ถัดมาคือห้องน้ำแม่บ้าน และประตูห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ

ภายในห้องน้ำแม่บ้าน ปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.

ห้องเก็บของใต้บันไดค่ะ

ต่อไปเราขึ้นไปดูชั้น 2 กันบ้างนะคะบันไดเป็นโครงสร้างเหล็ก ลูกนอนเป็นไม้สำเร็จรูปทางทีน้ำตาลเข้ม

บันไดเป็นรูปตัว U ชานพักมีทั้งแบบสี่เหลี่ยมและแบบที่เป็นขั้นบันได มีราวจับตลอดแนวบันไดให้ค่ะ

ชั้นบนจะมีห้องนอน 3 ห้องแต่ละห้องมีห้องน้ำในตัว ตรงโถงบันไดจะมีมุมอเนกประสงค์ พื้นปูด้วยลามิเนตสีน้ำตาลเข้ม

มุมอเนกประสงค์ค่ะ มุมนี้จะทำเป็นมุมพักผ่อน นั่งเล่นหรือมุมทำงานก็ได้ค่ะ มีหน้าต่างกระจกหนึ่งบานเพื่อให้แสงธรรมชาติเข้ามา

บ้านจริงที่ได้ค่ะ

ข้างมุมอเนกประสงค์จะเห็นห้องนอน 2

ห้องนอน2เป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยขนาดกลางคือมีขนาดห้อง 3×5 ม.มีห้องน้ำและระเบียงส่วนตัว

ห้องจริงที่ได้ค่ะ จะเห็นว่ามีหน้าต่างกระจกสองบาน และประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานใหญ่ ทำให้ห้องนี้ดูสว่างและโปร่ง

เตียงสามารถวางขนาด 5-6 ฟุตได้ค่ะพื้นที่ข้างเตียงทั้ง 2 ด้านก็ยังมีพื้นที่เหลือให้เดินผ่านสะดวกและเหลือให้วางโต๊ะหัวเตียง

ด้านข้างกันนั้นสามารถวางโต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้า

ปลายเตียงมีที่เหลือให้เดินผ่านสะดวกหรือจะติดตั้งทีวีแบบแขวนก็ทำได้

ระเบียงห้องปูด้วยกระเบื้อง 30×30 ซม.กว้าง 1×3.3ม. ราวกันตกเป็นอลูมิเนียมสีขาว ประตูเป็นประตูกระจกแบบบานเลื่อน

อีกมุมของระเบียงค่ะ จะเห็นว่าระเบียงกว้างทีเดียวสามารถนำเก้าอี้เล็กๆมาวางไว้นั่งเล่นได้

อีกด้านของห้องที่อยู่ติดกับโต๊ะทำงานจะเป็นส่วนของห้องน้ำค่ะ

ภายในห้องน้ำพื้นลดระดับจากพื้นห้องเล็กน้อย พื้นปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม.

สุขภัณฑ์ภายในทั้งอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์เป็นของ Mogen ค่ะ

ส่วนอาบน้ำจะมี shower box ให้ค่ะ มีขอบปูนกั้นขึ้นมาเพื่อแยกส่วนเปียกและแห้ง

ฝักบัวเป็นของ American Standard พร้อมที่วางสบู่ ดังนั้นตรงนี้อาจต้องติดตั้งชั้นวางของเพิ่มเพื่อวางแชมพูและของใช้อื่นๆค่ะ

ห้องถัดไปคือห้องห้องนอน 3 ค่ะเป็นห้องที่อยู่ตรงกลางระหว่างห้องนอน 2 และห้องนอน 1

ห้องนอน 3 เป็นห้องที่มีขนาดพื้นที่น้อยสุดค่ะ แต่ก็ถือว่ายังกว้างคือ 3×3.4 ม.แต่ก็สามารถวางเตียง โต๊ะทำงานและตู้เสื้อผ้าได้ค่ะ ถือว่าวางได้ครบครันเลย

ห้องจริงที่ได้ค่ะ ห้องนี้มีหน้าต่าง 2 บานโดยแต่ละบานเป็นบานเลื่อนด้านบน ส่วนบานล่างเป็นแบบบาน fix

อีกมุมของห้องค่ะ ตรงนี้สามารถวางเตียงขนาด 3.5 ฟุต โดยปลายเตียงวางตู้เสื้อผ้าได้

มุมมุมเป็นมุมโต๊ะทำงาน ด้านขวาที่เห็นเป็นประจกเป็นช่องวางคอมเพลสเซอร์แอร์ ด้านซ้ายคือประตูห้องน้ำ

หน้าต่างตรงนี้จะจะสามารถเปิดไปได้เผื่องานซ่อมบำรุงค่ะ

ภายในห้องน้ำ ห้องนี้จะปูด้วยประเบื้องขนาด 30×30 ซม. ผนังมีการตกแต่งด้วยกระเบื้องลายไม้แบบโทนสีพาสเทล ทำให้ห้องดูสบายตาและมีสีสันค่ะ

สุขภัณฑ์ภายในทั้งอ่างล้างหน้าและโถสุขภัณฑ์เป็นของ Mogen ค่ะ

ส่วนอาบน้ำเป็น shower box มีขอบปูนกั้นเพื่อยากส่วนเปียกและแห้ง

ฝักบัวเป็นของ American Standard พร้อมที่วางสบู่ ดังนั้นตรงนี้อาจต้องติดตั้งชั้นวางของเพิ่มเพื่อวางแชมพูและของใช้อื่นๆค่ะ

ห้องสุดท้ายที่จะพาไปดูคือห้องนอน 1 หรือ Master bedroom เป็นห้องที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดค่ะ

ห้องนี้มีขนาด 3.3×5.1 ม. ภายในมีห้องน้ำและระเบียงส่วนตัว เตียงสามารถวางขนาด 5-6 ฟุตได้

ห้องจริงที่ได้ ห้องนี้มีระเบียงดังนั้นจะมีประตูระเบียงเป็นประตูกระจกบานเลื่อน มีหน้าต่างกระจกสองบานทำให้ห้องดูสว่างค่ะ

ปลายเตียงสามารถวางชั้นวางทีวีหรือจะแบ่งให้เป็นโต๊ะทำงานก็ยังมีที่เหลือให้เดินผ่านได้สะดวกค่ะ

หัวเตียงทั้งสองด้านมีพื้นที่เหลือให้วางโต๊ะหัวเตียง

มุมจากห้องน้ำไปยังระเบียงค่ะ จะเห็นว่าห้องดูกว้างและสว่างเพราะมีประตูกระจกบานใหญ่

ระเบียงปูด้วยกระเบื้องขนาด 30×30 ซม. ราวกันตกเป็นอลูมิเนียมสีขาว

ระเบียงกว้าง 1.5×3.3 ม.ค่ะ

หันไปมองอีกด้านจะเป็นห้องน้ำ ด้านหน้าจะมีพื้นที่ให้วางตู้เสื้อผ้าค่ะ

ภายในห้องน้ำจะเห็นว่ามีการแบ่งห้องเป็นสัดส่วนโดยแบ่งส่วนอาบน้ำและมีการกั้นฉากระหว่างส่วนอาบน้ำและโถสุขภัณฑ์ ภายในห้องน้ำด้านขวาจะเห็นว่ามีการวางตู้เสื้อผ้า ข้อดีคือง่ายต่อการใช้งาน คืออาบน้ำเสร็จก็ไม่ต้องออกมาแต่งตัวนอกห้อง

แต่ต้องระวังเรื่องความชื้น ด้งนั้นตู้เสื้อผ้าที่จะติดตั้งควรจะเป็นตู้ที่ยกสูงจากพื้นห้องน้ำเพื่อลดความชื้นจากพื้นห้องน้ำมายังตู้เสื้อผ้า

ห้องจริงที่ได้จะไม่ได้มีตู้เสื้อผ้ามาให้นะคะ อ่างล้างหน้าของ Mogen

พื้นห้องจะเเบ่งสัดส่วนกัน แยกส่วนแห้งและเปียกชัดเจน ส่วนเปียกจะมีขอบปูนและกั้นเป็น shower box

โถสุขภัณฑ์ของ Mogen

ฝักบัวของห้องนี้จะได้ทั้งแบบ rain shower และ hand shower ค่ะ

แบบแปลน The Arise เป็นแบบบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยมากที่สุดคือ 230 ตร.ม.และมีแบบบ้านที่มีหน้ากว้างมากที่สุดคือ 14 ม. ดังนั้นพื้นที่ใช้สอยในตัวบ้านจะมีครบครันและกว้างขวาง พื้นที่รับแขก พื้นที่นั่งเล่นก็กว้างและเป็นสัดส่วน มีห้องอเนกประสงค์ที่สามารถกั้นเป็นห้องนอนหรือห้องทำงานก็ได้ ส่วนทานอาหาร เตรียมอาหารและครัวก็มีพื้นที่ใช้สอยเพียงพอไม่แออัด ส่วนเตรียมอาหาร ตรงนี้จะมีประตูเพื่อเปิดออกไปยังที่จอดรถนอกบ้านค่ะ ที่จอดรถก็กว้างประมาณ 5.76×6.00 ม. ซึ่งถ้ามีรถใหญ่ 2 คันก็สามารถจอดได้ค่ะ

ชั้นบนก็แบ่งสัดส่วนชัดเจนคือมีพื้นที่อเนกประสงค์ซึ่งสามารถทำเป็นพื้นที่ทำงานหรือพื้นที่ทำการบ้านของเด็กๆก็ได้ค่ะ ชั้นบนจะมีห้องนอนด้วยกัน 3 ห้อง ห้องน้ำ 3 ห้องโดยแต่ละห้องจะมีห้องน้ำในตัว

สำหรับหลังนี้เราจะพาไปดูในส่วนต่างๆอย่างคร่าวๆนะคะ

The Arise เป็นบ้านเดี่ยว พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม. 3 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ 1 ห้องครัว 1 ห้องเก็บของ 1 ห้องแม่บ้านหน้ากว้าง 14 ม. ภายนอกใช้ทีเรียบโทนขาว และเทาอ่อนค่ะ จากด้านนอกจะเห็นได้ว่ามีหน้าต่างและประตูกระจกซึ่งจะทำให้ตัวบ้านภายในสว่างแม้ไม่ต้องเปิดไฟในตอนกลางวัน ส่วนกระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสงนะคะ

เข้ามาในบ้านด้านขวามือจะเป็นส่วนของห้องรับแขกหรือห้องนั่งเล่น ห้องมีความกว้างพอจะวางโซฟาตัวใหญ่ หรือโซฟาที่เป็นตัว U,L ติดกันนั้นที่เห็นกั้นห้องเป็นส่วนของห้องอเนกประสงค์ค่ะ หลังตัวอย่างหลังนี้ทำเป็นสำนักงานขาย ห้องที่เห็นก็กั้นห้องให้เป็นห้องทำงานของเจ้าหน้าที่

ส่วนด้านซ้ายของบ้านจะเป็นส่วนทานอาหาร เตรียมอาหาร ติดกับส่วนเตรียมอาหารก็เป็นครัวไทยค่ะ

พื้นที่ในครัวไทย มีการวางเคาน์เตอร์ ตู้เย็น อ่างล้างจาน ก็จะเห็นว่ามีพื้นที่ในการเตรียมทำอาหารเพียงพอ แถมถ้าติดตั้งตู้เก็บของด้านบนก็สามารถเก็บพวกจานชามหรืออาหารแห้งได้อีกเยอะเลยค่ะ

คราวนี้ขึ้นมาดูชั้นบนกันบ้าง มุมนี้คือมุมอเนกประสงค์ของชั้นบนค่ะ ทำเป็นมุมนั่งเล่นสบายๆแบบนี้ หรือจะทำเป็นมุมอ่านหนังสือ ทำการบ้านของเด็กๆก็ได้

ห้องนอน 3 เป็นห้องนอนที่มีขนาดเล็กสุดคือ 3.2×3.4 ตร.ม. แต่ก็สามารถวางเฟอร์นิเจอร์ต่างๆได้ครบทั้งเตียง ตู้เสื้อผ้า โต๊ะอ่านหนังสือ แถมยังเหลือพื้นที่ปลายเตียงทำเป็นชั้นวางของได้อีกนะคะ

ถัดมาเป็นห้องนอน 2 เป็นห้องที่มีขนาด 3×5 ม. ห้องนี้จะวางเตียง 3.5 ฟุตแบบนี้หรือจะวางเตียง 5 ฟุตก็ยังได้ค่ะ ในห้องสามารถวางโต๊ะทำงาน ตู้เสื้อผ้าและชั้นวางของ ในห้องจะมีห้องน้ำส่วนตัวและระเบียง

อีกมุมของห้องนอน 2 ค่ะ จะเห็นว่าห้องสว่างเพราะประตูระเบียงที่เป็นประตูกระจกบานใหญ่

ห้องสุดท้ายที่จะพาไปดูคือห้องนอน 1 หรือ Master bedroom เป็นห้องที่มีขนาดใหญ่ที่สุด คือ 3.25×5.90 ม. จึงทำให้ห้องนี้สามารถวางเตียง 6 ฟุตพร้อมโซฟาปลายเตียงได้อีกด้วยค่ะ ในห้องจะเห็นว่าสว่างและโปร่งมากทีเดียวเพราะมีทั้งหน้าต่างและประตูระเบียงที่เป็นกระจก

เตียงนอนมีพื้นที่เหลือด้านข้างให้เดินผ่านได้สะดวก สามารถวางโต๊ะหัวเตียงได้ ข้างกันนั้นเป็นระเบียงห้องค่ะ

ห้องนี้จะมีพื้นที่หน้าห้องน้ำซึ่งเราสามารถทำเป็น walk in closet แบบนี้ได้ ซึ่งน่าจะถูกใจคุณสาวๆทุกท่านค่ะ

ราคา (ก.พ.59)

• The Mist ขนาดที่ดิน 52.60 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 165 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 4.93 ล้านบาท
• เงินจอง+ทำสัญญา 50,000 บาท
• เงินดาวน์ 50,000 บาท

• The Forest ขนาดที่ดิน 56.20 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 200 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 5.98 ล้านบาท
• เงินจอง+ทำสัญญา 50,000 บาท
• เงินดาวน์ 150,000 บาท

• The Arise ขนาดที่ดิน 81.30 ตร.วา พื้นที่ใช้สอย 230 ตร.ม. ราคาเริ่มต้น 7.34 ล้านบาท
• เงินจอง+ทำสัญญา 50,000 บาท
• เงินดาวน์ 300,000 บาท

ที่ดินเพิ่มลด ตารางวาละ 58,000 บาท

ค่าส่วนกลาง : 25 บาท/ตร.วา/เดือน (เก็บล่วงหน้า 2 ปี) และค่ารักษามาตร

สอบถามราคาเพิ่มเติมกรุณาติดต่อสำนักงานขายเพื่อข้อมูลที่อัพเดตที่สุดค่ะ*

สรุป

ทำเลที่ตั้งโครงการ – ที่ตั้งโครงการ Delight @ Scene วัชรพล – จตุโชติ ตั้งอยู่บนถนนจตุโชติ จากเส้นจตุโชติเชื่อมต่อกับถนนสุขาภิบาล 5 เข้าไปประมาณ 2.9 กม. หรือจากทางลงทางด่วนด่านจตุโชติประมาณ 400 ม. ทำให้สะดวกต่อการเดินทาง

ความอุดมสมบูรณ์ – โครงการตั้งอยู่บนถนนจตุโชติ อยู่ติดกับทางด่วนรามอินทรา – อาจณรงค์ ถ้าพูดในแง่ความอุดมสมบูรณ์ ร้านค้าร้านอาหารที่อยู่ในระยะเดินไปหาอะไรทานได้นั้นแทบจะไม่มีเลยค่ะ เนื่องจากร้านค้าร้านอาหารจะอยู่ในเส้นสุขาภิบาล 5 ที่เชื่อมกับถนนจตุโชติ ดังนั้นลูกบ้านคงต้องฝากปากท้องตรงเส้นนี้กันบ่อย

ถ้าจะไปห้างสรรพสินค้าใหญ่ๆ จะมี Big C ตรงเส้นสุขาภิบาล 5 เช่นกันหรือจะไปเซ็นทรัลรามอินทรา ส่วนคอมมูนิตี้มอลใหญ่ๆ ก็จะอยู่ตรงเส้นทางเลียบทางด่วนรามอินทราอย่าง The Walk , The Crystal หรือ Plearnary Mall ตรงเส้นวัชรพล

โครงการ ตั้งอยู่ก่อนถึงโรงพยาบาลกรุงไทยและอยู่ตรงข้ามโรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี ในแง่ความอุดมสมบูรณ์ ระยะเดินพอหาอะไรกินได้บ้างเพราะใกล้ปั๊มน้ำมัน ใกล้โรงเรียน ใกล้โรงพยาบาล แต่ความอุดมสมบูรณ์จริงๆจะกระจุกตัวอยู่แถวห้าแยกปากเกร็ดที่ห่างจากโครงการไปประมาณ 600 เมตรและถนนแจ้งวัฒนะมากกว่าค่ะ

การเดินทางด้วยรถยนต์ส่วนตัว – สำหรับคนขับรถส่วนตัวและใช้ทางด่วนจะสะดวกเป็นอย่างมากเพราะจุดขึ้นและลงทางด่วนเข้าถึงโครงการได้ง่ายค่ะตัวทางด่วนรามอินทรา-อาจณรงค์ ก็เป็นเส้นทางด่วนที่เชื่อมต่อกับถนนกาญจนาภิเษก จึงสามารถวิ่งไปทางปทุมธานี อยุธยา หรือจะเข้าเมืองลงตรงเส้นวัชรพล ,ลาดพร้าว หรือพระราม 9 ก็ได้

ส่วนเส้นจตุโชติหน้าโครงการก็เชื่อมกับถนนสุขาภิบาล 5 ซึ่งเส้นนี้จะเชื่อมต่อกับหลายสายมากทั้งวัชรพล รามอินทราและทางเลียบทางด่วนรามอินทรา ทำให้เข้าถึงย่านชุมชนและร้านค้าได้สะดวก ช่วงรถไม่ติดก็ไม่จำเป็นต้องขึ้นทางด่วนแล้วมาใช้เส้นนี้ได้ค่ะ

การเดินทางด้วยรถสาธารณะ –การเดินทางโดยไม่ใช้รถนั้นถือว่ายังไม่สะดวกในตอนนี้เพราะเส้นทางยังไม่มีรถโดยสารประจำทางผ่าน หรือวินมอเตอไซค์ ส่วน Taxi ก็จะมีให้เรียกเป็นระยะๆ แต่มีเบอร์ Taxi ที่ใช้ประจำก็จะสะดวกกว่าต้องมารอลุ้นว่าจะมี Taxi ผ่านมาเมื่อไหร่ค่ะ

การออกแบบโครงการและวัสดุ – การออกแบบในส่วนของแบบบ้านถือว่าออกแบบได้ลงตัวและมีฟังก์ชั่นครบครันค่ะ มีส่วนต่างๆที่จำเป็นและแต่ละส่วนมีพื้นที่เพียงพอต่อการใช้งาน ไม่ดูคับแคบเกินไป ส่วนครัวก็มีใครไทยมาให้ไม่จำเป็นต้องไปต่อเติมเพิ่ม สำหรับวัสดุก็ถือว่ามาตรฐาน พื้นชั้น 1 เป็นแกรนิตโต้ ห้องน้ำและครัวไทยเป็นพื้นกระเบื้อง ชั้นบนก็เป็นลามิเนตลายไม้สีน้ำตาลเข้ม หน้าต่างกรอบเป็นอลูมิเนียมสีขาว ตัวกระจกเป็นกระจกเขียวตัดแสง ในห้องน้ำตรง Shower box ก็เป็นกระจกนิรภัยทำให้ปลอดภัยกว่ากระจกธรรมดาถ้าเกิดมีการแตกขึ้นมา ส่วนไฟในบ้านเป็นไฟดาวไลท์ทั้งหมดค่ะ

สิ่งอำนวยความสะดวก –โครงการมีระบบรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชั่วโมงและ CCTV ทั่วโครงการ ทั้งตรงประตูทางเข้า-ออกและในซอยย่อยของโครงการ ส่วนกลางมีสวนขนาด 2 ไร่ สระว่ายน้ำ ฟิตเนสและคลับเฮ้าส์ให้ค่ะ ถนนภายในกว้างขวางโดยถนนหลักกว้าง 16 ม. ถนนในซอยกว้าง 9 ม.

คะแนน

สนใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ TEL : 1739

WEBSITE : http://www.pruksa.com/pre-sale/153-delight-watcharapol-jatuchot

หากเพื่อนๆเห็นว่ารีวิวนี้มีประโยชน์ ช่วยกด Like เพื่อเป็นกำลังใจให้ทีมงาน ขอบคุณค่ะ

และมีความคิดเห็นหรือข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับตัวโครงการ สามารถ Comment ได้ที่ด้านล่างของรีวิวค่ะ